Market View  : ยิ่งสูงยิ่งหนาว

Technical  Insight : AMATA  SAWAD
หุ้นแนะนำพิเศษ   : KKP
หุ้นมีข่าว  : ADVANC  TRUE  AMA  U

  ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน ปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่องทำ All time high จากกลุ่ม ENERG PETRO และ BANK หลังราคาน้ำมันฟื้นตัวต่อเนื่อง รวมถึง Sentiment จากดัชนีดาวโจนส์ที่ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นเดียวกัน ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1791.02 จุด (+12.94 จุด) Volume 9.08 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -1,074.80 ลบ.  TFEX Net -853 สัญญา ตราสารหนี้ +12,541.18 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
  +ดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นเนื่องจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของพุ่งขึ้น 250,000 รายมากกว่าที่คาดไว้ 
  +น้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีหลัง EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงและมีความต้องการใช้น้ำมันในฤดูหนาว
  +ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการของยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ 58.1 
  +ม.หอการค้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ธ.ค.อยู่ที่ 79.2 สูงสุดในรอบ 35 เดือน
  -สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดผู้ขอสวัสดิการเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 250,000 ราย สอดคล้องกับดัชนีภาคบริการปรับตัวลงสู่ 53.7 แตะจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
  - Fund Flow ต่างชาติพลิกกลับมาเป็นขาย 1 พันลบ. ขณะที่เงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่องสู่ 32.22  Bath/USD 
  - กองทุน LTF ครบกำหนดไถ่ถอนปีนี้รวม 4.5 หมื่นล้านบาท หลังรีเทิร์นสูงกว่า 24% (ที่มา ข่าวหุ้น)
  ** 5 ม.ค. สหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร คาดเพิ่มขึ้นเพียง 190,000 ตำแหน่ง**
ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศ แนวโน้มเศรษฐกิจที่ดี  รวมทั้งราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยมีแรงกดดันจาก  fund flow ผันผวน มีกองทุน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอน และแรงขายทำกำไรตลาดหุ้นไทยหลังดัชนี SET ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์  คาดวันนี้ SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,800 จุด แต่ให้ระวังแรงขายทำกำไร  
  กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

• ราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูง ปิด 62.01 $/bbl PTTEP PTTGC IRPC
• STA UVAN ครม.ออกมาตรการแก้ปัญหาราคายาง-ปาล์มน้ำมัน
• BANPU ราคาถ่านหินสูงสุดในรอบ 13 เดือน 104.95$/Ton
• IVL หุ้นได้ประโยชน์จากการปฏิรูปภาษีสหรัฐ
• ERW ผ่านเกณฑ์ชิงดำบัดเจ็ต โฮเต็ล ในปั๊มปตท. (ที่มาฐานเศรษฐกิจ)
• หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA

หุ้นมีข่าว  

•  ADVANC (ราคาปัจจุบัน 194 บาท Bloomberg Consensus 205.45 บาท) วันนี้ ADVANC-TOT มีกำหนดเซ็นสัญญาเช่าเครื่องและอุปกรณ์เพื่อให้บริการโทรคมนาคม และสัญญาการใช้บริการข้ามโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศระบบ 2100 MHz อย่างเป็นทางการ ปิดความเสี่ยงดีลล่ม (ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)
• ความเห็น การเข้าเซ็นสัญญาดังกล่าวอย่างเป็นทางการ เกิดขึ้นภายหลังจากที่ ADVANC และ TOT ได้มีการทดลองใช้คลื่นภายใต้สัญญาทดสอบเชิงพาณิชย์มาตั้งแต่ปลายปี 59 ซึ่งจะหมดสัญญาในเดือนมี.ค. 61 นอกจากจะปิดความเสี่ยงดีลล่ม ยังเป็นประเด็นที่ส่งผลให้ ADVANC มีคลื่นในมือรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 55 MHz (900, 1800, 2100 และ 2100) เพียงพอต่อการให้บริการใน 2 - 3 ปีข้างหน้า เป็นผลให้การเข้าประมูลคลื่น 900 MHz และ 1800 MHz ไม่ได้สร้างแรงกดดันต่อ ADVANC มากนัก อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น ADVANC ได้มีการปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ธ.ค. 60 กว่า 11%  ซึ่งเป็นช่วงที่คณะกรรมการของ TOT อนุมัติเรื่องการเซ็นสัญญาดังกล่าว จึงเชื่อว่าหลังจากนี้ตลาดฯน่าจะให้น้ำหนักกับการรายงานกำไรงวด 4Q60 ซึ่งตลาดคาดว่าจะทรงตัว QoQ แต่เติบโต YoY สูงจากฐานต่ำ และปี 61 ที่ Bloomberg Consensus คาดกำไรเติบโต +8.5%YoY แนะนำ "ทยอยซื้อสะสม" เพื่อลงทุน
• TRUE (ราคาปิด 6.50 บาท"ซื้อเก็งกำไร" Bloomberg Consensus 6.85 บาท) งวด 4Q60 คาดหวังกำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินเข้า DIF งวดแรกราว 1 หมื่นล้านบาท และงวดที่ 2 ในช่วงกลางถึงปลายปี 61 อีก 3.5 หมื่นล้านบาท หรือรวมแล้วคิดเป็น EPS จากกำไรพิเศษราว 1.35 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ หากนำเงินสดจากการขายสินทรัพย์งวดแรกมาจ่ายหนี้ทั้งหมด จะลดภาระดอกเบี้ยได้ราวปีละ 800 ล้านบาท
• ความเห็น นอกจากนี้ จากประเด็นการร้องขอขยายเวลาชำระค่าประมูลคลื่น 900 MHz งวดสุดท้ายปี 62 ที่ 6 หมื่นล้านบาท เป็น 7 งวดย่อย ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงานของกสทช.แล้วเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 60 ได้ผลออกมาว่า ให้แบ่งเป็น 3 - 5 งวดแทน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาจาก  ก่อนที่จะเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกสทช.ในวันที่ 27 ธ.ค. 60 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาจาก คสช.โดยหากประเด็นดังกล่าวมีความคืบหน้าในเชิงบวก น่าจะมาช่วยให้ TRUE มีแรงกดดันทางด้านการประคองฐานะทางการเงินน้อยลง
• AMA (ราคาปัจจุบัน 15.8 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 19.40 บาท) รายงานมติที่ประชุมคณะกรรมการเข้าซื้อเรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมี "M.T. Team Houston" ขนาด 1.32 หมื่น DWT อายุ 9 ปี โดยมีอายุใช้งานคงเหลืออีก 20 ปี ด้วยเงินลงทุน 283.36 ล้านบาท รับมอบเรือในวันที่ 23 ม.ค. 61 โดยบริษัทมีแผนที่จะนำเรือให้บริการขนส่งภูมิภาคเอเชียตะวันออก
• ความเห็น การเข้าซื้อกองเรือดังกล่าว จะส่งผลให้บริษัทมีเรือเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเป็น 11 ลำ และน้ำหนักบรรทุกรวมทั้งสิ้น 9.5 หมื่น DWT เป็นลำแรกใน 2 ลำตามแผนที่จะเพิ่มกองเรือในปี 61 และยังสะท้อน Outlook ของปริมาร Order ที่จะได้รับมาจากลูกค้ารายหลักๆที่ยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ในระยะสั้น งวด 4Q60 ฝ่ายวิจัยยังคาดว่าผลประกอบการจะเป็นจุดสูงสุดของปี จากการเริ่ม Operate ด้วยกองเรือใหม่ (10 ลำ 8.2 หมื่น DWT ในงวด 4Q60 เทียบกับ 4.66 หมื่น DWT ในงวด 4Q69) เต็มไตรมาสเป็นงวดแรกและการปรับขึ้นค่าระวางเรืออีกราว 10% ตามราคาน้ำมัน ตลอดจนช่วง High season ของธุรกิจรถบรรทุก ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"

