ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ชี้แนวโน้ม SET INDEX จะขยับขึ้นทดสอบด่านสำคัญ 1,400 - 1,410 จุด ในเร็วๆ นี้


ตลาดหุ้นวานนี้:
  

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX ยังคงขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 1,380 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX กลับมายืนเหนือ US$49/barrel รวมถึงค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าแตะระดับ 35.95 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 1.68% หรือ 22.97 จุด มาอยู่ที่ 1,393.66 จุด มูลค่าการซื้อขายมากถึง 49,807 ล้านบาท

เงินทุนต่างชาติยังคงน่าสนใจ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 7 มากถึง 13,070 สัญญา ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 1,119 ล้านบาท และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้วันที่ 2 อีก 1,657 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

ปัจจัยสำคัญวันนี้

  

ตลาดหุ้นจีนเปิดทำการเป็นวันแรก หลังจากปิดทำการเนื่องในวันชาติจีน
  

ตลท. และ บจ. 10 แห่ง โรดโชว์ที่สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 7-8 ต.ค.
  

ติดตามการประชุม BoE / ECB วันนี้ ตลาดคาดคงนโยบายการเงิน หลังภาพรวมเศรษฐกิจในอียู ส่งสัญญาณอ่อนตัวลง
  

ติดตามรายงานการประชุมเฟดวันที่ 16-17 ก.ย. ต่อทิศทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

มุมมองต่อตลาด
  

เราขยับมุมมองการลงทุนขึ้นเป็น “กลางถึงบวก” วันแรกในรอบ 7 วันทำการ แม้ว่าวันนี้ SET INDEX มีโอกาสเปิดย่อตัว ก่อนฟื้นตัวในท้ายที่สุด แต่แนวโน้ม SET INDEX จะขยับขึ้นทดสอบด่านสำคัญ 1,400-1,410 จุดในเร็วๆ นี้ หลังเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้าตลาดหุ้นในเอเชียเกิดใหม่อย่างหนาแน่นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures ตลอด 7 วันทำการ 59,795 สัญญา พร้อมกับค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าสู่ 35.90 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือแข็งค่ามากกว่านั้น และ
  

สำหรับมุมมองเชิงเทคนิค หาก SET INDEX กลับมายืนเหนือ 1,400 จุด พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นระดับ 4.5-5.0 หมื่นล้านบาท/วัน คาดว่า SET INDEX จะกลับมาเป็นทิศทาง sideways-to-sideways-up ลบล้าง downward trend ซึ่งน่าจะเป็นจุดที่เรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลุ่ม trader กลับเข้าตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง
  

เมื่อปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ เป็น “กลาง” ในรอบนี้ และมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นบรรยากาศการเก็งกำไรต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะนานถึงสิ้นปีนี้ หลังจากที่สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ ปรับฐานลงตลอด 3Q58 ด้วยเหตุผลของโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ น้อยลงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งแนวโน้มที่รัสเซีย และ สหรัฐฯ จะสามารถเปิดโต๊ะเจรจากับกรณีของซีเรีย ด้านซาอุฯ และรัสเซีย เตรียมเปิดการเจรจากเพื่อหาแนวทางการสนับสนุนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ย่อมทำให้ความวุ่นวายทางการเมืองระหว่างประเทศ ในตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ดูจะคลายตัว ความผันผวนที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นใน 3Q58 น่าจะไม่เกิดขึ้น หรือ หากเกิดขึ้น ก็จะเบาลงกว่าที่ผ่านมา
  

ปัจจัยสำคัญวันนี้ เราให้น้ำหนักกับประเด็นต่างประเทศ ต่อการประชุม BoE / ECB รวมถึงรายงานการประชุมเฟดวันที่ 16-17 ก.ย. เพื่อประเมินมุมมองต่อเศรษฐกิจ และโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้จะมีมากน้อยเพียงใด
  

ตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา กลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี ปิดบวกไปแล้ว 6.81% และ 10.98% ตามลำดับ เทียบกับ SET INDEX +3.51% เราคาด 2 กลุ่มนี้จะเริ่มแกว่งในกรอบแคบ เพื่อพักฐาน แต่กลุ่ม Domestic Play จะกลับมาเด่นอีกครั้ง นำโดยกลุ่ม ICT น่าจะเป็นกลุ่มผลักดันให้ SET INDEX ขึ้นทดสอบ 1,400 จุดในรอบสั้นนี้ รวมถึงหุ้นขนาดกลางที่มีความเด่นเฉพาะตัวเป็นทางเลือกของการเก็งกำไรในกลุ่มนักลงทุนทั่วไป

กลยุทธ์การลงทุน
  

ดังนั้น เราแนะนำ “นักลงทุนกลับเข้าสะสมหุ้นเป้าหมาย หากราคาหุ้นเกิดการย่อตัวระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย” เพราะรอบนี้ เรามองเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 1,410-1,420 จุด เป็นด่านการทำกำไรรอบแรก


Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ ADVANC/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: ADVANC/ ITD
Switch: BJCHI// to ITD
Profit-Taking: BCP

Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL
HOLD: ITD / TPIPL/ ADVANC/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB
Speculative Buy: ADVANC/ ITD
Switch: BJCHI// to ITD
Profit-Taking: BCP

 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 ต.ค. 2558 เวลา : 12:14:06

25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 3:32 pm