22 ส.ค. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในวันนี้ว่า สถานการณ์ในขณะนี้ยากที่จะควบคุมได้ ซึ่งรัฐบาลเกาหลีเหนือพร้อมทำสงครามเต็มรูปแบบ โดยจะทำ "สงครามนิวเคลียร์" พร้อมยื่นคำขาดถึงเกาหลีใต้ในการปลดทิ้งเครื่องขยายเสียงที่โฆษณาชวนเชื่อ ที่ปล่อยเสียงโจมตีทางฝั่งเกาหลีเหนือ ภายใน 48 ชม. หรือ 17.00 น. ในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 15.30 น.ในไทย) พร้อมทั้งออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่เกาหลีใต้รบุว่า เกาหลีเหนือเป็นฝ่ายยิงจรวดขนาดเล็กเข้าไปในเกาหลีใต้ก่อนนั้นไม่เป็นความจริง
 
ขณะที่ รัฐบาลเกาหลีใต้ เผยว่าประชาชนในกรุงโซลมีความวิตกกังวลต่อพฤติกรรมของ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ หลังจากที่มีการยิงตอบโต้กันเมื่อวานนี้ ทำให้เชื่อว่า มีความเป็นเป็นได้ที่เกาหลีเหนืออาจยิงโจมตีเกาหลีใต้ตามคำขู่ โดยคาดการว่า ทหารของเกาหลีเหนืออาจจะยิงปืนใหญ่ถล่มลำโพงเกาหลีใต้ 11 ตัวที่ตั้งประจำอยู่ในเขตปลอดทหาร ซึ่งกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ยืนยันว่า พร้อมรับมือกับเหตุยั่วยุต่างๆ และจะยังปฏิบัติการใช้เครื่องขยายเสียงประกาศต่อต้านเกาหลีเหนือบริเวณชายแดนต่อไป
 
โดยนายคิม มยอง โชล เจ้าหน้าที่ศูนย์สันติภาพเกาหลีเหนือ-สหรัฐ บอกว่า หากลำโพงของเกาหลีใต้ยังตั้งอยู่จนถึงเวลา 17.00 น.ของวันเสาร์นี้ เกาหลีเหนือจะโจมตีด้วยปืนใหญ่ รวมทั้งการโจมตีจากอากาศ และการโจมตีภาคพื้นดิน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของปฏิกิริยาของฝ่ายเกาหลีใต้ และสหรัฐ และอาจกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ได้
 
 
ด้านนายฟิลิป ยุน ผู้อำนวยการบริหารกองทุนสนับสนุนการปลดอาวุธนิวเคลียร์บอกว่า ฝ่ายเกาหลีเหนือมักจะวิตกจริตอยู่เสมอ และสถานการณ์ขณะนี้ถือว่าใกล้เคียงต่อภาวะสงครามมาก แม้ว่าฝ่ายเกาหลีใต้และสหรัฐจะไม่ต้องการทำสงครามก็ตาม ส่วนผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เกาหลีเหนือมักจะอ่อนไหวกับการโฆษณาชวนเชื่อของฝั่งเกาหลีใต้มาก ซึ่งที่ผ่านมา เกาหลีใต้มักใช้วิธีนำบอลลูนขึ้นฟ้าและให้นักกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลเปียงยางปล่อยใบปลิวแฉพฤติกรรมของรัฐบาลและผู้นำเกาหลีเหนือ
 
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อทหารเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามแดนมายังฝั่งเกาหลีใต้ ทำให้ทหารเกาหลีใต้ระดมยิงปืนใหญ่วิถีโค้งขนาด 155 มิลลิเมตร (มม.) หลายสิบนัดตอบโต้เข้าไปบริเวณที่คาดว่าเป็นฐานปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา และประกาศพร้อมทำสงครามหากเกาหลีใต้ไม่ยอมเคลื่อนย้ายลำโพงกระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อออกไปจากพรมแดนเขตปลอดทหาร