ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 

หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
 

กลยุทธ์วันนี้  Rebound

ตลาดหุ้นวานนี้: 
          ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ยังคงอยู่ในโหมดของการปรับฐาน โดยลงไปทดสอบแนวรับ 1,370 จุด กดดันด้วยกลุ่มธนาคาร / ขนส่ง / SCC เป็นสำคัญ บวกกับบรรยากาศรอบเอเชียและยุโรป ต่างรอดูผลการประชุมเฟดในคืนวันที่ 16 มี.ค. ส่งผลให้ SET INDEX ปิดลบอีก 5.13 จุด มาอยู่ที่ 1,377.80 จุด มูลค่าการซื้อขายมากถึง 55,783 ล้านบาท 
          เม็ดเงินทุนต่างชาติขายทำกำไรต่อเนื่อง ตลาดหุ้นไทยขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 2,337 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,274 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 1,931 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          - ผลการประชุมเฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาด แต่ลดเป้าการขึ้น และเศรษฐกิจปีนี้ลง
          - ติดตามการประชุม BoE วันนี้ ต่อความเห็นทิศทางเศรษฐกิจ และนโยบายการเงิน 
          - เงินทุนต่างชาติเริ่มชะลอตัว คาดเป็นเพียงช่วงสั้น

มุมมองต่อตลาด
          - เราคงมุมมองต่อการลงทุน “บวก” วันที่ 5 โดยคาดว่า SET INDEX จะเริ่มแกว่งในกรอบแคบมากขึ้น หลังสิ้นสุดการประชุมเฟดในคืนวานนี้ ผลโดยรวมออกมาเป็นบวกต่อการเก็งกำไรต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกอีกระลอก เนื่องจากประเด็นสำคัญของการประชุมเฟดในคืนวานนี้ เป็นไปตามที่เราประเมิน
          - มุมมองความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกจะมีน้ำหนักต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น
          - เฟดปรับเป้าหมายเศรษฐกิจปีนี้และปีหน้าลงจากประมาณการเดือนธ.ค.
          - เฟดปรับลดเป้าหมายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายปีนี้เหลือ 2 ครั้ง จากเดิม 4 ครั้ง และคาดว่าปี 2560 จะขึ้นอีก 2 ครั้ง
          ผลที่จะตามมาจากทิศทางนโยบายการเงินของเฟดครั้งล่าสุดนี้คือ
          - ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะทรงตัวได้ดีขึ้น เพราะนโยบายการเงินที่ทรงตัว
          - Bloomberg survey ล่าสุดคาดเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในเดือนก.ย. 
          - ต้นทุนทางการเงินหลักที่ทรงตัว บวกกับสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นในระบบการเงินทั่วโลก ย่อมทำให้เงินทุนไหลเข้าเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงช่วงนี้ ทั้งตลาดหุ้น / ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ 
          เราคาดว่าแรงขายจากต่างชาติที่หนาแน่นในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมารวม 4,954 ล้านบาท กระจุกตัวจากโบรกเกอร์ UBS น่าจะเริ่มชะลอตัว หลังเฟดส่งสัญญาณคงนโยบายการเงินไปอย่างน้อย 3-4 เดือนจากนี้ไป เพียงแต่เม็ดเงินที่จะเข้ามาโหลดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นและหนาแน่นอาจยังไม่เกิดขึ้นในช่วงนี้เช่นกัน เพราะ Valuation ของหุ้นหลักเริ่มจำกัดมากยิ่งขึ้น เม็ดเงินทุนอาจเลือกเข้าหุ้น Defensive / global play / Cheap valuation อย่างกลุ่มอสังหาฯ 
          ขณะที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะยังมีความโดดเด่น และเก็งกำไรต่อเนื่อง จากตารางเวลาการพิจารณาและกำหนดการประมูลโครงการต่างๆ ที่ใกล้เข้ามามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง บางใหญ่ – กาญจนบุรี / พัทยา – มาบตะพุด หรือสุวรรณภูมิเฟส 2 รวมถึงการพิจารณาอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง – ชมพูใน 2Q59 
          เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,370-1,390 จุด พร้อมมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นระดับ 5.0-6.0 หมื่นล้านบาท  

กลยุทธ์การลงทุน 
          เราคงแนะนำให้ “นักลงทุน เข้าเก็งกำไรหุ้นหลัก / High Beta เพิ่มเติม หลังผลการประชุมเฟดส่งสัญญาณคงนโยบายการเงินต่อไปอีกอย่างน้อย 3 เดือนจากนี้ เอื้อต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย” ทั้งนี้เป้าหมายการขายทำกำไรรอบนี้ ให้น้ำหนักเหนือ 1,400 จุดขึ้นไป 

