บมจ. ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์  มองว่า ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบที่สูงขึ้น จับตาทิศทาง QE จากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ พร้อมระบุด้วยว่า ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 104 - 110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 93 - 100 เหรียญฯ
 
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 18 - 22 พฤศจิกายน 2556)
ราคาน้ำมันดิบคาดว่าจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่สูงขึ้น โดยมีหลายปัจจัยที่สนับสนุนราคาน้ำมัน นับตั้งแต่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินของประเทศ ภาวะอุปทานตึงตัวในลิเบีย หลังจากเหตุการณ์การประท้วงค่าแรงและสวัสดิการยังคงยืดเยื้อ รวมไปถึงการเจรจาโครงการนิวเคลียร์ระหว่างชาติมหาอำนาจและอิหร่านที่จะมีขึ้นอีกครั้ง ณ กรุงเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์
 
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
•ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯที่จะประกาศในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ซึ่งแสดงถึงมุมมองต่อเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินสหรัฐฯ หลังจากที่ทางธนาคารฯ ได้ตัดสินใจคงมาตรการ QE ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก นอกจากนี้ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คนใหม่นาง เจเน็ท เยลเลน ได้ให้ถ้อยแถลงที่จะสนับสนุนมาตรการ QE ต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัว
 
•จีดีพีไตรมาส 3/2556 ของเยอรมนี ผู้นำทางนโยบายทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป จะประกาศในวันที่ 22 พ.ย.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจีดีพีไตรมาส 3/2556 ของเยอรมนี จะขยายตัว 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2556
 
•จับตาภาวะอุปทานตึงตัวในลิเบีย กลุ่มผู้ประท้วงในลิเบียฝั่งตะวันตกเตรียมก่อตั้งบริษัทผลิตน้ำมันเพื่อทำการส่งออกน้ำมันเอง หลังจากขัดขวางการส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือ Hariga ที่สามารถส่งออกน้ำมันดิบได้ประมาณ 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ล่าสุดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียอยู่ที่ 0.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน
 
•การเจรจาโครงการนิวเคลียร์ระหว่างชาติมหาอำนาจและอิหร่านที่จะมีขึ้นอีกครั้ง ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 20 พ.ย. แม้การเจรจาครั้งก่อนหน้าในช่วงต้นเดือนเป็นเวลา 3 วัน จะยังไม่มีข้อตกลงใดๆ  แต่หลายฝ่ายต่างให้ความเห็นว่าการเจรจามีความคืบหน้ามากขึ้น
 
•ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีน ดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป อีกทั้งยอดขายบ้านมือสอง และยอดสินค้าคงคลังสหรัฐฯ รวมไปถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรป
 
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (11 –15พฤศจิกายน 2556)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 0.76 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 93.84 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 3.38 เหรียญฯ ปิดที่ 108.50 เหรียญฯ และดูไบปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันมาอยู่ที่ประมาณ 106 เหรียญฯ
 
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความกังวลต่อภาวะอุปทานตึงตัวในลิเบียและอิหร่าน ภายหลังเหตุการณ์การประท้วงในลิเบียยืดเยื้อโดยรัฐบาลไม่สามารถทำข้อตกลงกับกลุ่มผู้ประท้วงได้ ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่การเจรจาโครงการนิวเคลียร์ระหว่างชาติมหาอำนาจและอิหร่าน ยังคงไร้ข้อสรุป นอกจากนี้ รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือนของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่คาดการณ์ปริมาณการใช้น้ำมันโลกว่ามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า สาเหตุจากความต้องการใช้ในฤดูหนาว ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมัน