กองทุนรวม
''ทิสโก้ ไบโอเทค'' สร้างผลตอบแทนเด่นท่ามกลางวิกฤติ รับอานิสงส์ความต้องการยา - วัคซีนรักษาโรค


บลจ.ทิสโก้ ปลื้ม NAV กองทุนเปิด ทิสโก้ ไบโอเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ ปรับขึ้น 35.94% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อเดือนมี.ค. 63 รับอานิสงส์ความต้องการ และค้นพบยา - วัคซีนรักษาโรคอุบัติใหม่ที่มีความรุนแรง, ซับซ้อน, โรคหายยาก และเมกะเทรนด์ผู้สูงอายุ ชี้นักลงทุนควรพลิกวิกฤติ COVID -19 ระบาด - เศรษฐกิจซบ ให้เป็นโอกาสทองของการลงทุนระยะยาวใน ‘อุตสาหกรรมแห่งอนาคต’   
 

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) เปิดเผยว่า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้เสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไบโอเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ (TBIOTECH) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) การวินิจฉัยโรค และเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตทั่วโลก ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยเป็นกองทุนเฮลธ์แคร์ที่มีความแตกต่างเนื่องจากเน้นลงทุนในกลุ่มไบโอเทคโนโลยีทางการแพทย์ และยังสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้นักลงทุนได้อย่างโดดเด่น ขณะที่นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 (ตามข้อมูลของ บลจ.ทิสโก้ ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2563) กองทุนมีผลตอบแทนย้อนหลัง 35.94% เป็นอีกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของ COVID-19  ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นทั่วโลก 
 
ขณะที่หากเปรียบเทียบกับดัชนีชี้วัด (Benchmark) ของกองทุน TBIOTECH ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งคำนวนจากค่าเฉลี่ยระหว่างผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหลักปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคำนวณผลตอบแทนให้อยู่ในรูปสกุลเงินบาท ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 ในสัดส่วน 95% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี วงเงินน้อยกว่า 5 ล้านบาท เฉลี่ยของ 3 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ หลังหักภาษีในสัดส่วน 5% พบว่า ดัชนีชี้วัดมีผลตอบแทนย้อนหลังอยู่ที่ 35.56% ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต  
 
“จะเห็นได้ว่าการลงทุนในกลุ่มหุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ ’ไบโอเทคโนโลยีทางการแพทย์’ มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีแม้กระทั่งในช่วงเวลาที่มีปัจจัยลบรุมเร้า เพราะนอกจากเป็นกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเมกะเทรนด์ของโลกอย่างสังคมผู้สูงอายุ และแนวคิดการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันที่เกิดขึ้นทั่วโลกแล้ว ไบโอเทคโนโลยีการแพทย์ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางชีวภาพแห่งอนาคตยังได้รับประโยชน์โดยตรงจากความต้องการยา วัคซีน และผลิตภัณฑ์ สำหรับป้องกันและรักษาโรคอุบัติใหม่ที่มีความรุนแรง ซับซ้อนและหายยากอีกด้วย เช่น โรคมะเร็ง ซาร์ส และไวรัส COVID-19 เป็นต้น จึงแนะนำให้นักลงทุนกระจายพอร์ตการลงทุนระยะยาวบางส่วน มาลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่น่าสนใจเช่นนี้” นายสาห์รัชกล่าว 
 
นอกจากนี้ ราคาของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพยังมีโอกาสที่เพิ่มขึ้นได้อีกจากปัจจัยบวกเรื่ององค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) มีอัตราการอนุมัติให้ผู้ประกอบการสามารถวางจำหน่ายยาชนิดใหม่เพิ่มขึ้นโดยตลอด ส่งผลให้บริษัทไบโอเทคโนโลยีมีแนวโน้มว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นหากสามารถคิดค้นยาชนิดใหม่ออกมาวางจำหน่าย และบริษัทที่มีศักยภาพสูงมักถูกซื้อกิจการจากบริษัทขนาดใหญ่ (ที่มา: Polar Capital Funds plc) ทำให้มีโอกาสที่มูลค่าของหุ้นที่กองทุนเข้าไปลงทุนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 
 
พิเศษสำหรับลูกค้าที่มียอดเงินลงทุนในกองทุน TBIOTECH ระหว่างวันที่ 5-20 พฤษภาคม 2563 ตั้งแต่ 500,000 – 4,999,999 บาท จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรระยะสั้น (TISCOSTF) มูลค่า 500 บาท และยอดเงินลงทุนตั้งแต่ 5,000,000 – 9,999,999 บาท จะได้รับหน่วยลงทุน TISCOSTF มูลค่า 6,000 บาท และยอดเงินลงทุนตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป รับทองคำหนัก 2 สลึง มูลค่าประมาณ 13,400 บาท (1 ท่าน ต่อ 1 สิทธิ์) 
ทั้งนี้ กองทุน TBIOTECH เป็นกองทุนที่ลงทุนผ่านกองทุน Polar Capital Funds plc - Biotechnology ชนิดหน่วยลงทุน I US Dollar (กองทุนหลัก) โดยกองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก และกองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนรวม โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนที่ได้เปิดเผยไว้ที่ www.tiscoasset.com  และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือขอรับหนังสือชี้ชวน บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
 

บันทึกโดย : วันที่ : 13 พ.ค. 2563 เวลา : 11:17:00
19-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 เม.ย.67) ลบ 25.09 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,335.93 จุด

2. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 2,385 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,425 เหรียญ

3. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.20%

4. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวก 9.60 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

5. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (18 เม.ย.67) บวกแค่ 22.07 จุด เจ้าหน้าที่เฟดตบเท้าหนุนไม่ควรรีบลดดอกเบี้ย

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 36.75-37.05 บาท/ดอลลาร์

7. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 เม.ย.67) ลบ 20.39 จุดดัชนีอยู่ที่ 1,340.63 จุด

8. ทองเปิดตลาด (19 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 42,500 บาท

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 36.85 บาทต่อดอลลาร์

10. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 18 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนราษฎร์บูรณะ

11. ตลาดหุ้นปิด (18 เม.ย.67) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.02 จุด

12. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (18 เม.ย.67) บวก 1.83 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,368.77 จุด

13. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในทุกภาครวมทั้งกรุงเทพปริมณฑล 10% เว้นภาคใต้ ฝั่ง ตอ.ฝน 20%

14. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (17 เม.ย.67) ร่วง 19.40 เหรียญ กังวลเฟดชะลอลดดอกเบี้ย

15. ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (17 เม.ย.67) ลบ 45.66 จุด กังวลทิศทางดอกเบี้ยเฟด-ผิดหวังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 1:25 pm