          Accumulative Buy: ITD / TPIPL

Stock Pick of the Day

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “ทยอยสะสม” ได้แก่
          1.   ITD  : ราคาปิด 6.95 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
          a)   MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และเชื่อว่าจะมีประเด็นบวกเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า คือการอนุมัติและเปิดประมูลงานโครงการขนาดใหญ่  ได้แก่ 
          1)  โครงการ Motorway บางใหญ่-กาญจนบุรี, พัทยา-มาบตาพุด 
          2)  โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และเหลือง
          3)  โครงการรถไฟฟ้ารางคู่เส้นทางจิระ-มาบกะเบา 
          4)  สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 
          b)  คาดว่าโครงการเหมืองแร่โปรแตซจะมีความคืบหน้าในเดือน มี.ค. โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการจัดประชุมระดับจังหวัด เพื่อกำหนดวันประชาพิจารณ์รอบสุดท้าย ซึ่งหากโหวตผ่านคาดว่าจะได้รับใบประทานบัตรเหมืองแร่ใน 2Q59
          c)  และจะเป็นปัจจัยบวกอย่างมากต่อราคาหุ้น ITD ในลักษณะ Positive Surprise เนื่องจากตลาดยังไม่ได้ให้น้ำหนักมากนักต่อโครงการดังกล่าว เนื่องจากมูลค่าของโครงการเหมืองแร่โปรแตซเฉพาะโครงการอุดรใต้ คิดเป็นมูลค่าต่อหุ้น ITD แบบ Conservative ไม่ต่ำกว่า 5.00 บาทต่อหุ้น 
          d)  ให้เป็น Top pick ของกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และมี Upside สูงถึง 73%
          2.  TPIPL  : ราคาปิด 2.54 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
          a)  MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซึ่งจะได้ประโยชน์โดยตรงจากความคืบหน้าของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ซึ่ง และส่งผลให้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์กลับมาขยายตัวในปี 2559
          b)  หุ้น High Beta คาดว่าจะปรับตัวขึ้นเด่นกว่าตลาด จากกระแสเงินทุนต่างชาติที่จะไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเซียในวันนี้ หลังเฟดปรับลดเป้าหมายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2559 ลงเหลือ 2 ครั้ง จากเดิมที่ 4 ครั้ง 
          c)  คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติ 1Q59 จะเติบโตเด่นทั้ง yoy และ qoq จากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าขยะจำนวน 73MW แบบเต็มไตรมาส รวมทั้งเป็นไตรมาสแรกที่จะเดินเครื่องการผลิตได้อย่างเต็มที่ จากปีก่อนหน้าที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น 
          d)  แผนการนำบริษัทลูก คือ TPIPP เข้าจดทะเบียน IPO ในปีนี้ จะเป็น Catalyst สำคัญ และช่วยเพิ่ม Market Cap ให้ TPIPL อย่างมีนัยสำคัญ โดยประเมินเบื้องต้นคาดว่าหุ้น TPIPP จะมี Market cap ราว 5 หมื่นล้านบาท หรือเทียบเท่ามูลค่าต่อหุ้น TPIPL ที่ 2.45 บาท
          a)  Valuation ถูกมาก ซื้อขายระดับ PBV2559 เพียง 0.9 เท่า ต่ำกว่า SCC และ SCCC ที่  2.4x และ 2.9x ตามลำดับ

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 15 เร่งขึ้นเป็น US$410 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$126 ล้าน 

Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติขายทำกำไรต่อเนื่อง
          นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 2,337 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 4,954 ล้านบาท เทียบกับ 9 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 17,900 ล้านบาท ยังคงเป็นการขายสุทธิที่น่าสนใจติดตาม แม้ว่า YTD นักลงทุนกลุ่มนี้จะยังซื้อสุทธิเหลือ 5,326 ล้านบาท 
          SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 2,274 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 5,224 สัญญา คาดเป็นการปิดสถานะ Long อีกครั้ง และเมื่อพิจารณาจาก S50H16 ปิดสูงกว่า SET50 Index เท่ากับ 0.05 จุด แคบลงเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า Premium เท่ากับ 0.48 จุด  ทั้งนี้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิยืนเหนือ 120,000 สัญญา เป็น 124,699 สัญญา  
          และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายทำกำไรเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 1,931 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ขายสุทธิ 2,696 ล้านบาท เทียบกับ 6 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 53,911 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 0.93bps จากวันก่อนหน้าลดลงมากถึง 8.71bps ปิดที่ 1.895%

Short-Selling วานนี้ 
เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3  เป็น 1,894 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,380 ล้านบาท 

