คำแนะนำ

  ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านในโซน 1,354 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ  1,333  1,323  1,313
แนวต้าน  1,354  1,366  1,375

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ต่ออนซ์ถึงแม้ราคาทองคำจะเผชิญกับการที่สกุลเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ขานรับการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีเกินคาด  อาทิ  ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดถึง 1.9% และการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 0.4% ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 213.59 จุดหลังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ทั้งบริษัท Netflix และ UnitedHealth ออกมาสดใสและสถานการณ์ในซีเรียไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างสหรัฐและรัสเซีย  โดยราคาทองคำยังคงสามารถพยุงตัวและรักษาฐานไว้ได้แม้ว่าจะเผชิญกับปัจจัยกดดันต่างๆ เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนยังมองว่าสถานการณ์ทั้งในซีเรียรวมไปถึงความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐยังคงมีความไม่แน่นอนสูง  ทำให้นักลงทุนยังคงเลือกที่จะถือครองทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเอาไว้  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากเฟด

ปัจจัยทางเทคนิค
  หากแรงขายทำกำไรสลับออกมาเพิ่มขึ้น เมื่อราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้ราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,354 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีผลให้ราคาปรับตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้อ เบื้องต้นหากการอ่อนตัวลงไม่มาก หรือสามารถยืนเหนือ 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีโอกาสเกิดแรงซื้อดันกลับขึ้นไปโดยมีแนวต้านโซน 1,354 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES  
  รอจังหวะที่ราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านโซน 1,354 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไร และรอการอ่อนตัวลงมา ซึ่งแนะนำว่าจุดที่น่าสนใจในการเข้าซื้อยังเป็นบริเวณแนวรับ 1,333 ดอลลาร์ต่อออนซ์