ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.โนมูระ พัฒนสิน มอง SET วันนี้ ย่อลุ้นดีด ในกรอบแนวรับ 1384/1376 จุด และแนวต้าน 1396/1403 จุด


ย่อลุ้นดีด : เน้นตั้งรับหุ้นเด่นรับอุทกภัย  HMPRO, GLOBAL, ITD เด่น หรือ  Pair Trade(Short SCB และ Long KBANK 1 : 0.789หุ้น)

Nomura : Key Factors       

    (+) Ex Factor: Flowไหลกลับ Asia เป็นสัปดาห์แรกในรอบ 9 สัปดาห์ บวกต่อ Risky Asset
    (+) BDI : ดัชนีค่าระวางเรือฟื้นตัวแรงต่อเนื่อง เป็นวันที่สองติดต่อกันกว่า 8.7% สู่ 960 จุด
    (+) Currency: ค่าเงินบาทแข็งต่อเนื่องสู่ 35.67 บ/ดอลล่าร์ ตอบรับ Fund Flow ไหลเข้า
    (+) Int Factor: รมว. อุตฯ เตรียมเสนอแผนกระตุ้น SMEs ระยะที่2 เข้า ครม. ใน 2 weeks
    (*) Fund Flow: ต่างชาติขาย 236 ลบ., Long Future 10328, ซื้อ Bond 254 ลบ.
    (-/+) Int Factor: ปัญหาอุทกภัยยังคงกดดัน แต่เป็นบวกต่อกลุ่ม Home Improvement
    (-) Ex Factor: ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มหดตัว กดดันการลงทุนสั้น
    (-) Commo: ราคาน้ำมันดิบ WTI -4.2% สู่ $44.9/bbl / Brent -3% สู่ $47.6/bbl
    SET PER 15F: CNS 15.02x (EPS 92.5)  vs Cons.14.94x (LT-Avg 14.0x)
    SET Target 12MonthFwd: CNS Base 1705 pts (EPS 113.5, PER15x)
    Nomura Daily Top Picks: HMPRO, GLOBAL, ITD


Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ ย่อลุ้นดีด ในกรอบแนวรับ 1384/1376 จุด และแนวต้าน 1396/1403 จุด ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกกลับมากดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น โดยวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงไปกว่า -1.74% และตลาดหุ้นยุโรปลงแรงราว -3% หลังนักลงทุนให้น้ำหนักการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ สะท้อนเศรษฐกิจของกลุ่ม Develop Market(DM) ที่ฟื้นตัวช้า ทำให้ค่าเงินสกุลเอเชียที่อ่อนค่าในช่วงก่อนหน้าจากความกังวลการกลับมาใช้นโยบายการเงินตึงตัวของสหรัฐฯพลิกกลับมาแข็งค่าระยะสั้น เช่นเดียวกับค่าเงินบาทที่เช้านี้ แข็งค่าสู่ระดับ 35.67 บาทต่อดอลล่าร์ เป็นจิตวิทยาบวก หนุน Fund Flow มีโอกาสพลิกกลับมาไหลเข้าในช่วงถัดไป โดยมีสัญญาณบวกจากสัปดาห์ที่ผ่านมา Fund Flow พลิกกลับมาไหลเข้าเอเซีย(TIPs + North Asia) เป็นสัปดาห์แรกในรอบ 9 สัปดาห์ รวม 389.15ล้านเหรียญฯ หลังจากไหลออกตั้งแต่ 22 ก.ค. 2015 กว่า 11,173ล้านเหรียญฯ กระตุ้น sentiment บวกต่อการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชีย และมีโอกาสที่ตลาดหุ้นในเอเซียจะฟื้นตัว Outperform ฝั่ง DM ได้  เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาโภคภัณฑ์ต่ำ ผสานการกลับมาใช้นโยบายการเงินตึงตัวของ FED ถูกเลื่อนไป อีกทั้งตลาดหุ้นไทย ยังมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดย 1-2สัปดาห์นี้ ครม.อาจจะมีการประชุมเกี่ยวกับแผนกระตุ้น SMEs ในระยะที่2 น่าจะฟื้นความเชื่อมั่นทั้งในและนอกในช่วงถัดไป เป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside ของตลาดได้

Asset allocation : หุ้น 85% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 7.5%

Short-Term Strategy :  เน้นกลุ่มที่ได้อานิสงค์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ เช่น รับเหมา (ITD, CK, STEC, SCC) กลุ่ม Home Improvment รับอุทกภัยในประเทศ(GLOBAL, HMPRO) และการบริโภค (CPALL, ROBINS, KAMART) ผสาน Mid-Small มีปัจจัยหนุน(BRR, TVT, TPCH, PLANB) ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำสะสมหุ้น Portfolio Top picks SEP 15 (ITD, CK, HMPRO, GLOBAL, TVT, KAMART) และหุ้น 4Q15F Top Picks (AOT, HMPRO, GLOBAL, KAMART, CK, DCC)  2016 Back to Urbanization (KBANK, ADVANC, SCC, AOT, HMPRO, GLOBAL, KAMART, CK, DCC, SIRI) สำหรับวันนี้แนะนำ*Daily Top Picks HMPRO, GLOBAL, ITD*

กลยุทธ์ทางเลือก :  จากปัญหาหนี้ SSI ที่ประสบปัญหาขาดทุนเรื้อรัง และหยุดการผลิต SSI ใน UK แล้ว โดย SSI ซึ่งมีวงเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง( KTB ราว 20,000 ล้านบาท, SCB 20,000 ล้านบาท และ TISCO ราว 4,000 ล้านบาท) ซึ่งธนาคารดังกล่าวมีการตั้งสำรองไปแล้วเฉลี่ย 54% ทำให้อาจต้องตั้งสำรองเพิ่มเติม กดดันผลการดำเนินงานในงวดถัดไป ดังนั้นจึงแนะนำ “Short BANK ที่ได้รับผลกระทบ (SCB, KTB, TISCO) และ Long BANK ที่ไม่ได้รับผลกระทบ (KBANK, BBL, TCAP)” ซึ่งเราจัดเป็น Pair Trade Strategy ดังนี้
1) Short SCB & Long KBANK (มีค่า Correlation 90%) ด้วยอัตราส่วน 1 หุ้น  : 0.789 หุ้น
2) Short KTB & Long BBL(มีค่า Correlation 57%)  ด้วยอัตราส่วน 1หุ้น : 0.109 หุ้น
2) Short TISCO & Long TCAP (มีค่า Correlation 84%)   ด้วยอัตราส่วน 1 หุ้น : 1.166 หุ้น

Mid-Long Term Strategy : เราแนะนำนักลงทุนเพิ่มน้ำหนักหุ้น 5% สู่ 85% หลัง SET ย่อสู่ 1300จุด ในเดือนก่อน คาดแนวโน้มเดือน ก.ย. 2015 นี้ SET จะฟื้นตัวสู่ต้าน 1420/1436จุด ซึ่งจะเป็นจุดที่พิจารณาลดน้ำหนักการลงทุนลง 5-10% โดยกลุ่มที่จะนำตลาดจะอิงนโยบายรัฐฯ คือ กลุ่มค้าปลีก(HMPRO, GLOBAL, CPALL) และรับเหมา(ITD, CK, STEC) ผสานกลุ่ม BANK (KTB, KBANK) & ICT(ADVANC, INTUCH) ผสาน Mid-small Cap ในกลุ่มรับเหมา (UNIQ, SCP, CCP, PYLON)  Leasing (GCAP, TK, GL, SAWAD, MTLS) ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว มากกว่า 3เดือน แนะนำลงทุนหุ้นท่องเที่ยว(AOT, ERW, MINT, CENTEL, CPN) ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะ Underperform ในเดือนนี้คาด OIL(PTTEP), MEDIA(BEC) ที่ แนวโน้มกำไรอ่อนตัว โดย Portfolio Top picks SEP 15 ITD, CK, HMPRO, GLOBAL, TVT, KAMART  / Dark Horse PLANB, GCAP, ROBINS, TPCH

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
HMPRO (TP10.0*): Support 6.85/6.6 Resistant 7.15/7.30
  Theme : Home Improvement
  Earning Outlook : แนวโน้มผลประกอบการ 3Q15F +7%y-y , flat q-q ที่ 820 ลบ. สอดคล้องกับ SSSG เดือน ก.ค. ที่ทรงตัวใกล้ 0% ทั้งนี้คาดกำไร Peak 4Q15F จากร้านเมก้าโฮมที่จะเริ่มเข้าสู่จุดคุ้มทุนใน 2H15F
  Valuation : คาดกำไรปี 15F +5% y-y ขณะที่ราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมาจนซื้อขายระดับ PE 27.2 เท่า ต่ำกว่า -1 SD (PE 31.5 เท่า)
  Catalyst : คภช. แจ้ง 14 จังหวัดอันตรายเสี่ยงน้ำท่วม เป็นปัจจัยบวกต่อ HMPRO หนุนยอดขายจากการปรับปรุงเพื่อการซ่อมแซมและตกแต่งบ้านใหม่
 
GLOBAL (TP11.2*): Support 10.8/10.5 Resistant 11.4/12.0
  Theme : Home Improvement
  Earning outlook : ประมาณการกำไรสุทธิปี 15F-16F  ที่ 919 และ 1,141 ลบ. (+31%y-y , +24%y-y ) ขณะที่คาดกำไร 3Q15F ราว 200 ล้านบาท -24%q-q เพราะเป็นช่วง Low season
  Valuation :  แนะนำ “BUY” ด้วยราคาเป้าหมายปี 16F ที่ 11.20 บาท
  Catalyst : คภช. แจ้งน้ำท่วม ภาคอีสานและตะวันออก เป็นปัจจัยบวกต่อ GLOBAL หนุนยอดขายจากการปรับปรุงเพื่อการซ่อมแซมและตกแต่งบ้านใหม่
 
ITD (TP10.7*): Support 8.25/8.0 Resistant 8.55/8.8
  Theme : Infrastructure Spending
  Earning outlook : คาด ITD ยังคงมีขาดทุนปกติใน 2H15F รายได้ทรงตัว H-H จากการรับรู้รายได้จากงานในมือ และมีแนวโน้มได้รับงานก่อสร้างภาครัฐเพิ่มต่อเนื่อง คาด Backlog ราว 3แสนลบ. รับรู้ปีนี้ 40%
  Valuation : มูลค่าเหมาะสมปี 2016F (Consensus) ที่ 10.7 บาท (Upside 27.8%) คาดกำไรสุทธิที่ระดับ 758 ลบ. เติบโต 109% อิงวิธี P/BV ที่ 2.62 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มก่อสร้างที่ราว 2.91 เท่า
  Catalyst : มีความคืบหน้า การประทานบัตรเหมืองแร่โปแตซที่ จ.อุดรธานี & นโยบายเร่งอนุมัติโครงสร้างพื้นฐานจากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 ก.ย. 2558 เวลา : 12:07:30

20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 8:36 pm