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 12 แต่ลดน้ำหนักกลุ่มธนาคารอย่างโดดเด่น
          การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 1,209 ล้านบาท ชะลอตัวจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,393 ล้านบาท รวม 12 วันทำการ ซื้อสุทธิ 34,817 ล้านบาท ทั้งนี้เริ่มเห็นการลดน้ำหนักกลุ่มธนาคารอย่างหนาแน่นอีกครั้ง สรุปภาพรวมได้ดังนี้
          1. กลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 345 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 572 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 275 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 158 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 265 ล้านบาท กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 230 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 172 ล้านบาท
          2. ส่วนกลุ่มธนาคารกลับถูกขายสุทธิสูงสุด 600 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 470 ล้านบาท  ตามมาด้วยกลุ่มท่องเที่ยว ขายสุทธิ 33 ล้านบาท 

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา

เฟดคงอัตราดอกเบี้ย แต่ปรับลดเป้าการขึ้นดอกเบี้ย และเศรษฐกิจปีนี้ปีหน้าลง
          เฟดคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ปรับลดจำนวนครั้งที่จะขึ้นในปีนี้ลง
          อัตราดอกเบี้ยนโยบาย คงที่ที่ 0.25-0.50% 
          แต่ปรับลดจำนวนครั้งที่จะปรับขึ้นในปีนี้ จากเดิม 4 ครั้ง เป็น 2 ครั้ง และขึ้นอีก 2 ครั้งในปี 2560 โดยคาดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปี 2559 ที่ 0.9% และ 1.9% สิ้นปี 2560 ซึ่งลดลงจากการประมาณการเดิมเดือนธ.ค. ราว 0.50% ของแต่ละปี 
          ปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ลงเป็น 2.2% จากประมาณการเดือนธ.ค.ที่ 2.4% และปี 2560 เป็น 2.1% จากเดิม 2.2% 
          เฟดเริ่มให้ความสำคัญกับความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกและตลาดเงินที่มากขึ้น ซึ่งต่างกับการประชุมเดือนธ.ค.ที่เฟดให้น้ำหนักเพียงแค่ติดตามอย่างใกล้ชิดเท่านั้น 
          อัตราเงินเฟ้อ ณ สิ้นปีนี้ คาดการณ์ 1.2% ลดลงจากการประมาณการเดือนธ.ค.ที่ 1.6% 
          ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
          อัตราเงินเฟ้อ เดือนก.พ. หดตัว 0.2% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาด -0.3% mom ขณะที่เดือนม.ค. ทรงตัว mom โดยอัตราเงินเฟ้อจากการดูแลสุขภาพ / ยา เพิ่มขึ้น 0.5% mom ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่ราคาพลังงานกลับหดตัวลงแรง 0.6% mom 
          ยอดก่อสร้างบ้าน เดือนก.พ. เท่ากับ 1.178 ล้านหลัง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 1.146 ล้านหลัง และเดือนก่อนหน้าที่ 1.120 ล้านหลัง โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของบ้านเดี่ยวถึง 7.2% mom ส่วนบ้าน Multi-family เพิ่มขึ้น 0.8% mom 
          ผลผลิตภาคอุตฯ เดือนก.พ. หดตัว 0.5% mom แย่กว่าที่ตลาดคาด -0.2% mom และเดือนก่อนหน้า +0.8% mom โดยการผลิตด้าน utility ลดลง 4.0% mom หลังจากที่เพิ่มขึ้น 4.2% mom ในเดือนม.ค. ด้านเหมืองแร่ ลดลง 1.4% mom 

ยุโรป
          รัฐบาลอังกฤษเสนอลดภาษีนิติบุคคลลง: รมว.คลัง เสนอลดภาษีนิติบุคลเป็น 17% ภายในปี 2563 จาก 20% ณ ปัจจุบัน พร้อมปิดช่องของการหลบเลี่ยงภาษีสำหรับบริษัทที่มีสำนักงานในหลายประเทศ รวมถึงบริษัทขนาดเล็ก สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ระดับสูงสุด 40% ได้ขยับฐานเงินได้ขึ้นเป้น GBP45,000/ปี นอกจากนี้ เศรษฐกิจในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 2.0% ปรับลดลงจากเดือนพ.ย.ที่ 2.4% และปีหน้า 2.2% และ 2.1% ในปี 2561 ลดลงจากการประเมินครั้งก่อนหน้าที่ 2.5% และ 2.4% ตามลำดับ

จีน          
          จีนเตรียมเชื่อมโยงตลาดหุ้นเซินเจิน – ฮั่งเส็งภายในปีนี้: ผู้นำจีนยืนยันว่าจะเริ่มให้การเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นเซินเจิน และฮ่องกง เกิดขึ้นภายในปีนี้ เพื่อเป็นการต่อเนื่องกับการเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และ ฮ่องกงที่ทำไปแล้วในปีที่แล้ว และเป็นการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้สามารถเข้าถึงบริษัทเทคโนโลยี และหุ้นที่เติบโตเด่น ได้ง่ายขึ้น

