(13 ต.ค. 59) นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่สำรวจทางเท้าบริเวณสยามสแควร์ ถ.พระราม 1 เขตปทุมวัน เพื่อปรับปรุงทัศนียภาพบนทางเท้าและสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนภายหลัง จากกทม. ดำเนินการจัดระเบียบผู้ค้าบริเวณดังกล่าวเพื่อคืนทางเท้าให้ประชาชน ว่า วันนี้เป็นการตรวจพื้นที่บริเวณสยามสแควร์เพื่อจะคืนทางเท้าให้กับประชาชน เดิมบริเวณดังกล่าวมีผู้ค้าทำการค้า จำนวน 680 ราย ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการใช้ทางเท้าของ พี่น้องประชาชนอยู่พอสมควร เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางขนาดใหญ่ โดยเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีเขียวอ่อน หมอชิต-สุขุมวิท และสายสีเขียว สนามกีฬาแห่งชาติ-บางหว้า รวมถึงการใช้บริการรถขนส่งและรถโดยสารสาธารณะ อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของธุรกิจขนาดใหญ่ มีประชาชนใช้ทางเท้าในการสัญจรวันละกว่า 1 แสนราย แม้ผู้ค้าจะทำการค้าในเวลากลางคืนแต่ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนยังต้องใช้ทางเท้าเพื่อการสัญจร
กทม. จึงได้ดำเนินการขอความร่วมมือผู้ค้าในการจัดระเบียบผู้ค้าบริเวณสยามสแควร์ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 59 ที่ผ่านมา โดยในขณะนี้ไม่มีผู้ค้าทำการค้าในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามกทม. มีความห่วงใยผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจึงได้จัดหาพื้นที่รองรับผู้ค้า โดยได้ขอใช้พื้นที่ของการทางพิเศษ บริเวณใต้ทางด่วนพงษ์พระราม พร้อมทั้งปรับปรุงพื้นที่ทั้งในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ การปรับพื้นผิว ไฟฟ้าส่องสว่าง น้ำประปา การขีดสีตีเส้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค. นี้ ซึ่งขณะนี้มีผู้ค้าแจ้งความประสงค์ที่จะเข้าไปทำการค้าบริเวณดังกล่าวแล้ว กว่า 200 รายแล้ว
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของพื้นที่ทางเท้าบริเวณสยามสแควร์ ภายหลังจากที่ผู้ค้าได้ย้ายออกจากพื้นที่ก็พบว่ามีความเสียหาย ทั้งในส่วนของพื้นที่ทางเท้าและระบบสาธารณูปโภค รวมถึงสิ่งก่อสร้างที่ผู้ค้าได้ดำเนินการไว้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับเป็นอุปสรรคในการใช้ทางเท้าของประชาชน อีกทั้งกทม. ได้รับการร้องเรียนจากผู้พิการทั้งในส่วนของ ผู้พิการทางสายตา และผู้พิการที่ใช้วีลแชร์ และคนชราอย่างต่อเนื่องว่าไม่ได้รับความสะดวกในการใช้ทางเท้า โดยในวันนี้ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักผังเมือง สำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง และสำนักงานเขตปทุมวัน ร่วมกันสำรวจพื้นที่เพื่อบูรณาการ ความร่วมมือในการดำเนินการปรับปรุงทัศนียภาพบนทางเท้าและสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณดังกล่าวให้แก่ประชาชนได้ใช้สัญจรอย่างเสมอภาค เท่าเทียมกันทุกคน โดยในเบื้องต้นได้กำชับให้เร่งดำเนินการปรับปรุงระบบระบายน้ำ อาทิ เปลี่ยนฝาท่อ ลอกท่อ ดูดเลน เพื่อให้การระบายน้ำบริเวณดังกล่าวสะดวกขึ้น และเร่งดำเนินการปรับผิวทางเท้า รื้อถอนสิ่งกีดขวางเพื่อความปลอดภัยและสะดวกในการสัญจรของประชาชนทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ได้รับรายงานว่าภายหลังจากที่กทม. จัดระเบียบผู้ค้าบริเวณดังกล่าวไปแล้ว พบว่าปริมาณขยะในพื้นที่เขตปทุมวันลดลงจากเดิมวันละ 1 ตันอีกด้วย
.jpg)
ข่าวเด่น