ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ดีเอสไอร่อนเอกสารแจงค้นวัดธรรมกายทำตามขั้นตอนกฎหมาย


 


วันนี้ (20 มิถุนายน) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงกรณีปรากฏข่าวทางสื่อสารมวลชนหลายช่องทาง กรณีมีบุคคลวิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอในการขออนุมัติศาลอาญาเข้าตรวจค้นบริเวณวัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า เป็นการดำเนินการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากคดีดังกล่าวมีการสอบสวนเสร็จสิ้นและส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการก่อนที่จะยื่นศาลเพื่อขอหมายค้นนั้น
          
เอกสารข่าวระบุว่า เพื่อเป็นการอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติงานให้สาธารณชนได้ทราบและเข้าใจ รวมทั้งป้องกันการสร้างกระแสข่าวเพื่อบิดเบือนกฎหมายและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงขอชี้แจง ดังนี้
 
1.กรมสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร อันสืบเนื่องมาจากคดีการทุจริตภายในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่เป็นคดีพิเศษไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยคดีนี้เป็นคดีพิเศษที่ 27/2559 

2.ทางการสอบสวนมีการดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พร้อมกับผู้ต้องหารายอื่น รวม 5 คน และพระเทพญาณมหามุนี ไม่มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยศาลอาญาได้ออกหมายจับไว้ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจรเพื่อให้เจ้าพนักงานจับตัวมาดำเนินคดี ต่อมาพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องพระเทพญาณมหามุนี กับพวก รวม 5 คน ในข้อหาดังกล่าว และส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2559
         
3.พนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีฐานะเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตามพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 มาตรา 23 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 โดยยังมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามหมายหรือคำสั่งศาลในการติดตามจับกุมตัวบุคคลตามหมายจับในคดีพิเศษมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และ
 
4.มีข้อมูลว่าพระเทพญาณมหามุนี ซึ่งเป็นบุคคลมีหมายจับ อยู่ในบริเวณวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นที่ส่วนบุคคล (ที่รโหฐาน) ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 81 กำหนดว่าไม่ว่าจะมีหมายจับหรือไม่ก็ตาม ห้ามมิให้จับในที่รโหฐาน เว้นแต่จะได้ทำตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้ อันว่าด้วยการค้นในที่รโหฐาน จึงได้ยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาลเพื่อจับบุคคลดังกล่าวและศาลอาญาได้ใช้ดุลยพินิจซักถามเหตุผลความจำเป็นแล้วจึงออกหมายค้นให้
          
กรณีดังกล่าว จึงเป็นกระบวนการตามกฎหมายทุกประการ และมิใช่กรณีไปทำการสอบสวนดังที่มีผู้วิจารณ์ อันเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีการปฏิบัติทำนองเดียวกันนี้ สำหรับการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า จึงประชาสัมพันธ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

 

LastUpdate 20/06/2559 16:32:41 โดย : Admin

16-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 16, 2024, 3:45 pm