ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ไอร่ามองทิศทางตลาดหุ้นไทยยังผันผวน แม้มีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศ


ทิศทางตลาด
  ผันผวน? แม้มีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ ที่ได้รับปัจจัยหนุนจาก (1) ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ล่าสุดที่ออกมาแข็งแกร่ง และ (2) ผลการเลือกตั้งของฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7/5/60) ซึ่งนายมาครอง ที่มีแนวคิดสายการกลาง ชนะ นางเลอเปน ที่มีแนวคิดขวาจัด ช่วยลดความกังวลต่อประเด็นการออกจาก EU
  
   แต่คาดการปรับขึ้นของตลาดฯ บ้านเราอาจเป็นไปอย่างจำกัด และมีโอกาสสวนทางกับตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ ภายใต้ปัจจัยกดดันจากประเด็นในประเทศ (1) PTTEP ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อว่าทางอินโดนีเซียยื่นฟ้องคดีต่อศาลในประเทศ อินโดนีเซีย เพื่อ เรียกร้องค่าเสียหายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลของแหล่งมอนทารา ในทะเลติมอร์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี52 ต่อ PTTEP และบริษัท PTTEP Australasia (Ashmore Cartier) หรือ PTTEP AA อย่างไรก็ตามทั้ง PTTEP และ PTTEP AA ยังไม่ได้รับเอกสารฟ้องร้องอย่างเป็นทางการ ตาม จม.แจ้ง SET เมื่อ 8/5/60 และ (2) Fund Flow ล่าสุดต่างชาติขายสุทธิ ประมาณ 2,100 ล้านบาท
   รวมถึงทางด้านราคาน้ำมัน ที่คาดภาพรวมยังถูกดดันจากการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ที่ยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดส่งผลต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน เช่น PTT และ PTTEP
  อย่างไรก็ตามยังอยู่ในช่วงการทยอยประกาศผลการดำเนินงาน ที่คาดมีแรงเก็งกำไรจนถึงกลางเดือนพ.ค.และยังแนะติดตามประเด็นที่สหรัฐฯ ระบุว่าไทยเป็น 1 ใน 16 ประเทศ ที่ทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า ล่าสูงสุดในรอบ 3 ปี มูลค่า 18,920 ล้านUSD หรือประมาณ 650,000 ล้านบาท และคาดสหรัฐฯ อาจมีมาตรการตอบโต้ออกมา (เช่น มาตรการด้านภาษี) ภายใน 90 วัน โดยเฉพาะต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงประมง เป็นต้น
  ส่วนทาง ด้านปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนในการเปิดประมูลของภาครัฐ ซึ่งส่งผลต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลัง ครม. เห็นชอบประเด็นการปรับร่างทีโออาร์ใหม่สำหรับรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง และแนะให้จัดทำร่าง TOR ใหม่ เสร็จภายใน 3 เดือน คาดมีความเป็นไป ได้ที่จะเปิดประมูลในช่วง 2H/60

SET

SET50

SET100

1,569.02 -4.03

997.24 -1.77

2,244.48 -4.37

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
 (+) ตลาดต่างประเทศ DJIA +55.47, NASDAQ +25.42, S&P +9.77, FTSE +49.33, CAC +59.98 และ DAX +69.11 S&P 500 และ Nasdaq ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ภายใต้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ - เม.ย. เพิ่มขึ้น 211,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงาน - เม.ย. อยู่ที่ 4.4% สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว ซึ่งส่งผลดีต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน
  อย่างไรก็ตามการ ปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด หลังนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีพันล้าน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ประกาศขายหุ้น IBM จำนวน 33% ที่เขาถือครองอยู่ หรือจำนวน 81 ล้านหุ้น และส่งผลให้ราคาหุ้น IBM ปรับลง
  ขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้ (7/5/60)
  
  ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$0.70 อยู่ที่US$46.22 ต่อบาร์เรล ตอบรับตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ข้างต้น นอกจากนี้ยังเป็นการเข้าเก็งกำไรหลังราคาปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ภายใต้ความกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันในระดับสูง และยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานว่า โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยจะมีการประชุมในวันที่ 25/5/60

P/E (เท่า)

P/BV (เท่า)

Dividend Yield (%)

17.18

1.9

3.12

ที่มา : www.set.or.th

มูลค่าการซื้อขาย

หน่วย (ลบ.)

มูลค่าการซื้อขาย

36,778.54

สถาบัน

+1,062.38

บัญชีหลักทรัพย์

+440.13

ต่างประเทศ

-2,123.03

ในประเทศ

+620.51

?ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. -US$1.7 อยู่ที่  US$ 1,226.9 ต่อออนซ์ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานข้างตัน ส่งผลให้ลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
  อย่างไรก็ตามการซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะรู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้ (7/5/60)
   (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -2,123 ล้านบาท สะสม YTD +4,963 ล้านบาท (ปี57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาทและ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ปี59 ซื้อสุทธิสะสม 77,927 ล้านบาท)

ประเด็นที่ต้องติดตาม 8 - 12 พ.ค. 2560???????
  8/5/60 สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีแนวโน้มการจ้างงาน?(ETI)?เดือนเม.ย.
  9/5/60 สหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนมี.ค.
  10/5/60 สหรัฐฯ เปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย.

  สต็อกน้ำมันงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนเม.ย.

  11/5/60 สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต?(PPI)?เดือนเม.ย.ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ?
  12/5/60 สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค?(CPI)?เดือนเม.ย.ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค.
  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนพ.ค.และยังแนะจับตา
  (1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR และ CBG เป็นต้น
  (2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี 60 เช่น KBANK และ SCBเป็นต้น
  (3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
  (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่คาดดีขึ้น เช่น SCC
  
(5) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาคเอกชน ที่เข้ามาต่อเนื่อง เช่น SQ เป็นต้น
  (6) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ IRPC, TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
  (7) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
  (8) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วง 2Q/60 เช่น AAV, AOT
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัว อยู่ที่ 2.35%(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.54)
  ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.11 อยู่ที่ 10.57
  หุ้นแนะนำ : SPA?


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 พ.ค. 2560 เวลา : 11:47:39

25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 1:01 am