ต่ำ 1705 จุด ทำให้น่าจะแกว่งพักฐาน โดยมี downside 1670+/- จุด 

  ธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบทศวรรษ เพื่อชะลอควมร้อนแรงของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามยังไม่มีกำหนดการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเร็วๆนี้ ขณะที่ประธานาธิปดีทรัมป์ประกาศเสนอชื่อเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คนใหม่แทน เจนเน็ต เยลเลนที่จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งก.พ.61 แม้โทนของยุโรปและสหรัฐฯ โดยรวมยังดูผ่อนคลาย แต่ไม่ได้มีอะไรใหม่และเรามองตลาดรับรู้ปัจจัยบวกไปในระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งร่างปฏิรูปภาษีต้องใช้เวลาและไม่น่าส่งผลบวกทันปีนี้ สำหรับหุ้นไทย การรายงานผลการดำเนินงานบจ.ที่ไม่โดดเด่นนัก ขณะที่แรงขายกลุ่มสื่อสารจากความกังวลการประมูลคลื่นรอบต่อไปจะมีค่าใช้จ่ายสูงและกดดันกำไรกลุ่มสื่อสาร ส่งผลให้ตลาดปรับตัวลงต่ำกว่า 1705 จุด และน่าจะเข้าสู่การพักฐาน โดยนักลงทุนอาจต้องเพิ่มความระวังต่อแรงขายโดยเฉพาะในหุ้นใหญ่ โดยเราคงกลยุทธ์ในการเลือกเก็งกำไรรายตัว และลงทุนเชิงตั้งรับ
  Investment Theme 1) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 2) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTGC, IVL, IRPC 3) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ AMANAH*, AGE*, TMILL*, SGF*, BFIT*, PTL*, CHG*, TNR* , TIP*, CGD*, THE*, CHOW*, AP, SPALI, MALEE
ภาพรวมกลยุทธ์: มีโอกาสแกว่งปรับฐาน (downside 1670) หลัง SET Index ต่ำกว่า 1705 จุด ยังคงแนะนำเก็งกำไรเป็นในเชิงตั้งรับ (ไม่ไล่ราคา/ซื้อแนวรับ/ตั้ง stop loss) และกลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกหุ้นรายตัว  // หุ้นแนะนำ AGE*, MILL*, IVL
  แนวรับ : 1686-1695 / แนวต้าน : 1705-1710 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน
  โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นหลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลงมากกว่าคาด / ราคาโลหะทรงตัว / ราคาสินค้าเกษตรปรับขึ้น / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,482 จุด (-0.94%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 100.2 เหรียญต่อตัน (+0.2%) 
  BOE ปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 10 ปี - ธนาคารอังกฤษมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.50% (+0.25%) หลังอัตราเงินเฟ้อตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญต่างๆเกื้อหนุน พร้อมระบุถึงทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตว่าจะเป็นไปในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไปด้วยขอบเขตที่จำกัด โดยการพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินจะขึ้นอยู่กับผลการเจรจาในประเด็น BREXIT เป็นสำคัญ
ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ – มีสาระสำคัญหลักๆ ได้แก่ 1.ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากเดิมที่ 35%, 2.ปรับลดอัตราภาษีและขั้นตอนการโอนกำไรจากต่างประเทศกลับสู่สหรัฐฯ, 3.ปรับลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดสำหรับธุรกิจขนาดย่อมและองค์กรที่ไม่ใช่ภาคธุรกิจลงสู่ระดับ 25% จากเดิมที่ 39.6%, 4.ลดจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 7 ขั้น เหลือ 4 ขั้น, 5.ยกเลิกการเก็บภาษีขั้นต่ำ (AMT) จากกลุ่มผู้มีรายได้สูง
  งบลงทุนรัฐวิสาหกิจขยายตัวต่อเนื่อง – สคร.รายงานตัวเลขการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจขยายตัว 3 ไตรมาสติดต่อกัน ส่งผลให้ 9 เดือนแรก (9M60) เติบโตขึ้น 31% จากการเร่งลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่ หนุนเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง
รมว.คมนาคม เตรียมลงทุนเพิ่ม – รมว.คมนาคม เตรียมลงทุนเพิ่มอีก 8 โครงการ มูลค่าราว 1.03 แสนลบ. ในปี 2561 
  ประเด็นติดตาม: 3 พ.ย. – ประกาศงบ IRPC, INTUCH, IRPC, SPCG, SPRC / 8 พ.ย. – ประชุม กนง., ดุลการค้าจีน / 9 พ.ย. – เงินเฟ้อจีน

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยข้อมูลเท่าที่ปรากฏและเชื่อว่าเป็นที่น่าเชื่อถือได้แต่ไม่ถือเป็นการยืนยันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลนั้นๆ โดยบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้จัดทำขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการณ์ต่างๆที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของนักลงทุน โดยไม่ได้เป็นการชี้นำชักชวนให้นักลงทุนทำการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือตราสารทางการเงินใดๆ ที่ปรากฏในรายงาน