สรุปภาวะตลาดวันก่อน  : SET +0.10 จุด สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาค หุ้นไทยแกว่งทั้งแดนบวกและลบในกรอบแคบ ๆระหว่าง 1303-1310 โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มสื่อสาร (เด้งหลังราคาร่วงลงมากในช่วงก่อนหน้านี้) และกลุ่มพลังงาน นำโดย PTTGC, TOP, PTT (คาดงบดี) อย่างไรก็ดี นลท.ส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุนรอผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเป็นวันที่ 3 อีก 511 ลบ.

ทิศทางตลาดวันนี้  : ย่ำในกรอบ 1300-1315 รอผลเลือกตั้งสหรัฐฯ

หุ้นโลกบวกลบกระจัดกระจายไร้ทิศทาง ตลาดกังวลสถานการณ์หนี้ยุโรปมากขึ้น หลังสเปนมีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 2.7% มาที่ 4.83 ล้านคนในเดือน ต.ค. ซึ่งน่าจะทำให้อัตราการว่างงานสูงขึ้นจากระดับ 25% ในไตรมาส 3/55 นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนว่ากรีซจะสามารถผ่านกฎหมายรัดเข็มขัดสำหรับปี 2013-2014 มูลค่า 1.35 หมื่นล้านยูโรเพื่อรับเงินช่วยเหลือจาก EU รอบใหม่ได้หรือไม่ ขณะเดียวกัน นลท.ส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุนรอผลการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ คืนนี้  คาด SET แกว่งออกข้าง (sideway) มีแนวต้านสำคัญ 1311-1315 จุด แนวรับ 1300-1303

กลยุทธ์การลงทุน  : เลือกเก็งหุ้นใหญ่พื้นฐานดี เป้าของ LTF & RMF

ต่างชาติยังคงซื้อในกลุ่มหุ้นใหญ่ที่ได้รับปัจจัยบวกจากโครงการภายในประเทศเป็นหลัก แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองและผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ยังคงถ่วงบรรยากาศการลงทุนระยะสั้น การเทรดดิ้งสั้นยังทำได้ตราบใดที่ SET ยังยืนเหนือ 1300 หุ้นที่เราชอบสำหรับการเทรดดิ้งระยะสั้น คือ หุ้นพื้นฐานดีขนาดใหญ่ : SET50 ชอบ AOT, BJC, KTB, MINT, PTTGC, SCB, SET100 ชอบ JAS, THCOM และหุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก หุ้นที่มีสัญญาณเชิงบวก : แนะนำ ADVANC, PTTGC, TOP, THRE ส่วนหุ้นหลีกเลี่ยง คือ TUF, TC หลังมีข่าว 6 ชาติ EU สั่งห้ามนำเข้าปลาทูน่ากระป๋องของไทย หลังพบสารปนเปื้อน กดดันบรรยากาศการลงทุนหุ้นปลาทูน่ากระป๋องในเชิงลบ

หุ้นเด่นเล่นสั้น  : ADVANC , PTTGC

ADVANC – ราคาหุ้นร่วง 11% นับตั้งแต่รู้ผลประมูล 3G ในช่วงกลางเดือน ต.ค. หลัก ๆ มาจากความล่าช้าในการออกใบอนุญาต 3G หลังมีหลายหน่วยงานตรวจสอบ เป็นโอกาสดีในการเข้าซื้อ เพราะนอกจากจะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 7-8% ในช่วง 2 ปีข้างหน้า และมี upside มากจากมูลค่าเหมาะสม 250 บ. (DCF) ยังน่าจะเป็นเป้าหมายการเข้าลงทุนของเม็ดเงิน LTF & RMF ในปีนี้ ที่เราคาดว่าจะไหลเข้าไม่น้อยกว่า 3 หมื่นลบ. ในช่วง พ.ย. –ธ.ค. 55  

PTTGC – คาดงบ Q3 ออกมาดีมาก ด้วยกำไรสุทธิ 1.18 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดทั้ง YoY และ QoQ ผลจากการปรับตัวขึ้นของส่วนต่างน้ำมันจาก 15$/bbl เป็น 20$/bbl และการกลับรายการสำรองขาดทุนจากสต็อกน้ำมันใน 2Q55 ได้ครึ่งหนึ่งใน 3Q55 ด้านแนวโน้มผลประกอบการปีหน้าสดใส คาดจะเติบโต 18% จากแผนการขยายกำลังการผลิต และเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของศก.จีน หลัง PMI เริ่มปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับขยายตัวแล้วที่ 50.2 ในเดือน ต.ค. มูลค่าที่เหมาะสม 72 บ. (PBV 1.4 เท่าปี 56F)

ปัจจัยติดตาม 

6 พ.ย. US เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 
           EU ตัวเลข PMI รวม และภาคบริการของสหภาพยุโรปในเดือน ต.ค. ทั้งเยอรมัน-ฝรั่งเศส-อิตาลี 
           GE ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานของเยอรมันในเดือน ก.ย.  
           UK ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษในเดือน ก.ย. 
           GA ประมูลตั๋วเงินคลังกรีซ 
7 พ.ย. EU คณะกรรมธิการยุโรป (EC) เปิดเผยประมาณการทางศก., ยอดค้าปลีกของสหภาพยุโรปเดือน ก.ย.  
           GE-SP ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมัน-สเปนในเดือน ก.ย.