คำแนะนำ

  หลังจากราคาทองคำทิ้งตัวลงในช่วงก่อนหน้า หากกำลังซื้อไม่มากนัก หรือราคาดีดตัวขึ้นไม่ผ่านโซนราคา 1,285-1,293  ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งควรชะลอการซื้อเพิ่มและเน้นเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวของราคา

แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ  1,266  1,260  1,251
แนวต้าน  1,285  1,293  1,300

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง  9.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงกดดันสำคัญจากการคาดการณ์มากขึ้นว่าพรรครีพับลิกันอาจสามารถผลักดันแผนปฏิรูปภาษีได้เป็นผลสำเร็จ หลังนายจอห์น แมคเคน วุฒิสภาพรรครีพับลิกันตัดสินใจที่จะสนับสนุนร่างกฏหมายภาษี  ปัจจัยดังกล่าวหนุนสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ให้ปิดพุ่ง 331.67 จุดและขึ้นมาปิดเหนือระดับ 24,000 ได้เป็นครั้งแรกซึ่งเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ  ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐทั้งตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคยังสะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ  ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดถือเป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาทองคำอีกด้วย  สำหรับวันนี้ตามเวลาสหรัฐจับตาการลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐในชั้นวุฒิสภาเต็มคณะ  ทั้งนี้หากเป็นไปอย่างราบรื่นอาจเป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินดอลลาร์และสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ  อีกทั้งต้องติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตจากมาร์กิตและ ISM, การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างและถ้อยแถลงประธานเฟดฟิลาเดลเฟีย

ปัจจัยทางเทคนิค
  หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,285-1,293  ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ จึงมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้กลับลงมาตั้งฐานราคาด้านล่างบริเวณ 1,266-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง เบื้องต้นประเมินว่าราคายังคงเคลื่อนไหวในกรอบโดย หากยืนเหนือแนวรับนี้ได้อาจมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES  
  เน้นทำกำไรระยะสั้น รอซื้อเล่นสั้นหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณ 1,266-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาทองคำมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปได้ โดยหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,285-1,293  ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวแนะนำให้ปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไร