ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


ลาดหุ้นไทยวานนี้         
 
SET INDEX วานนี้เปิดแกว่งกรอบแคบ พร้อมทดสอบด่าน 1,550 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ผลักดันด้วย ADVANC / SCC/ PTT เป็นต้น ขณะที่กลุ่มธนาคารเริ่มพักฐาน หลังดีดตัวแรงวันก่อนหน้า ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,548.21 จุด บวกอีก 5.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69,832 ล้านบาท
ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 5,290 ล้านบาท แม้ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 เพียง 446 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 อีก 4,761 ล้านบาท ก็ตาม

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          เงินทุนต่างชาติยังคงหนาแน่นในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
          แต่ Valuation ของตลาดหุ้นไทยตึงตัวมาก เช่นเดียวกับสัญญาณทางเทคนิค
          เข้าใกล้ช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 3)
          แม้ว่าภาพรวม SET INDEX จะมีโอกาสปิดยืนเหนือ 1,550 จุดได้ในวันนี้ หลังกระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างหนาแน่นตลอด 2 วันทำการที่ผ่านมา และทำให้ยอด YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิสูงถึง 9.5 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีแนวโน้มที่จะเห็นเม็ดเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่องในช่วงสั้นนี้ จากภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง การเมืองมีเสถียรภาพไปอีกอย่างน้อย 18 เดือนข้างหน้า การเร่งผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ให้เป็นรูปธรรมก่อนการเลือกตั้งในปลายปี 2560 ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยบวกต่อปัจจัยพื้นฐานการลงทุน และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
         
แต่อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึง Valuation ของ SET INDEX ณ ปัจจุบันซื้อขาย PER60 ที่ 14.66x เทียบกับ 2Yr Forward PER ณ +1SD ย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมา 13.39x และสัญญาณทางเทคนิคส่งสัญญาณตึงตัว ด่าน 1,550-1,570 จุด น่าจะยังไม่ผ่านในช่วงสั้นนี้ เรามองว่าหุ้นหลักจะเข้าสู่ช่วงของการพักฐานระยะสั้น หุ้นขนาดกลางและเล็กจะกลับมาโดดเด่นแทน อีกทั้งหากพิจารณาถึงผลการดำเนินงาน 2Q59 ที่ทยอยประกาศออกมานั้น ใกล้เคียงคาดหรือ ออกมาดีกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่ ช่วยประคองภาพรวมของ SET INDEX ในช่วงนี้ได้ ภายใต้ upside gain ที่จำกัด
         
กลยุทธ์การลงทุน “นักลงทุนควรพิจารณาขายทำกำไร และถือเงินสดมากขึ้น” หากจะเข้าเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางหรือเล็กแบบจำกัดวงเงิน พร้อมกรอบแกว่ง 1,540-1,560 จุด 

Strategy of the Day
          1. เก็งกำไร GFPT : ราคาปิด 13.00 บาท ราคาเหมาะสม 14.50 บาท
          a) รายงานกำไรสุทธิ 2Q59 ที่ 381 ล้านบาท +91% yoy และ +39% qoq ออกมาดีกว่าคาดการณ์ 10% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 13.8% จาก 2Q58 ที่ 10.5% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง
          b) คงมุมมองเชิงบวกหลังเข้าประชุมกับผู้บริหาร และคาดว่าผลประกอบการ 3Q59 จะเติบโตต่อเนื่องทั้ง yoy และ qoq เนื่องจากเป็น high season ของธุรกิจ ส่งผลให้ราคาไก่ 3QTD เพิ่มขึ้นเป็น 41-42 บาท/กิโลกรัม จาก 2Q59 ที่ 36 บาท/กิโลกรัม และยังได้ประโยชน์จากวัตถุดิบราคาต่ำที่อยู่ในสต็อก
          c) Valuation น่าสนใจ ซื้อขาย PER2559 ที่ 12.5 เท่า และลดลงเหลือ 11.6 เท่าในปี 2560 เทียบกับ CPF ที่ PER2559 ระดับ 15.2 เท่า และ TU ที่ 16.2 เท่า 

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 อีก US$676 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$515 ล้าน 

