แบงก์-นอนแบงก์
"ออมสิน" จับมือ 56 สถาบันอุดมศึกษา ดันชุมชนกว่า 10,000 คน พัฒนาผลิตภัณฑ์ ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ฐานรากสู่ความยั่งยืน


ธนาคารออมสิน เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ปี 2562 ด้วยการยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการของชุมชนให้มีศักยภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างโอกาสในการเข้าถึงช่องทางการตลาด พร้อมต่อยอดองค์ความรู้ของชุมชนให้เข้มแข็งและยั่งยืน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศในระยะยาวต่อไป

 

 

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดโครงการความร่วมมือ ระหว่างธนาคารออมสินกับสถาบันอุดมศึกษา ภายใต้โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น และโครงการมหาวิทยาลัยประชาชน พร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อนการทำงานพลังนักศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ภายใต้ “โครงการอาสาประชารัฐ” เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ระหว่างธนาคารออมสินกับสถาบันอุดมศึกษา โดยมีผู้บริหาร คณาจารย์จากสถาบันอุดมศึกษา 56 แห่ง 411 องค์กรชุมชน และหน่วยงานภาคี ได้แก่ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมการพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร และกองทุนการออมแห่งชาติ เข้าร่วมงาน เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล พร้อมถอดบทเรียนการดำเนินงานของปี 2562 การนำเสนองานวิจัยเชิงลึก และขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันในปี 2563 

 
 
 
นางพัชลีพร วรวิบูลย์สวัสดิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าฐานรากและสนับสนุนนโยบายรัฐ เปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นการส่งมอบงานกิจกรรมเสริมสร้างและพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น ปี 2562 ภายใต้โครงการ “ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น” โดยธนาคารออมสินร่วมกับมหาวิทยาลัยนำนักศึกษาที่มีไอเดียและวิทยาการสมัยใหม่ เข้าไปช่วยคนในชุมชนปรับปรุง พัฒนาผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เกิดความแปลกใหม่ ทั้งรสชาติ คุณภาพ แพ็กเกจให้ทันสมัย เพื่อส่งเสริมศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพของกลุ่มองค์กรชุมชน ตลอดจนยกระดับผลิตภัณฑ์หรือบริการให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้การทำงานร่วมกันให้กับเยาวชน ซึ่งจะก่อให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกลุ่มองค์กรชุมชน สถาบันการศึกษา และธนาคารออมสิน
 
 
 
 
 
 
สำหรับการดำเนินงานในปี 2562 มีสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วมโครงการ 56 แห่งทั่วประเทศ นักศึกษา 3,920 คน กลุ่มองค์กรชุมชน 411 กลุ่ม มีสมาชิกและผู้รับประโยชน์ 2,800 ครัวเรือน กว่า 10,000 คน ได้พัฒนาศักยภาพด้านการตลาด การผลิต การบัญชี และช่องทางการจัดจำหน่าย จนทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักศึกษาเห็นคุณค่าของทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น สามารถฝึกทักษะการเป็นผู้ประกอบการ และมีโอกาสพัฒนาเป็นอาชีพ เพื่อมีรายได้เลี้ยงตนเองต่อไป ทั้งนี้เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณแก่นักศึกษาและกลุ่มองค์กรชุมชน ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการ จึงได้มอบรางวัล Best of the Best ให้กับนักศึกษาที่มีผลงานยอดเยี่ยม จำนวน 6 ทีม แบ่งเป็น 6 ประเภท ได้แก่ ประเภท กินดี จาก วิสาหกิจชุมชนฉัตรหลวง (ข้าวแต๋นแบบแท่ง) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, อยู่ดี จาก ว.ทวีฟาร์ม (ฟาร์มสเตย์หมูออร์แกนิคหนองโน Agro Life) มหาวิทยาลัยขอนแก่น, สวยดี จาก วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรสร้างสรรค์ (เซรั่มเห็ด 3 ชนิด) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, ดูดี จาก วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์ทำมือบ้านจงเจริญ (ผ้าปักมือ Hug Village) มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย, รักษ์ดี จาก กลุ่มตีเหล็กบ้านใหม่ (มีดไทยโบราณ) มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และ คิดดี จาก วิสาหกิจชุมชนบ้านคลองไทร (ผักเคล ready to eat) สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และได้มอบรางวัล The Best ให้แก่ทีมนักศึกษาและกลุ่มองค์กรชุมชนอีกจำนวน 50 ทีมด้วย นอกจากนี้ภายในงานสถาบันอุดมศึกษาได้ร่วมกับองค์กรชุมชน นำผลิตภัณฑ์/บริการ ที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจากโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่นและโครงการมหาวิทยาลัยประชาชน มาจัดแสดงและจำหน่าย พร้อมกับบูธนิทรรศการของธนาคารออมสิน
 
