ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน (22/02/61)


 “Tourism Related Play” 

CNS Daily Strategy : คาดตลาด “พักฐาน” ต้าน 1808/1813จุด รับ 1794/1786จุด FED Minutes ระบุ อัตราเงินเฟ้อจะดีดขึ้นในปี 2018 แตะเป้าหมายที่ 2% ได้ในระยะกลาง ส่งผลให้ US Bond Yield 10ปี พุ่งขึ้นสู่ 2.94% หนุนค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าระยะสั้น กดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยงพักฐาน แต่แนวโน้มในประเทศยังสดใส โดยตัวเลขส่งออกเดือนมค.โต +17.6% สูงสุดรอบ 62 เดือน ผสานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนมค.ขยายตัวกว่า 10.87%y-y เป็นปัจจัยบวกเชิงพื้นฐายต่อเศรษฐกิจไทย วันนี้แนะนำ Theme “Tourism Related Play” : MINT, BH, PM

Nomura : Key Factors

  • (-) US: FED Minutes ระบุ อัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นแตะเป้าหมายที่ 2% ได้ในระยะกลาง
  • (-) US: US Bond Yield ปรับตัวขึ้น +5.1bps สู่ระดับ 2.94%
  • (-) Currency: ค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าต่อเนื่องสู่ 90.0 จุด กดดันค่าเงินเอเชียอ่อนค่า
  • (*) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.36% สู่ $61.68/bbl / BRT +0.26% สู่ $65.42/bbl
  • (+) Fund Flow:ล่าสุดซื้อหุ้น +868ลบ,Long Future+8,248สัญญา,ซื้อBond+3,217ลบ.
  • (+) TH: ตัวเลขส่งออกเดือนมค.เติบโต 17.6% สูงสุดในรอบ 62 เดือน
  • (+) TH: ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนมค.จำนวน 3.54 ล้านคน ขยายตัวกว่า 10.87% 
  • (+) TH: รองนายกฯสมคิดมั่นใจ GDP ปี 2018 นี้จะสามารถเติบโตได้มากกว่า 4.1%

Nomura Daily Top Picks: MINT, BH, PM

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “พักฐาน” แนวต้าน 1808/1813จุด รับ 1794/1786จุด รายงาน FED Minutes ระบุถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งต่อเนื่อง นำโดยภาคแรงงานที่เติบโตได้ดี สนับสนุนมุมมองที่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นในปี 2018 โดยกรรมการ FED ส่วนใหญ่คาดอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายที่ 2% ได้ในระยะกลาง ประกอบกับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจวานนี้ นำโดย ดัชนี PMI ภาคการผลิต ปรับตัวขึ้นสู่ 55.9 จุด ดีกว่าคาดที่ 55.5 จุด รวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการ เติบโตสู่ 55.9จุด ดีกว่าคาดที่ 53.7 จุด ซึ่งแนวโน้ม FED Minutes ที่ค่อนข้าง Hawkish ผสานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เติบโตดี ก่อให้เกิดแรงขายในตลาดพันธบัตร หนุน US Bond Yield 10ปี ปรับตัวขึ้น +5.1bps สู่ระดับ 2.94% กระตุ้นค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าแตะระดับ 90.0 จุดอีกครั้ง กดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโลกในระยะสั้น พักฐาน แต่อย่างไรก็ดี แนวโน้มในประเทศยังคงเป็นบวก โดยตัวเลขส่งออกเดือนมค.เติบโต 17.6% สูงสุดในรอบ 62 เดือน ผสานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนมค.จำนวน 3.54 ล้านคน ขยายตัวกว่า 10.87%  สะท้อนเศรษฐกิจไทยเติบโตดี สอดคล้องกับมุมมองของรองนายกฯสมคิดที่มั่นใจ GDP ปี 2018 นี้จะเติบโตได้มากกว่า 4.1%(Nomura คาด 4%) ปัจจัยหนุนดังกล่าวทำให้ Consensus ปรับ EPS ตลาดปีนี้ขึ้นต่อเนื่องสู่ 110.9บาทต่อหุ้น ผสานนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 14วันทำการ ราว 27 ล้านเหรียญ คาดช่วยจำกัด Downside ตลาดได้

Asset allocation : ถือหุ้น 65% และเงินสด 17.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%

Daily Strategy : ถือหุ้น 65% เริ่มสะสมหุ้นน้ำมัน และลงทุนหุ้นในประเทศ อิงการลงทุนรอบใหม่ปลดล็อค ผสานกลุ่มปิโตรเคมี วันนี้เน้น “Theme “Tourism Related Play”

    Tourism Related Play : นักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนมค.จำนวน 3.54 ล้านคน ขยายตัวกว่า 10.87%y-y ขณะที่กลุ่มตะวันออกกลางเข้าไทยเพิ่มราว 3.8%y-y เป็นตัวเลขเดือน มค ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์การ บวกต่อ BH, BDMS. MINT, ERW
    ราคาน้ำมันฟื้นรอบใหม่ แนะปิโตรเลียม PTTEP, PTT, PTTGC ปิโตรเคมี IVL, IRPC
    BANKING AGENT : เป็นบวกต่อ CPALL และ BJC
    MSCI Add Weight : MINT(เพิ่ม 0.106%ของ MSCI Thailand), IVL(เพิ่ม 0.04%) แต่ลดน้ำหนัก TMB(ลด -0.15%)  แนะนำซื้อเก็งกำไร MINT & IVL
    EEC ผ่านบอร์ด สนช. แล้ว คาดหนุนหุ้นอิงวงจรการลงทุนรอบใหม่ กลุ่ม BANK เน้น KBANK, BBL และกลุ่มรับเหมาฯ  คาดกระแสเงินจะเวียนจากกลุ่มนิคมที่ราคาตอบรับล่วงหน้าแล้ว มากลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน หนุน CK, TOA เด่น
    Dividend Play : หุ้นที่คาดว่าจะจ่ายปันผล 2H17F สูงกว่า 3.0%   แนะนำซื้อก่อนขึ้น XD 2เดือน มักให้ผลตอบแทนเด่น 5.3-9.6% Dividend Play ได้แก่ KKP(Interim Yield 4.83%), NYT(Yield 4.6%), TISCO(Yield 4.53%), BLAND(Yield 4.57%), PM(Yield 3.46%), SC( Yield 3.41%), IRPC(Yield 3.27%)
    Bottom Play : STEC(TP29) ราคาหุ้นลดลงมาที่ PBV +0.5SD แล้วซึ่งเป็นระดับที่รองรับความเสี่ยงแรงๆ ของราคาหุ้นได้ เป็นจุดซื้อสำคัญของผู้ที่ SAP มาก่อนหน้า
    FEB 2018 Top picks  : CK STEC TOA BH PM NYT

Investment Theme:

1H18F :  Domestic - Infrastructure Related Play :  STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK, AOT, MONO, PTTEP, IRPC, FN
1) Investment Related :  STEC, CK, HMPRO, TOA, KBANK
2) Tourism & Consumer :  AOT, MONO, FN
3) Global Play :  PTTEP, IRPC

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

MINT (TP18F 50*):  Support 39.0/38.5 Resistant 40.75/42.0

  • Theme: Tourism Play
  • Earnings Outlook: คาดกำไรปกติ 2018F +13% จาก i) ธุรกิจโรงแรมในไทยจะเติบโตตามการท่องเที่ยว ประกอบกับ โรงแรมในต่างประเทศทั้งโปรตุเกสและบราซิลยังเติบโตดี และมัลดีฟส์จะมี RevPar เริ่มฟื้นตัว ii) คาด SSSG ของธุรกิจร้านอาหารจะกลับมาเป็นบวก จากภาคบริโภคและความเชื่อมั่นดีขึ้น
  • Valuation: ราคาหุ้นที่ปรับลงมาเกือบ 8.6% มองยังเป็นจุดเข้าลงทุนได้ หลังงบ 4Q17 ยังใกล้เคียงตลาดคาด โดย Valuation ซื้อขายที่ PER18F ระดับ 29x เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลังที่ 37 เท่า และยังเหมาะสมจากการเป็นผู้นำในกลุ่มฯที่มีรายได้กระจายตัวที่สุด Upside 25%
  • Catalyst: จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในไทยเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 10.9% อยู่ที่ 3.5 ล้านคน หนุนกลุ่มท่องเที่ยว + ถูกเพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI มีผล 1 มีนาคม

BH (TP18F 225*):  Support 197/194.5 Resistant 201/204

  • Theme: Tourism Play
  • Earnings Outlook: ชื่อเสียงของรพ.ที่จะดึงดูดทั้งผู้ป่วยและแพทย์มือดี ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่รักษาความสามารถในการแข่งขันระยะยาว เป็นโอกาสต่อการปรับเพิ่มค่ารักษาต่อเนื่อง และยังมีราคาถูกกว่าการรักษาในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจีน ที่เป็นเป้าหมายช่วงจากนี้ โดยประเมินกำไรปีนี้ 2018F เพิ่มขึ้น 7% โดยมอง 1H จะมีการเติบโต y-y สูงกว่าช่วง 2H และระยะสั้นคาดกำไร 4Q17F 870 ลบ. (+6% y-y, -18% q-q)
  • Valuation: เป็น Defensive play ที่น่าสนใจในช่วงที่ตลาดยังผันผวนออกข้าง และมีโอกาสเกิด Sector rotation มากลุ่มรพ.ได้ ขณะที่ ราคาหุ้นกลุ่มที่ถูก De-rating PER ลงมาตั้งแต่ต้นปี 2017 มองเป็นจุดที่มี Downside ต่ำ และมี PER 18F เหลือ 34x เทียบจุดที่เคยสูง 40x   
  • Catalyst: นักท่องเที่ยวต่างชาติม.ค. 18 เพิ่มสูงถึง 10.9% y-y อยู่ที่ 3.5 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่ม Middle east อยู่ที่ 6.7 หมื่นคน +3.8% และเป็นม.ค.ที่สูงสุดในรอบ 9 ปี สะท้อนกลุ่มตะวันออกกลางไม่ได้ลดลง

PM (TP18F 18.7*):  12.5/12.2 Resistant  13.2/13.6

  • Theme: Dividend Play
  • Earnings Outlook: ธุรกิจก้าวมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ คือ การนำ Taro บุกต่างประเทศ (เกาหลี ลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน) ซึ่งจะชัดเจนคาด 1Q18F และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เต็มที่เริ่ม 2018F หนุนกำไรปีนี้คาด +12%
  • Valuation: ราคาหุ้นปรับฐานลงมา มองเป็นจังหวะสะสมอีกครั้ง โดยซื้อขายถูกกว่ากลุ่มที่ PER18F เพียง 15.4x เท่า และจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยมี Div yield 18F 5.2% ช่วยจำกัด Downside ราคาหุ้น ขณะที่ภาพระยะยาวของบริษัทจะเปลี่ยนจาก Div play เป็น Growth stock + high div
  • Catalyst: รอประกาศผลการเปิด Distributor ในจีนอย่างเป็นทางการ ยังคงคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1Q18F  +  รับปันผล 0.45 บาท (yield 3.5%) (XD 28 ก.พ.นี้)

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ก.พ. 2561 เวลา : 10:23:37

19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 1:05 pm