กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าทำฟาร์มโคนมอินทรีย์ต้นแบบ ช่วยเพิ่มมูลค่าน้ำนมสู่ผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อ.ส.ค.ชี้พร้อมวางจำหน่ายแล้วทั้งในกทม. และต่างจังหวัด
นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ดำเนินการเพิ่มประสิทฺธิภาพการเกษตร โดยการทำฟาร์มฟาร์มโคนมอินทรีย์ต้นแบบรายแรกของประเทศไทยนั้น ขณะนี้ฟาร์มดังกล่าวได้ผ่านการตรวจรับรองจากกรมปศุสัตว์ และได้ใบรับรองการผลิตโคนมอินทรีย์ ตามข้อกำหนดของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช). สามารถใช้เป็นต้นแบบนำไปต่อยอดเป็นแหล่งศึกษา เรียนรู้ และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำนมดิบสู่การผลิตผลิตภัณฑ์นมพรีเมี่ยม สำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจ และดูแลสุขภาพอย่างแท้จริง
ด้านดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวเพิ่มเติมว่า อ.ส.ค.ได้เริ่มศึกษา เรียนรู้ การจัดทำฟาร์มโคนมอินทรีย์ (Organic Dairy Farm) ที่มุ่งเน้นถึงคุณภาพของน้ำนมเป็นหลัก โดยดำเนินตามขั้นตอนตั้งแต่การคัดเลือกสถานที่ดำเนินการ ณ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 160 หมู่ 1 ตำบลมิตรภาพ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี โดยใช้พื้นที่ดำเนินการ 134 ไร่ จากนั้นได้นำ
โคสาวจากฝูงของ อ.ส.ค. เข้าพื้นที่ฟาร์มที่เตรียมไว้ โดยใช้ระยะเวลาในการปรับเปลี่ยน 90 วัน และปรับต่อไปอีก 6 เดือน ผลผลิตน้ำนมที่ได้จึงรองรับการเป็นผลิตภัณฑ์อินทรีย์
สำหรับอาหารโคนมอินทรีย์ แบ่งเป็นอาหารข้น และอาหารหยาบ โดยอาหารข้นจะต้องได้รับใบรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์อินทรีย์ ส่วนอาหารหยาบจะต้องจัดทำแปลงหญ้าเลี้ยงโคโดยใช้ปุ๋ยคอกจากมูลโค ปล่อยโคแทะเล็มในแปลงหญ้า และผลิตอาหารหยาบอินทรีย์หมักและแห้ง หรือจัดหาพืชอาหารสัตว์อินทรีย์ชนิดอื่น เพื่อเพิ่มโภชนะโปรตีน และพลังงานให้แก่โคนม ได้แก่ กระถิน อ้อย มันสำปะหลัง เป็นต้น โดยไม่ใช้สารเคมี ด้านการจัดการสุขภาพ จะเน้นการใช้พืชสมุนไพรในรักษา และป้องกันโรค โดยการทำวัคซีนตามโปรแกรม รวมถึงการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม โดยจัดทำบ่อพักน้ำเสียจากคอกโคนม และจัดการนำเศษหญ้าและมูลสัตว์มาผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อบำรุงดิน
โดยเมื่อดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว ผลผลิตน้ำนมที่ได้จากงานวิจัยที่ฟาร์มโคนมอินทรีย์ของ อ.ส.ค.ที่ได้ทำการตรวจวิเคราะห์องค์ประกอบของน้ำนมอินทรีย์ พบว่ามีปริมาณกรดไขมันชนิด Omega-3, Omega-6 และ CLA ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภค ในปริมาณที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับนมโคปกติทั่วไป ซึ่งผลิตภัณฑ์นมอินทรีย์ (Organic) ผลิตจากนมที่มีคุณภาพ และเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภค อาทิ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง บำรุงเซลล์สมอง เป็นต้น สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์นมทั่วไป ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่มีความพร้อม
สำหรับฟาร์มโคนมแห่งนี้ จะเป็นฟาร์มโคนมอินทรีย์ต้นแบบในการบริหารจัดการ และเป็นแนวทางในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับน้ำนมดิบ ซึ่งนับว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญการผลิตน้ำนมอินทรีย์ยังส่งเสริมความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ทั้งนี้ ปัจจุบัน อ.ส.ค.ได้ทดลองผลิตนมอินทรีย์ (Organic) ชนิดพาสเจอร์ไรส์ โดยใช้ชื่อว่า “Morganic” วางจำหน่ายในกรุงเทพฯ ณ ร้านค้าสำนักงาน อ.ส.ค.กรุงเทพฯ เขตจตุจักร (อาคาร 5 ติดตลาด อ.ต.ก.) ส่วนต่างจังหวัด จำหน่ายที่ร้านค้าฝ่ายท่องเที่ยวเชิงเกษตร และร้านสวัสดิการ อ.ส.ค. อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีอีกด้วย ดร.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าว.
ข่าวเด่น