หุ้นแนะนำพิเศษ
KKP (ราคาปิด 79 บาท “ถือรับเงินปันผล” IAA Consensus เฉลี่ย 84 บาท)

• สินเชื่อสุทธิ 11M60 เติบโต 7.4%YTD ดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่เติบโต 2.1%YTD สินเชื่อเช่าซื้อไตรมาสสุดท้ายมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ตลาดรถยนต์ในประเทศฟื้นตัวต่อเนื่อง และการจัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โปที่ทำให้มีความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น
• Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 ราว 5.8 พันลบ. +5%  9M60  มีกำไรสุทธิ 4,432 ลบ. +8.3%YoY กำไรเบ็ดเสร็จที่วัดมูลค่าหลักทรัพย์เผื่อขาย 4,775 ลบ. +6% การเติบโตของกำไรได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก NPL สินเชื่อเช่าซื้อจัดชั้นพิเศษลดลง ทำให้คชจ.สำรองหนี้สูญลดลง ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองพึงกันตามเกณฑ์แบงก์ชาติสูงถึง 185% จึงไม่ต้องตั้งสำรองหนี้สูญส่วนเพิ่ม
• ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PBV 1.7 เท่า สูงกว่ากลุ่มที่อยู่ที่ระดับ 1.3 เท่า แต่เราชอบหุ้น KKP เนื่องจากมี yield สูง IAA Consensus คาด yield ปี 60 เฉลี่ยราว 7.3%
• (+) U ที่ประชุมผถห. อนุมัติรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ยูนิคอร์น เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (UE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BTS ที่มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 12,917 ล้านบาท คาดจะดำเนินการแล้วเสร็จเดือน มี.ค. 2561 และจะทำให้บริษัทมีสินทรัพย์รวมเป็นประมาณ 50,000 ล้านบาท หลังรับโอนกิจการแล้วจะทำให้ U ประกอบธุรกิจ 4 ด้าน ได้แก่ 1. ธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมในยุโรป และเอเชีย จำนวนรวมกว่า 19,000 ห้อง 2.ธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าที่ร่วมทุนกับ SIRI สัดส่วน 50: 50 ปัจจุบันมีโครงการที่ดำเนินการร่วมกันแล้ว 21 โครงการ เปิดการขายแล้ว 10 โครงการ  3.ธุรกิจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ระยะยาว อาทิ อาคารสำนักงานให้เช่า และโรงแรม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการโรงแรมในประเทศแถบทวีปยุโรป และ 4. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น โรงเรียนนานาชาติ โดยมีแผนที่จะก่อสร้างโรงเรียนนานาชาติในพื้นที่ธนาซิตี้ กอล์ฟ และสปอร์ตคลับ
• (-) กลุ่ม BTS มีแผนขายหุ้นที่ถือใน NMG ออกไปจากปัจจุบันที่ถือหุ้นในสัดส่วน 8.15% เนื่องจากไม่ใช่ธุรกิจหลักหรือเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องจึงไม่มีนโยบายลงทุนต่อ