หุ้นทอง
10 เรื่องต้องรู้เมื่อลงทุน "หุ้นเพิ่มทุน"


เชื่อว่าในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนหลายๆ ท่านคงจะได้ยินคำว่า “การเพิ่มทุน” อยู่บ่อยครั้ง นักลงทุนหลายท่านอาจจะรู้จักอยู่แล้ว แต่เชื่อว่ายังมีนักลงทุนที่ยังไม่ทราบ หรือยังไม่ค่อยเข้าใจดีนัก ว่าการเพิ่มทุนคืออะไร? เราควรซื้อหุ้นเพิ่มทุนด้วยหรือไม่ และการเพิ่มทุนจะกระทบกับนักลงทุนอย่างไร? วันนี้เรามาดู 10 เรื่องต้องรู้เมื่อลงทุน “หุ้นเพิ่มทุน” กันครับ

 
 
1.การเพิ่มทุน คืออะไร
 
การเพิ่มทุน (Capital Increase) คือ การที่บริษัทระดมทุนอีกครั้งจากผู้ถือหุ้น ด้วยการออกหุ้นใหม่เพิ่มเติมจากหุ้นเดิมที่มีอยู่แล้ว หรือที่เรียกว่า “หุ้นเพิ่มทุน” และนำมาจำหน่ายสู่ตลาดให้แก่ผู้ที่สนใจ เช่น ผู้ถือหุ้นเดิม ผู้ลงทุนสถาบัน หรือ ผู้ลงทุนทั่วไป โดยสิทธิประโยชน์ของหุ้นเพิ่มทุนจะเหมือนกับหุ้นเดิมทุกประการ
 
2.ทำไมบริษัทต้องเพิ่มทุน 

ในทางธุรกิจแล้วการที่บริษัทต้องการเงินเพิ่มเพื่อมาดำเนินธุรกิจนั้นมีทางเลือกได้หลากหลายวิธี เช่น กู้เงินจากธนาคาร ออกหุ้นกู้ วอแรนท์ หรือ การเพิ่มทุน ซึ่งการจัดหาเงินแบบกู้จากธนาคาร และออกหุ้นกูนั่น บริษัทต้องเสียดอกเบี้ย ในทางกลับกัน การเพิ่มทุน ไม่เสียดอกเบี้ย สาเหตุที่บริษัทต้องการใช้เงินนั่นก็มีแตกต่างกันไป เช่น นำไปขยายกิจการ นำไปชำระหนี้ หรือแม้แต่นำไปล้างขาดทุนสะสม
 
3.การเพิ่มทุนมีกี่แบบ
 
หุ้นเพิ่มทุนนั้น อาจเสนอขายให้แก่ทั้งผู้ถือหุ้นเดิมและผู้ถือหุ้นใหม่ โดยมี 4 แบบดังนี้ 
 
1. การเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering : RO) หมายถึงการขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมทุกราย ตามสัดส่วนการถือครองหุ้น
 
2. การเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement : PP) หมายถึง การขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัด ไม่เกิน 50 ราย หรือมูลค่าเสนอขายไม่เกิน 20 ล้านบาท ภายในรอบ 12 เดือน หรือเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน
 
3. การเสนอขายให้แก่ประชาชน (Public Offering : PO) หมายถึง การขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป โดยจะทำกันในบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เพราะถ้าเป็นบริษัทเอกชนทั่วไป จะไม่สามารถระดมทุนจากสาธารณะได้
 
4. การเสนอขายแบบ (Preferential Offering : PPO) หมายถึง การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในลักษณะเป็นการทั่วไป โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ที่จะซื้อหุ้นต้องเป็นผู้ถือหุ้น ของบริษัทและจำนวนการจองซื้อไม่เกินกว่าสัดส่วนการถือหุ้น โดยเป็นการเสนอขายตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่ให้เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน แต่จะไม่เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ
 
4.รู้จัก Dilution Effect

Dilution effect หมายถึง ผลกระทบที่ทำให้ผู้ถือหุ้นเดิมมีสัดส่วนการถือหุ้นหรือมีความเป็นเจ้าของในบริษัทน้อยลง รวมถึงส่วนแบ่งกำไร และเงินปันผลที่จะได้รับก็จะได้ลดลง ตามสัดส่วนที่ได้มีการออกหุ้นเพิ่มทุน
 
5.ผลกระทบต่อกำไรต่อหุ้น
 
เมื่อมีการเพิ่มทุน ก็จะทำให้มีจำนวนหุ้นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการที่มีหุ้นเพิ่มมากขึ้น ทำให้กำไรต่อหุ้นลดลงและผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ก็จะลดลงด้วย ยกตัวอย่างเช่น เค้กหนึ่งก้อนเท่าเดิม แต่มีคนมากินเพิ่มขึ้น ทำให้เรากินเค้กได้น้อยลงนั่นเอง
 
6.ผลกระทบต่อราคาหุ้น

แน่นอนว่าราคาหุ้นขึ้นอยู่กับผลกำไรของกิจการ การที่กำไรต่อหุ้นลดลง เนื่องจากหุ้นมีจำนวนเยอะขึ้น ย่อมทำให้ราคาหุ้นลดลง
               
 
7.ประมาณราคาหลังเพิ่มทุนยังไง ?
 
