ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
น้ำมันราคาเพิ่มหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐน้อยกว่าคาดการณ์ เฟดอาจชะลอลดQE


 

 

 

 

บมจ.ไทยออยล์รายงาน "ราคาน้ำมันดิบเพิ่ม คาดเฟดอาจชะลอการลด QE หลังการจ้างงานน้อยกว่าคาด"

 

เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 1.06 เหรียญฯ ปิดที่ 92.72 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์ส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 0.86 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 107.25 เหรียญฯ


+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ส่งผลให้เฟดอาจจะชะลอการลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้รับการสนับสนุนจากความกังวลว่า อุปทานน้ำมันดิบจะลดลงหลังแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Buzzard  ในทะเลเหนือบางแห่ง จำเป็นต้องหยุดการผลิตกะทันหัน

+/- การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 74,000 ตำแหน่ง ถือเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 3 ปี และเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 200,000 ตำแหน่ง

+/- ขณะที่อัตราว่างงานสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค.ลดลง 0.3% มาอยู่ที่ 6.7% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2551

+ ความไม่สงบในซูดานใต้ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสหประชาชาติคาดการณ์จำนวนผู้เสียชีวิตจากการสู้รบรุนแรงทั่วซูดานใต้ที่มีความยาวนานกว่าสามสัปดาห์ ที่มากกว่า 1,000 ราย และอีก 230,000 รายต้องทิ้งบ้านเรือนเพื่อหลบหนี นอกจากนี้ยังส่งผลให้การผลิตน้ำมันในซูดานใต้ลดลง 45,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 200,000 บาร์เรลต่อวัน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ และสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้อุปทานมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นน้ำมันที่ไต้หวันกลับมาดำเนินการตามปกติ หลังหยุดดำเนินการผลิตกะทันหันในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคยังคงอยู่ในสภาวะซบเซา อุปทานจากตะวันออกกลางยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 90- 96 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 104-110 เหรียญฯ  ติดตามตัวเลขยอดค้าปลีก และดัชนีราคานำเข้าสหรัฐฯ รวมไปถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามหน้าสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันจันทร์: -
วันอังคาร: ยอดค้าปลีก และดัชนีราคานำเข้าสหรัฐฯ รวมไปถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป
วันพุธ:ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ และดุลการค้าสหภาพยุโรป
วันพฤหัสบดี: ดัชนีราคาผู้บริโภค  ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน และผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟียสหรัฐฯ รวมไปถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนี
วันศุกร์: การผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ

ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- จับตาการเจรจาสันติภาพในเอธิโอเปียเพื่อหาข้อสรุปของความรุนแรงในซูดานใต้ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 2 ม.ค. หลังความรุนแรงในประเทศส่งผลให้ปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบจากซูดานใต้ลดลงมาอยู่ที่ราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน
- ความคืบหน้าของการเริ่มปฏิบัติข้อตกลงยุติโครงการนิวเคลียร์ชั่วคราวของอิหร่านที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 20 ม.ค. นี้ ซึ่งจะมีระยะเวลา 6 เดือน หลังอิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจตะวันตกมีหารือกันล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 56 ที่ผ่านมา
- ความไม่สงบในลิเบียจะส่งผลกระทบต่อการกลับมาส่งออกน้ำมันดิบของประเทศหรือไม่  หลังล่าสุดรัฐบาลลิเบียขู่จะยุติการทำธุรกรรมกับบริษัทต่างชาติที่รับซื้อน้ำมันดิบจากกลุ่มผู้ประท้วงที่ลักลอบนำน้ำมันออกขายทางเรือผ่านท่าเรือทางตะวันออก
- ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นเดือนนี้ว่าจะมีการลดทอน QE  ต่อเนื่องหรือไม่

นอกจากนั้น การประชุมครั้งนี้จะถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของนายเบน เบอร์นันเก้ ก่อนที่จะส่งมอบตำแหน่งให้แก่นางเจเนท เยลเลนดำรงตำแหน่งต่อไป  โดยวาระของประธานเฟดของนายเบอร์นันเก้จะสิ้นสุดลงในวันที 31 ม.ค. นี้


LastUpdate 13/01/2557 10:01:29 โดย : Admin

20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 9:05 pm