คำแนะนำ

  ยังแนะนำให้ขายลดพอร์ตการลงทุนหากขยับผ่าน 1,319 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการเข้าซื้อเก็งกำไรอาจรอตามแนวรับโซน 1,300-1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,294ดอลลาร์ต่อออนซ์) และควรคำนึงถึงความผันผวนของราคาจากผลการประชุมเฟด

แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,300 1,294 1,286
แนวต้าน 1,319 1,330 1,339

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่กลับมาอ่อนค่าลงก่อนการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด  อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำถูกสกัดไว้ด้วยการพุ่งขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของตลาดหุ้นสหรัฐนำโดยหุ้นกลุ่มการเงิน  ประกอบกับนักลงทุนระมัดระวังในการเข้าซื้อทองคำเพิ่มเติม  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำเพิ่ม  2.07 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ  ขณะที่จุดสนใจของตลาดจะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดที่จะเสร็จสิ้นลงในเวลา 01.00 น.ของคืนวันนี้  ตลาดว่าคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้  แต่เฟดอาจจะประกาศกำหนดเวลาที่จะเริ่มแผนปรับลดงบดุลบัญชีซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์  อีกทั้งต้องจับตาความเห็นของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดในเวลา 01.30 น.เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์และราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนได้

ปัจจัยทางเทคนิค
  หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้แรงซื้อยังคงถูกจำกัด สำหรับวันนี้ประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,319 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ โซน 1,330  ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นแนวต้านสำคัญ ขณะที่แนวรับนั้นยังประเมินในโซน 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับถัดไปที่ 1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES 
  ชะลอการสะสมทองคำเพิ่มหรือถ้าต้องการเก็งกำไรฝั่งซื้อแนะนำเข้าซื้อหากอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,300-1,294  ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และอาจเก็งกำไรฝั่งขายหากเกิดการดีดตัวขึ้นไปใกล้บริเวณ 1,319-1,330  ดอลลาร์ต่อออนซ์(ตัดขาดทุนหากสามารถยืนเหนือ 1,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์)