เราสามารถประมาณราคาหลังเพิ่มทุนโดยใช้สูตรการคำนวณราคา Dilution หลังการเพิ่มทุนดังนี้

ยกตัวอย่างเช่น
 
หุ้น XYZ ประกาศเพิ่มทุนในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ โดยให้สิทธิซื้อหุ้นในราคา 1 บาทต่อหุ้น และจะขึ้นเครื่องหมาย XR ในวันที่ 20/09/2565
 
ราคาปิดวันที่ 19/09/2565 อยู่ที่ 4.00 บาทต่อหุ้น (ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XR)
 
พอวันที่ 20/09/2565 ราคาปิดลดลงมา 25% เหลือเพียง 3.00 บาทต่อหุ้น
 
ซึ่งถ้าเราลองประมาณการจากสูตร จะได้ค่าดังนี้
 
ราคาหุ้นหลังเพิ่มทุน = {(2 x 4.00) + (1 x 1)}/ (2 + 1) = 3.00 บาท
 
จะเห็นว่าราคาที่ออกมาจะเทียบเท่า หรือใกล้เคียงกันเลย
 
 
 
8.ถ้าเราไม่เพิ่มทุนหุ้นที่ถือ จะเกิดอะไรขึ้น 
 
หากเราเลือกที่จะไม่เพิ่มทุน เมื่อหุ้นมีการเพิ่มทุนไปแล้ว พอร์ตการลงทุนของเราจะได้รับผลกระทบจากราคาหุ้นที่ลดลงตามสัดส่วนของจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น หรือที่เรียกกันว่า “Dilution Effect” นั่นเอง
 
9.อยากได้หุ้นเพิ่มทุน ต้องซื้อวันไหน
 
การซื้อหุ้นในวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XR นักลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน หากอยากได้หุ้นเพิ่มทุน ต้องซื้อหุ้น ก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XR
 
10. เพิ่มทุนครั้งนี้ดีหรือร้าย ดูยังไง
 
โดยปกติแล้ว เมื่อบริษัทมีการประกาศเพิ่มทุน มุมมองของนักลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นเชิงลบ และมักจะขายหุ้นออกไปก่อน แต่อย่างไรก็ตามการเพิ่มทุนก็ไม่ใช่เรื่องร้ายเสมอไป หากเราเชื่อว่าเงินเพิ่มทุนที่ได้มานั้น บริษัทจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ และสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคต ดังนั้นเมื่อเรารับรู้ว่าบริษัทนั้นจะมีการเพิ่มทุน เราก็ควรที่จะศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนก่อนว่า บริษัทนั้นจะนำเงินไปทำอะไรบ้าง และสิ่งที่จะทำนั้นสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทได้หรือไม่นั่นเอง

สรุปจากรูปเราจะเห็นว่าสิ่งสำคัญคือเมื่อเรามีหุ้นเพิ่มทุน เราต้องพิจารณาบริษัท รวมถึงงบการเงิน ว่าเมื่อมีการเพิ่มทุนแล้ว บริษัทมีแนวโน้มที่ดีหรือไม่ จะสามารถสร้างผลกำไรที่ดีได้ในอนาคตหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เลือกลงมือจัดการกับหุ้นที่เรามีได้อย่างถูกวิธี ว่าเราจะเลือกที่จะชำระหุ้นเพิ่มทุน หรือขายออกก่อนวันขึ้น XR อย่างใดอย่างหนึ่ง อย่าปล่อยทิ้งไว้ไม่สนใจ เพราะเมื่อหุ้นมีการเพิ่มทุนไปแล้ว พอร์ตการลงทุนของเราจะได้รับผลกระทบจากราคาหุ้นที่ลดลงตามสัดส่วนของจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น หรือที่เรียกกันว่า “Dilution Effect” นั่นเอง สุดท้ายนี้เชื่อว่าบทความนี้จะสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่นักลงทุนได้รู้จักหุ้นเพิ่มทุนกันไม่มากก็น้อย
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ต.ค. 2565 เวลา : 14:25:31
25-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

3. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ลบ 42.77 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด บดบังผลประกอบการ บจ.แกร่ง

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ร่วง 3.70 เหรียญ นักลงทุนคลายกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

6. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่งตต. 20% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 10%

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 37.00-37.25 บาท/ดอลลาร์

8. ทองเปิดตลาด (25 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,300 บาท

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนึ้ (25 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.08 บาทต่อดอลลาร์

10. ตลาดหุ้นไทยเปิด (25 เม.ย.67) ลบ 2.13 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,358.97 จุด

11. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

12. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

14. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

15. ทองนิวยอร์ก ปิดเมื่อคืน (23 เม.ย.67) ร่วง 4.30 เหรียญ คลายความกังวลตะวันออกกลาง-จับตาเงินเฟ้อและGDPสหรัฐ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 4:25 pm