เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
คลังเผย แผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2565 ? 2570)


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันอังคารที่ 31 มกราคม 2566 คณะรัฐมนตรีได้รับทราบแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2565 – 2570) (แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญ สรุปได้ ดังนี้


แผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) (แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 3) ได้สิ้นสุดลงในปี 2564 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทย (คณะทำงานฯ) เพื่อดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 ซึ่งคณะทำงานฯ ได้ประชุมหารือ รวมทั้งได้พิจารณารับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดทำหลักการของร่างแผนพัฒนา ตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 และต่อมากระทรวงการคลังได้นำเสนอร่างหลักการการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบในคราวเดียวกับการรายงานสรุปผลการดำเนินการภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 3 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565

แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 มีพัฒนาการที่สานต่อจากแผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 3 โดยคำนึงถึงปัจจัยความท้าทายและทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจโลก (Mega Trends) ที่ส่งผลกระทบ ต่อตลาดทุนในหลายด้านที่สำคัญ อาทิ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สังคมสูงวัย ภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ เป็นต้น รวมทั้งมุ่งเน้นการสร้างภูมิทัศน์ของภาคตลาดทุนไทย ในอนาคตให้ตอบสนองเป้าหมายการขับเคลื่อนใน 7 ด้าน ได้แก่ 1) ความยั่งยืนของระบบเศรษฐกิจและการจัดสรรเงินทุนภายในประเทศได้อย่างเหมาะสม (Domestic Fund Mobilization) 2) การเติบโตเชิงคุณภาพ (Quality Growth) และการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในตลาดทุนประกอบธุรกิจอย่างมีจริยธรรม 3) การให้ความสำคัญกับการเข้าถึงตลาดทุน ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและวิสาหกิจเริ่มต้น (Small and Medium-size Enterprises: SMEs/Startup) และผู้ลงทุนรายย่อยในการใช้ประโยชน์จากตลาดทุนมากขึ้น 4) ตลาดทุนสามารถบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายมากขึ้น อาทิ ตำแหน่งในระดับสากล การเข้าถึงตลาดทุนของผู้ระดมทุนและผู้ลงทุนเพื่อการใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้มากขึ้น เป็นต้น 5) การใช้ประโยชน์จากดิจิทัลและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลร่วมกัน 6) ความสอดคล้องกัน (Harmonization) ระหว่างสินทรัพย์ดั้งเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการสอดประสานและร่วมมือกันของหน่วยงานกำกับดูแล (Cross-Discipline) และ 7) สาธารณชนมีความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย (Public Trustworthiness)

เพื่อให้แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 สามารถพัฒนาภาคตลาดทุนไทยได้อย่างต่อเนื่องจาก แผนพัฒนา ตลาดทุนฯ ฉบับที่ 3 โดยรองรับปัจจัยความท้าทายและโอกาส รวมทั้งตอบสนองเป้าหมายการขับเคลื่อนภูมิทัศน์ของ ภาคตลาดทุนไทยทั้ง 7 ด้านข้างต้น แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 จึงกำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจไว้ ดังนี้

วิสัยทัศน์ : ตลาดทุน (กำลัง 4) เพื่อการพลิกฟื้นทางเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างแข็งแรง 1) “สานต่อ” ตลาดทุนให้เป็นผู้นำระดับภูมิภาค 2) “ส่งเสริม” ทุกภาคส่วนให้เติบโตอย่างยั่งยืน 3) “สนับสนุน” ทุกภาคส่วนให้ปรับสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และ 4) “เสริมสร้าง” ความอยู่ดีมีสุขทางการเงินของประชาชน

พันธกิจ : ได้แก่ 1) ตลาดทุนเพื่อการแข่งขันได้ 2) ตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน 3) ตลาดทุนดิจิทัล 4) ตลาดทุนเพื่อความอยู่ดีมีสุขทางการเงิน และ 5) ตลาดทุนที่ทุกฝ่ายได้ใช้ประโยชน์/เข้าถึงได้

แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 ประกอบด้วย 5 ยุทธศาตร์ โดยแบ่งเป็น 29 แผนงาน เพื่อรองรับการบรรลุวิสัยทัศน์และพันธกิจข้างต้น ได้แก่

ยุทธศาสตร์ที่ 1 ตลาดทุนเพื่อการแข่งขันได้ (Competitiveness) เป็นการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของทุกภาคส่วนในตลาดทุนไทยและระบบเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 11 แผนงาน โดยมีแผนงานที่สำคัญ เช่น การแก้ไขพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ที่ 2 ตลาดทุนที่เข้าถึงได้ (Accessibility) เป็นตลาดทุนที่เอื้อให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ ประกอบด้วย 8 แผนงาน โดยมีแผนงานที่สำคัญ เช่น การสนับสนุนให้กลุ่มธุรกิจเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต (New Economy) กลุ่มธุรกิจที่เน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาต่อยอด จากอุตสาหกรรมเดิมเพื่อให้เติบโตต่อไปได้ในอนาคต (New S-curve) และกลุ่มธุรกิจด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) การระดมทุนผ่าน LiVE Exchange ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์สำหรับ SMEs และ Startup เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ที่ 3 ตลาดทุนดิจิทัล (Digitalization) เป็นการส่งเสริม ประยุกต์ และใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลในตลาดทุน ประกอบด้วย 6 แผนงาน โดยมีแผนงานที่สำคัญ เช่น โครงการ Digital Infrastructure (DIF) เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานกลางในตลาดทุน เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ที่ 4 ตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) เป็นการมุ่งเน้นส่งเสริมความยั่งยืนของ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนไทยและระบบเศรษฐกิจในระยะยาว ประกอบด้วย 1 แผนงาน ได้แก่ มาตรการส่งเสริมและพัฒนาให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างยั่งยืน (ESG)

ยุทธศาสตร์ที่ 5 ตลาดทุนเพื่อความอยู่ดีมีสุขทางการเงิน (Financial well-being) เป็นการมุ่งเน้น สร้างผลลัพธ์ทางการเงินที่ดี รวมถึงการสร้างโอกาสในการลงทุน โดยมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ประกอบด้วย 3 แผนงาน โดยมีแผนงานที่สำคัญ เช่น การพัฒนาทักษะทางการเงินของคนไทย (Financial Literacy) ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน พ.ศ. 2565 – 2570 การปรับปรุงพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 เป็นต้น

แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 จะมีบทบาทในการผลักดันยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติจริงผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วน อันจะส่งผลให้ตลาดทุนไทยเป็นกลไกในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพและสมดุล รวมทั้งมีส่วนช่วยรักษาการเติบโตและสร้างการเติบโตรูปแบบใหม่ (New Growth) จากกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ส่งเสริมความยั่งยืนและเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นแหล่งสะสมความมั่งคั่ง (Wealth) ให้แก่ผู้ร่วมตลาด และมีความยืดหยุ่นต่อความเสี่ยงและภัยคุกคาม

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 31 ม.ค. 2566 เวลา : 17:19:24
25-04-2024
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (25 เม.ย.67) บวก 3.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,364.27 จุด

2. ประกาศ กปน.: 29 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบ้านบางไผ่-บ้านหนองเพรางาย

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 เม.ย.67) บวก 1.72 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,362.82 จุด

4. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 2,290-2,330 เหรียญ

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ลบ 42.77 จุด บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด บดบังผลประกอบการ บจ.แกร่ง

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 เม.ย.67) ร่วง 3.70 เหรียญ นักลงทุนคลายกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

7. ประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่งตต. 20% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคอีสาน-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 10%

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 37.00-37.25 บาท/ดอลลาร์

9. ทองเปิดตลาด (25 เม.ย. 67) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 41,300 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนึ้ (25 เม.ย.67) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 37.08 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (25 เม.ย.67) ลบ 2.13 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,358.97 จุด

12. ตลาดหุ้นปิด (24 เม.ย.67) บวก 3.64 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,361.10 จุด

13. ประกาศ กปน.: 27 เม.ย. 67 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 เม.ย.67) บวก 3.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,360.90 จุด

15. MTS Gold คาดว่าจะมีกรอบแนวรับที่ 2,260 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,335 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 6:06 pm