นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการเปิดให้บริการระบบตั๋วร่วม ภายใต้ชื่อ "บัตรแมงมุม" ซึ่งเป็นบัตรใบเดียวที่สามารถเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะหลายระบบได้ว่า ขณะนี้ สนข.ติดตั้งระบบบริหารจัดการรายได้กลาง(เซ็นเตอร์ เคลียริ่งเฮาส์) ระบบตั๋วร่วมเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนมิ.ย. 2560 โดยจะใช้บริการได้เฉพาะรถไฟฟ้า 4 เส้นทางก่อนคือ รถไฟฟ้า บีทีเอส ,รถไฟฟ้าใต้ดิน เอ็มอาร์ที ,รถไฟฟ้า แอร์พอร์ตลิงก์ และรถไฟฟ้า สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ
ระหว่างนี้สนข.อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดรูปแบบการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาบริหารจัดการตั๋วร่วม คาดว่าจะเสนอครม.ได้ภายในพ.ย. นี้ ทั้งนี้ระหว่างที่ยังไม่สามารถจัดการบริษัทบริหารตั๋วร่วมได้ซึ่งจะต้องมีการเปิดให้เอกชนร่วมทุนนั้น กระทรวงมอบหมายให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นหน่วยงานกลางในการบริหารก่อน โดยร่วมกับ สนข. และธนาคารกรุงไทย
ภายในเดือน พ.ย.นี้ จะเสนอร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ...โดยเตรียมเสนอรูปแบบของหน่วยงานบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม (CTC) ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ถ้าครม.เห็นชอบก็จะเริ่มกระบวนการสรรหาเอกชนเป็น CTC ด้วยรูปแบบรัฐเอกชนร่วมลงทุน(PPP) คาดว่าใช้ระยะเวลา ประมาณ 8 เดือนจะได้ผู้ดำเนินการ โดยคณะ กรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐจะเป็นผู้พิจารณาว่า ควรสรรหาด้วยวิธีเจรจาตรงหรือเปิดประมูล คัดเลือก เพราะโครงการนี้มีมูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาทจึงสามารถใช้วิธีเจรจาได้ อย่างไรก็ตาม CTC จะต้องเป็นบริษัทเอกชนและมีรัฐถือหุ้นไม่เกิน 49% เท่านั้น
สำหรับรายละเอียดการจัดตั้งซีทีซี ทาง รมว.คมนาคม ขอให้ปรับปรุงและแก้ไขให้อ่านง่ายขึ้น โดยจะเสนอกลับไปอีกครั้งในเดือน พ.ย.นี้ ก่อนนำเข้าคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ได้เร่งรัดให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เร่งนำรถเมล์ใหม่ที่ติดระบบอี-ทิกเก็ต มาเชื่อมต่อกับระบบตั๋วร่วมเพื่อเปิดตัวพร้อมกันในช่วงเดือน มิ.ย. 2560
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทตั๋วร่วมจะเปิดการลงทุนแบบหุ้นส่วนที่ให้เอกชนผู้ให้บริการโดยสารเข้าถือหุ้นเพื่อรับผลตอบแทนจากระบบตั๋วแมงมุมร่วมกัน โดยรัฐบาลถือหุ้น 49% และเอกชนร่วมถือหุ้น 51% โดย สนข.ได้ลงเงินพัฒนาระบบไปแล้ว 1,000 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการเจรจากับเอกชนให้เข้ามาร่วมลงทุนต่อไป
.jpg)
ข่าวเด่น