หุ้นทอง
บล.บัวหลวงชี้ช่องทางบริหารความเสี่ยงผ่านการลงทุน ETF ทั่วโลก ด้วย "ETF Model Portfolio"


หลักทรัพย์บัวหลวงชวนกระจายความเสี่ยงด้วยการจัดพอร์ตลงทุน ผ่าน ETF ทั่วโลก พร้อมแนะลงทุนตามโมเดลการลงทุน ภายใต้ชื่อ “ETF Model Portfolio” ของทีม BLS Global Investing ที่สร้างผลตอบแทนในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ย 4.68% ภายในหนึ่งเดือน


 
 
 
นายรัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการหัวหน้าฝ่าย Global Investing บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันสร้างผลตอบแทนประมาณ 5% ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น โดยดัชนีหลัก S&P 500 สร้างผลตอบแทนได้ถึง 24% ดังนั้นช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีในการกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปในหุ้นต่างประเทศ ผ่านการลงทุนใน ETF หรือ Exchange Traded Fund ที่มุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงต่างๆทั่วโลก

ขณะเดียวกันหากมองถึงแนวโน้มการเติบโตของจำนวน ETF ทั่วโลกพบว่า ในช่วงปี 2547-2561 มีการขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากในปี 2547 มีจำนวน ETF จดทะเบียนทั้งหมด 350 ตัวทั่วโลก เพิ่มเป็น 6,483 ตัวทั่วโลก ในปี 2561 นอกจากนั้นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) ก็ปรับตัวขึ้น จากระดับ 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2547 เป็น 4.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2561 หรือคิดเป็นประมาณ 9 เท่าของจีดีพีเมืองไทย สะท้อนจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนการลงทุนแบบอ้างอิงดัชนี (Passive) ที่ปรับตัวขึ้นจาก 14% เป็น 29% ในปี 2562 เทียบกับสัดส่วนการลงทุนเชิงรุก (Active) ที่ลดลงจาก 86% เป็น 71% ในปี 2562 (อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง www.hkex.com.hk)

ปัจจัยหนุนที่ทำให้การลงทุน ETF ทั่วโลกเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง คือ 1.มีค่าธรรมเนียมการจัดการ หรือค่าใช้จ่ายที่ต่ำ (Expense Ratio) สะท้อนได้จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงที่ระบุว่า ETF ตลาดสหรัฐฯ ในปี 2559 มีค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยเพียง 0.23% ขณะที่กองทุนรวมอ้างอิงดัชนี และกองทุนรวมเชิงรุก มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 0.73% และ 1.45% ตามลำดับ 2.ใช้เงินเริ่มต้นลงทุนน้อย 3.ช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุน 4.ซื้อขายสะดวกเหมือนหุ้น 5.เข้าถึงการลงทุนในหลายสินทรัพย์ 6.รู้ราคาทันที เนื่องจากสามารถซื้อขายได้ผ่านตลาดหลักทรัพย์ ต่างจากกองทุนที่ต้องรอมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) สิ้นวัน และ 7. มี ETF หลากหลายประเภทให้เลือกลงทุน เช่น ETF ที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก,ทองคำ,น้ำมัน,สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น

“ปัจจุบัน ETF ในตลาดสหรัฐฯมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมี ETF จดทะเบียน 2,062 ตัว มูลค่าตลาดกว่า 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 120 ล้านล้านบาท ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีเงินไหลเข้า ETF ในสหรัฐฯแล้วกว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 6 ล้านล้านบาท ส่วน ETF ที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง มีจำนวน 110 ตัว คิดเป็นมูลค่าตลาด 3 แสนล้านเหรียญฮ่องกง หรือคิดเป็นประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท (ตัวเลข ณ สิ้นเดือนก.ย.2562)” นายรัฐศรัณย์ กล่าว

ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนหุ้นต่างประเทศแนะนำการลงทุน ETF ทั่วโลกว่า นักลงทุนสามารถลงทุนตามพอร์ต การลงทุนของทีม BLS Global Investing ผ่านตลาดหุ้นที่หลักทรัพย์บัวหลวงเปิดให้บริการ ภายใต้ชื่อ “ETF Model Portfolio” ที่ได้จัดทำขึ้น เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2562 ซึ่งจะลงทุนใน ETF ทั้งหมด 7 ตัว เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตดี พื้นฐานแข็งแกร่ง และมูลค่าพื้นฐานเหมาะสม

โดยในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนในรูปของสกุลดอลลาร์สหรัฐ (USD) อยู่ระดับ 4.68% หรือในรูปสกุลเงินบาทที่ระดับ 4.61% (ข้อมูลผลตอบแทน ณ วันที่ 8 พ.ย. 2562) ซึ่ง ETF ดาวเด่นประจำ Portfolio ที่สร้างผลตอบแทนได้ถึงระดับ 9.4% คือ ETF iShares Global Tech (IXN) เป็น ETF ที่กระจายการลงทุนไปในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ทั่วโลก เช่น Microsoft, Apple และ VISA เป็นต้น

รองลงมาเป็น ETF iShares Core S&P BSE Sensex India (2836) ที่อิงดัชนี Sensex ของอินเดียที่สร้างผลตอบแทนได้ประมาณ 8.3% เน้นกระจายการลงทุนไปยังหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน ,พลังงาน และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น ส่วน ETF ที่สร้างผลตอบแทนได้เป็นอันดับ 3 คือ ETF Tracker Fund of Hong Kong (2800) ที่อิงดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกง ประกอบด้วย หุ้นใหญ่สภาพคล่องสูง 50 ตัว เน้นกลุ่มการเงินเป็นหลัก ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนได้ระดับ 7%

ทั้งนี้แนวโน้มการลงทุนผ่าน ETF ทั่วโลกยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งหลักทรัพย์บัวหลวงก็มีบริการลงทุนต่างประเทศง่ายๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก,ตลาดหุ้นฮ่องกงที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของเอเชีย และตลาดหุ้นเวียดนามที่มีเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง ผ่าน “ระบบซื้อขาย Global Invest” ที่มีความล้ำสมัย ครบ จบ ตอบโจทย์ทุกการลงทุนใน log-in เดียวกับหุ้นไทย ด้วยระบบจัดการเงินออนไลน์ โอน-ถอนเงินลงทุนต่างประเทศ และดูพอร์ตรวมการลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bualuang.co.th/globalinvesting หรือ โทร 02-618-1111

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 พ.ย. 2562 เวลา : 17:33:44
20-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. พรุ่งนี้ (20 เม.ย.) ราคาน้ำมันดีเซล ปรับขึ้น 50 สต./ลิตร ตามมติ กบน. มีผลเที่ยงคืนนี้

2. ตลาดหุ้นปิด (19 เม.ย.67) ลบ 28.94 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,332.08 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

5. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

6. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

10. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

14. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

15. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 2:09 pm