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเลือกสะสมหุ้นรายตัวหนาแน่นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 
          นักลงทุนต่างชาติ คงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 หนาแน่นถึง 5,290 ล้านบาท รวม 4  วันทำการ ซื้อสุทธิ 14,171 ล้านบาท และทำให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นทะลุ 9.0 หมื่นล้านบาท เป็น 94,726 ล้านบาท
          แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 ลดลงเหลือ 446 สัญญาเท่านั้น รวม 3 วันทำการ Short สุทธิไปแล้วทั้งสิ้น 14,049 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 8,879 สัญญา คาดว่านักลงทุนกลุ่มนี้ปิดสถานะ Long และกลับมามีสถานะ Short อีกครั้ง แม้ว่า S50U16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 4.75 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 3.17 จุด และทำให้ยอด QTD นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 8,766 สัญญา
          และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการขายสุทธิเป็นวันที่ 5 เร่งขึ้นเป็น 4,761 ล้านบาท รวม 5 วันทำการ ขายสุทธิ 21,299 ล้านบาท เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิมากถึง 52,034 ล้านบาท ภายใต้ราคาพันธบัตรไทยลดลงเป็นวันที่ 3 ผ่านพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอีก 1.22bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นมากถึง 4.05bps ปิดที่ 2.106%

Short-Selling วานนี้ 
ลดลงเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 824 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 871 ล้านบาท           

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 24 เน้นสะสมหุ้นเป็นรายตัวมากกว่าภาพกลุ่ม 
          การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิชะลอตัวลงเป็น 2,630 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิมากถึง 5,282 ล้านบาท  รวม 24 วันทำการ ซื้อสุทธิทะลุ 60,000 ล้านบาท เป็น 64,036 ล้านบาท โดยเป็นลักษณะเลือกสะสมเป็นรายตัวมากกว่าจะเน้นเป็นรายกลุ่ม ขณะที่กลุ่มปิโตรเคมีโดยขายสุทธิสูงสุดแต่ก็เพียง 132 ล้านบาทเท่านั้น

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
          ไม่มี

ยุโรป
          อังกฤษให้ใบอนุญาตทางด้านการเงินแก่สถาบันการเงินไอซ์แลนด์: หน่วยงาน Financial Conduct Authority ได้อนุมัติให้ GAMMA Capital Management ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการเงินของไอซ์แลนด์ สามารถเปิดให้บริการในอังกฤษได้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤติทางการเงินในปี 2551 

จีน          
          ยอดขายรถยนต์ในจีน ทำระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน: ยอดขายรถยนต์เดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 23% yoy เป็น 1.6 ล้านคัน เป็นการเติบโตที่เด่นสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2558 ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ทำระดับ 12.4 ล้านคันในรอบ 7M59 เนื่องจากดีลเลอร์ให้ส่วนลดในบางรุ่น เช่น Audi A4 ให้ส่วนลด 18% เพื่อลดระดับสต็อก
          อัตราเงินเฟ้อเท่ากับคาด: เดือน  ก.ค. เพิ่มขึ้น 1.8% yoy เท่ากับที่ Bloomberg Consensus คาด จากเดือนก่อนที่ขยายตัว 1.9% yoy ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 3.3% yoy ขณะที่ราคาสินค้าอื่นที่ไม่ใช่อาหารเพิ่มขึ้น 1.4% yoy อย่างไรก็ตามยังคงต่ำกว่าเป้าของรัฐบาลที่ 3% ทำให้ธนาคารกลางยังมีช่องว่างในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
          ดัชนีราคาผู้ผลิตดีกว่าคาด: เดือน ก.ค. หดตัว 1.7% yoy จากเดือนก่อนที่ -2.6% yoy หดตัวในอัตราที่ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และเป็นการหดตัวในอัตราที่ต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี นอกจากนี้ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 2.0% yoy

เอเชียแปซิฟิก
          ธนาคารกลางอินเดียคงอัตราดอกเบี้ยแม้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง: อัตราดอกเบี้ยนโยบายคงที่ที่ 6.50% เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี สอดคล้องกับ Bloomberg consensus แม้ว่าจะมีความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 5% ภายในเดือนมี.ค. 2560 และอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องก็ตาม แต่การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็เพื่อต้องการให้ผู้ว่าการธนาคารกลางคนต่อไปมาพิจารณา เพราะนาย Rajan จะหมดวาระในเร็วๆ นี้
          ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรญี่ปุ่นออกมาดีกว่าคาด: เดือนมิ.ย. คำสั่งซื้อเครื่องจักรหลัก (Core Machines orders)เพิ่มขึ้น 8.3% mom สะท้อนเชิงบวกต่อภาคการลงทุนในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และเป็นตัวเลขที่ดีกว่าตลาดคาดที่ +3.1% mom 

ไทย
          ไม่มี

 

          โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 10 ส.ค. 2559

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 ส.ค. 2559 เวลา : 10:13:10

20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 1:08 pm