 
 
 
 
“ผลสำเร็จของโครงการดังกล่าว สามารถเสริมสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้แก่กลุ่มองค์กรชุมชน โดยในช่วงระยะเวลา 6 เดือนของการดำเนินโครงการ ชุมชนมีค่าใช้จ่ายลดลง รายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายสินค้าและบริการถึง 300% มีช่องทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์มากขึ้น มีวินัยทางการเงิน อีกทั้งยังได้รู้จักวิธีการจดบันทึกบัญชีรายได้ รายจ่าย อย่างเป็นระบบ และสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะช่วยส่งผลต่อความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน” นางพัชลีพร กล่าว
 
 
 
 
 
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการที่ธนาคารออมสินได้ร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 56 แห่งทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้แก่ผู้มีรายได้น้อย โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาระบบเศรษฐกิจระดับชุมชนให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน ผ่านกลไก 3 สร้าง คือ สร้างความรู้/อาชีพ เพื่อฝึกอบรมอาชีพให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านโครงการมหาวิทยาลัยประชาชน สร้างตลาด/รายได้ เพื่อพัฒนาและยกระดับการศึกษา สร้างภาวะความเป็นผู้ประกอบการให้กับนักศึกษา ผ่านโครงการ GSB Startup Academy และ สร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อเสริมสร้างพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น โดยให้นักศึกษาเข้าร่วมการพัฒนาวิสาหกิจชุมชน หรือ กลุ่มโอทอป ด้วยการนำความรู้สมัยใหม่ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ชุมชน ก่อให้เกิดการพัฒนา สร้างรายได้และอาชีพให้แก่สมาชิกในชุมชน
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 พ.ย. 2562 เวลา : 00:13:14
18-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ค่าเงินบาทเปิดวันนึ้ (18 เม.ย.67) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 36.78 บาทต่อดอลลาร์

2. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.65-36.95 บาท/ดอลลาร์

3. พรุ่งนี้ (18 เม.ย. 67) ราคาน้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ปรับขึ้น 40 สต./ลิตร

4. ตลาดหุ้นปิด (17 เม.ย.67) ลบ 29.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,366.94 จุด

5. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า(17 เม.ย.67) ลบ 30.34 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,366.04 จุด

6. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับระยะสั้นที่ระดับ 2,365 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,400 เหรียญ

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.55-36.80 บาท/ดอลลาร์

8. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (16 เม.ย.67) พุ่ง 24.80 เหรียญ นักลงทุนแห่ซื้อทองสินทรัพย์ปลอดภัย

9. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (16 เม.ย.67) บวก 63.86 จุด ประธานเฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยสูง

10. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนอง 10% ลมกระโชกแรงบางแห่ง

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (17 เม.ย.67) อ่อนค่าลงที่ระดับ 36.69 บาทต่อดอลลาร์

12. ทองเปิดตลาด (17 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,900 บาท

13. ตลาดหุ้นไทยเปิด (17 เม.ย.67) ลบ 17.71 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,378.67 จุด

14. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (11 เม.ย.67) ลบเล็กน้อย 2.43 จุด

15. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (11 เม.ย.67) พุ่งขึ้น 24.30 เหรียญ หลังดัชนี PPI ต่ำกว่าคาดหนุนเฟดลดดอกเบี้ยเร็วสุด ก.ค.67

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 18, 2024, 12:04 pm