ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
โพลระบุเงินในกระเป๋าปชช.ยุค'ลุงตู่'ยังเหลือเก็บ


 


 นายนพดล กรรณิกา ประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง สำรวจเงินในกระเป๋าของประชาชน ยุครัฐบาลบิ๊กตู่ ศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก นครราชสีมา มุกดาหาร ขอนแก่น อุดรธานี ปทุมธานี ลพบุรี นครปฐม ชลบุรี นครศรีธรรมราช สงขลา และนราธิวาส จำนวนทั้งสิ้น 6,157 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1- 20 เม.ย.ที่ผ่านมา 

พบว่า หลังจากตัดจำนวนเงินของกลุ่มคนที่สูงสุดโต่งออกจากการวิเคราะห์ พบเงินในกระเป๋าของประชาชนยุครัฐบาลบิ๊กตู่ มีรายได้ค่ากลางรวมต่อเดือนจำนวน 17,031.41 บาท ขณะที่รายจ่ายต่อเดือนอยู่ที่เดือนละ 11,662.78 บาท โดยมีส่วนต่าง ส่วนเหลือเก็บแต่ละเดือนเดือนละ 5,368.63 บาท
         
เมื่อจำแนกออกตามเพศ พบว่า ผู้ชายมีเงินเหลือเก็บแต่ละเดือนสูงกว่าผู้หญิง และหาเงินหารายได้ได้มากกว่า โดยผู้ชายมีรายได้เดือนละ 17,500.65 บาท รายจ่ายอยู่ที่เดือนละ 11,613.37 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 5,887.28 บาท ส่วนผู้หญิงมีรายได้เดือนละ 16,529.54 บาท รายจ่าย 11,678.16 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 4,851.38 บาท และพบว่าคนที่มีการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีมีรายได้สูงกว่าคนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีเกือบสามเท่า และมีเงินเหลือเก็บต่อเดือนสูงกว่าเกือบสี่เท่า
 
 
 
 

ที่น่าสนใจและน่าเป็นห่วงคือ คนอีสานมีรายได้สูงสุด แต่ก็ใช้จ่ายสูงสุด คนภาคใต้มีรายได้ต่ำสุดและมีเงินเหลือเก็บน้อยสุด คือ คนอีสานมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 18,580.92 บาท มีรายจ่าย 13,665.78 บาท มีเงินเหลือเดือนละ 4,915.14 บาท คนภาคใต้มีรายได้เดือนละ 13,237.05 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 9,783.64 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 3,453.41 บาท ขณะที่คนกรุงเทพฯ มีรายได้เดือนละ 17,531.61 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 11,137.58 บาท มีเงินเหลือเก็บสูงกว่าคนในภาคอื่นเดือนละ 6,394.03 บาท คนเหนือมีรายได้เดือนละ 17,197.33 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 12,123.32 บาท มีเงินเหลือเก็บเดือนละ 5,074.01 บาท และคนภาคกลางมีรายได้เดือนละ 17,863.02 บาท มีรายจ่ายเดือนละ 12,121.48 บาท มีเงินเหลือเดือนละ 5,741.54 บาท
          
ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนในรัฐบาลยุคปัจจุบัน ยังมีเงินเหลืออยู่ในกระเป๋าของประชาชน โดยค่ากลางอยู่ประมาณ5,000บาทต่อเดือน จึงน่าจะทำให้ประชาชนแต่ละคนได้สำรวจตรวจสอบดูว่าเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายสูงกว่า หรือต่ำกว่า5,000บาท ถ้าต่ำกว่าก็น่าจะพิจารณาปรับปรุงแก้ไขการใช้จ่ายของตน

ที่น่าเป็นห่วงคือ รายได้ของประชาชนแต่ละภาคไม่เท่ากัน ทั้งๆ ที่ประชาชนในทุกภาคของประเทศควรมีโอกาสรวยหรือจนเท่าๆ กัน คนอีสานกลับมีรายได้สูงกว่าคนทุกภาค แต่ก็มีรายจ่ายสูงกว่า จนน่าเป็นห่วงที่คนอีสานอาจจะต้องหากลไกบางอย่างลดรายจ่ายเพื่อให้มีเงินเหลือแต่ละเดือนให้มากขึ้น และที่น่าจะสะท้อนข้อมูลไปยังฝ่ายนโยบาย คือ คนภาคใต้ที่ยังคงมีรายได้ต่ำกว่าคนทุกภาคและมีเงินเหลือแต่ละเดือนต่ำสุด ดังนั้น การบริหารจัดการการกระจายรายได้จึงต้องใช้ควบคู่ไปกับการรณรงค์การใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนรู้จักคิดรู้จักบริหารจัดการรายได้รายจ่ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น



 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 เม.ย. 2559 เวลา : 11:39:19

25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 11:07 am