เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ก.พ. ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดสัญญา ปรับลดลง 0.21 เหรียญฯ ปิดที่ 93.96 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์ส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับลดลง 0.04 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 107.09 เหรียญฯ (ส่วนสัญญาส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดที่ 105.75 เหรียญฯ)

 

- รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ม.ค. ของ OPEC ยังคงคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันในปี 2557 ที่ระดับเดิมที่ 1.05 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าคาดการณ์การขยายตัวของอุปทานน้ำมันดิบจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกที่คงไว้ระดับเดิมเช่นกันที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกันโอเปกคาดว่าความต้องการน้ำมันของกลุ่มโอเปกในปีนี้จะลดน้อยลงจากปีที่แล้วโดยจะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 29.58 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมองว่าอุปทานน้ำมันดิบโลกไม่น่าจะล้นตลาดแม้ว่าการผลิตและส่งออกของอิรัก ลิเบีย หรือแม้แต่อิหร่านจะกลับมาเพิ่มขึ้นก็ตาม 

 

- ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากอุปทานน้ำมันดิบจากลิเบียที่ปรับเพิ่มขึ้น หลังหลุมน้ำมันดิบ El Sharara ซึ่งมีกำลังการผลิตที่ 350,000 บาร์เรลต่อวัน  ได้กลับมาดำเนินการผลิตตามปกติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดหลุมน้ำมันดิบดังกล่าวสามารถผลิตน้ำมันดิบได้ที่ 328,000 บาร์เรลต่อวัน  ส่งผลให้ปริมาณการผลิตในลิเบียปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 600,000 – 650,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่เคยผลิตได้ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงก่อนที่จะเกิดความวุ่นวายในประเทศในเดือน ก.ค.

 

-/+ บริษัท TransCanada เตรียมเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone XL ขนาด 700,000  บาร์เรลต่อวัน อย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ม.ค. นี้ เพื่อขนส่งน้ำมันดิบจากคลังน้ำมันบริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมา (จุดส่งมอบน้ำมันดิบ WTI) ไปยังโรงกลั่นในแถบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก  อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นท่อดังกล่าวจะเริ่มขนส่งน้ำมันดิบเพียง 300,000  บาร์เรลต่อวัน ก่อนจะเพิ่มการขนส่งแบบเต็มกำลังในภายหลัง 

 

+ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี ดัชนีดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปอีกระยะ

 

+ ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสิ้นสุดวันที่ 11 ม.ค. ปรับตัวลดลง 2,000 ราย เป็น 326,000 ราย ซี่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 328,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังของสิงคโปร์ปรับลดลง อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันเบนซินมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน 

 

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของสิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี หลังขาดโอกาสในการส่งออกน้ำมันดีเซลไปยังยุโรป

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 90- 96 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 104-110 เหรียญฯ  ติดตามการผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามหน้าสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันศุกร์: การผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามหน้าสัปดาห์หน้า ได้แก่

วันจันทร์: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีกและจีดีพีไตรมาส 4/56 ของจีน (ตลาดสหรัฐฯ ปิดเนื่องในวันที่ระลึกมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์)

วันอังคาร: -

วันพฤหัสบดี: ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ยอดขายบ้านมือสองและดัชนีภาคการผลิต (Flash PMI) ของสหรัฐฯ รวมถึง ดัชนีภาคการผลิต (HSBC Flash PMI)ของจีน  ดัชนีภาคการผลิต (Flash PMI) และดัชนีภาคบริการ (Flash Service PMI) ของสหภาพยุโรป

 

- รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ม.ค. ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่จะประกาศในวันที่ 21 ม.ค. 2557 ว่าจะมีมุมมองต่อปริมาณความต้องการใช้และอุปทานน้ำมันดิบน้ำมันดิบโลกในปีนี้อย่างไร

- ความไม่สงบในซูดานใต้ยังคงคุกรุ่น หลังการเจรจาหยุดยิงระหว่างซูดานใต้และกลุ่มกบฎในประเทศไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ล่าสุดปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบจากซูดานใต้ลดลงแล้วมาอยู่ที่ราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน

- ติดตามการยุติโครงการนิวเคลียร์อิหร่านชั่วคราวเป็นระยะเวลา 6 เดือน ที่จะเริ่มในวันที่ 20 ม.ค.นี้ และจับตาการเจรจาระหว่างกลุ่มประเทศมหาอำนาจกับประเทศอิหร่านครั้งถัดไปซึ่งคาดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายในเดือน ก.พ. นี้ 

- การกลับมาส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 650,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งการส่งออกดังกล่าวส่วนใหญ่มาจากท่าเรือฝั่งตะวันตกที่ไม่ถูกปิดโดยกลุ่มผู้ประท้วง อย่างไรก็ดี การส่งออกจากท่าเรือฝั่งตะวันออกยังคงต้องจับตามองว่าจะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งเมื่อไร