เอเชียแปซิฟิก
          ผู้ว่าการ BoJ ให้ความเห็นว่าดอกเบี้ย -0.5% มีความเป็นไปได้สำหรับญี่ปุ่น: นาย Kuroda ให้ความเห็นต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่จะติดลบเพิ่มขึ้น และในทางทฤษฎีสามารถติดลบได้ถึง 0.5% 
          อัตราการว่างงานเกาหลีใต้แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี: อัตราการว่างงานเดือนก.พ. เท่ากับ 4.1% เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2553 โดยแรงงานที่มีอายุระหว่าง 15-29 ปี ว่างงานสูงถึง 12.5% เป็นระดับสถิติสูงสุดใหม่ของเกาหลีใต้
          การประชุมโอเปก – รัสเซีย จะยังเกิดขึ้นในเดือนเม.ย.: แม้ว่าอิหร่านจะไม่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ เพื่อพิจารณาถึงแนวทางการควบคุมเพดานการผลิตน้ำมัน โดยคาดว่ากลุ่มโอเปก และ นอกกลุ่มโอเปกจะมีการหารือกันในช่วงกลางเดือนเม.ย. ที่กรุงโดฮา 
          เศรษฐกิจนิวซีแลนด์ขยายตัวดีกว่าคาด: ใน 4Q58 เศรษฐกิจเติบโต 0.9% qoq เท่ากับไตรมาสก่อนหน้า แต่ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 0.7%qoq เนื่องจากภาคการก่อสร้าง, ยอดค้าปลีก และบริการด้านธุรกิจขยายตัวดีกว่าคาด และชดเชยภาคการผลิตจากเกษตรกรรมและปศุสัตว์
          ส่งออกญี่ปุ่นหดตัวใกล้เคียงคาด: ลดลง 4.0% yoy ในเดือน ก.พ. จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง 12.9% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 3.0% yoy ทั้งนี้มูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 0.2% yoy  และเพิ่มขึ้น 5.1% ในจีนและญี่ปุ่น ส่วนการนำเข้าลดลง 14.2% yoy ทำให้ดุลการค้าเกินดุลอยู่ที่ระดับ 2.43 แสนล้านเยน

 
ไทย
          ไทยแลนด์ฟิวเจอร์สฟันด์สรุปภายในเดือนมี.ค.: นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์สฟันด์วงเงิน 1 แสนล้านบาท โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดกองทุน เงื่อนไข และผลตอบแทน ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปในเดือนนี้ และจะเสนอขายให้นักลงทุนที่สนใจได้ภายใน 2 เดือน โดยจะนำร่องโครงการที่มีศักยภาพของภาครัฐเช่น โครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และหมายเลข 9 เข้ากองทุนก่อน และระหว่างนี้กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ระหว่างทำหนังสือชี้ชวนให้นักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุน
         
เร่งประมูล 3 มอเตอร์เวย์ หลังครม.ไฟเขียวทำคู EIA: รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมทางหลวง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประกวดราคาโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษมอเตอร์เวย์ สายกรุงเทพฯ-บ้านฉาง ช่วงพัทยา-มาบตาพุด เตรียมเปิดประกวดราคา โดยแบ่งออกเป็น 13 ตอน ได้ผู้รับเหมาแล้ว 11 ตอน ลงนามสัญญากับผู้รับเหมาแล้ว 5 ตอน ล่าสุดได้รับการอนุมัติราคาสัญญาจ้างผู้รับเหมาเพิ่มอีก 3 ตอน กำหนดลงนามสัญญาภายในเดือน มี.ค. นี้ และอยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติราคา 3 ตอน ส่วนที่เหลืออีก 2 ตอน อยู่ระหว่างหาตัวผู้รับเหมา
 
สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ สายบางปะอิน-โคราช กรมทางหลวง ได้ประกาศประกวดราคาก่อสร้างตอนที่ 2 บริเวณตัดผ่านลำตะคอง นครราชสีมาไปแล้ว เมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา กำหนดอีบิดดิ้ง เคาะราคาวันที่ 12 เม.ย. 59 ส่วนทางหลวงพิเศษสาย บางใหญ่-กาญจนบุรี จะเริ่มประกาศประกวดราคาระหว่างเดือน มี.ค.-พ.ค.จำนวน 9 ตอน จากทั้งหมด 25 ตอน หลังจากประกวดราคาได้ผู้รับเหมาแล้ว จะต้องรอผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมผ่านก่อน คาดว่าเดือน ก.ค. น่าจะเรียบร้อย จากนั้นเดือน ส.ค. จะลงนามสัญญาเริ่มงานก่อสร้างทันที

 
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 17 มี.ค. 2559
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 มี.ค. 2559 เวลา : 10:50:45

19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 6:07 am