ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน คาดตลาด 'Rebound' ต้าน 1792/1797จุด (07/05/61)


 “Selective Play”

CNS Daily Strategy : คาดตลาด “Rebound” ต้าน 1792/1797จุด รับ 1771/1767จุด การหารือทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังไม่มีบทสรุปแน่ชัด แต่ Nomura ประเมินจะตกลงกันได้ในเดือนสค. โดยทั้งสองจะเก็บภาษีนำเข้าระหว่างกัน 25% มูลค่า $50bn ซึ่งมองว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจจำกัด คาดไม่กดดันสินทรัพย์เสี่ยงอย่างมีนัย ขณะที่ตลาดได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ +1.70% สู่ 74.87 เหรียญ/บาร์เรล รับโอกาสที่ข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านจะไม่ขยายเวลาต่อ หนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดฟื้นได้ กลยุทธ์วันนี้แนะ Theme “Selective Play” : AMATA, WHA, IRPC

Nomura : Key Factors

  • (*) Ex Factor: การหารือด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนยังไม่มีบทสรุปแน่ชัด
  • (*) Ex Factor: Nomura คาดสองประเทศจะเก็บภาษีนำเข้าระหว่างกัน 25% บนสินค้าเข้ามูลค่า $50bn ซึ่งมองว่าจะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงจำกัด
  • (+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.89% สู่ $69.72/bbl / BRT +1.70% สู่ $74.87/bbl
  • (+) OIL: ข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านอาจไม่ขยายเวลาต่อ เส้นตาย 12 พ.ค.นี้
  • (+) TH: ส่งออกข้าว4เดือนแรกของปี 3.31 ล้านตัน ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก
  • (*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น -4,144 ลบ,Short Future-5,232สัญญา,ซื้อBond+1,640ลบ

Nomura Daily Top Picks: AMATA, WHA, IRPC

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Rebound” แนวต้าน 1792/1797จุด รับ 1771/1767จุด การหารือด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนยังไม่มีบทสรุปและรายละเอียดแน่ชัด แต่ทาง สหรัฐฯ ร้องขอทางการ จีน ให้ลดการขาดดุลลง 2แสนล้านเหรียญฯ ภายในปี 2020 โดยในปี 2017 สหรัฐฯ ขาดดุลกับจีนราว 3.75แสนล้านเหรียญฯ ทำให้กระบวนการยังต้องเจรจาเพิ่มเติม โดย Nomura ให้โอกาส 60% ที่ สหรัฐฯ-จีน จะสามารถตกลงกันได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยทั้งสองประเทศจะเก็บภาษีนำเข้าระหว่างกัน 25% บนสินค้าเข้ามูลค่า $50bn ซึ่งมองว่าจะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงจำกัด คาดไม่ได้กดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ตลาดยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ +1.70% สู่ระดับ 74.87 เหรียญ/บาร์เรล รับโอกาสที่ข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านจะไม่ขยายเวลาต่อ โดยเส้นตายจะมีขึ้นในวันที่ 12 พ.ค.นี้ หนุนกลุ่มพลังงานนำตลาดได้ ส่วนปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกข้าวปีนี้ 10 ล้านตัน ซึ่งในช่วง 4เดือนแรกของปี ทำไปได้กว่า 3.31 ล้านตัน ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก แซงหน้าประเทศคู่ค้าอย่างอินเดีย เวียดนาม และปากีสถาน ซึ่งแนวโน้มส่งออกข้าวที่สดใส คาดกระตุ้นกำลังซื้อเกษตรกร หนุนเศรษฐกิจรากหญ้าฟื้นตัว เพิ่ม Sentiment บวกต่อการลงทุนในไทย

Asset allocation : ถือหุ้น 70% และเงินสด 12.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%

Daily Strategy : ถือหุ้น 70% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play ROBINS, GLOBAL, CPALL, TOA, AMATA, WHA, CK, STEC, PYLON, BH, AOT, ERW, MONO และ ปิโตรเคมี(IVL, IRPC) วันนี้เน้น “Selective Play”

    MSCI Play: คาดการณ์หุ้นเข้าออก MSCI รอบใหม่(คำนวณครั้งสุดท้าย) แนะเก็งกำไรหุ้นที่คาดเข้า – KTC(คาดเม็ดเงิน 56ล้านเหรียญฯ), BEAUTY(คาด 62ล้านเหรียญฯ), GULF(คาด 53ล้านเหรียญฯ) ผสานเพิ่มน้ำหนัก SCC(คาด 215ล้านเหรียญฯ) โดยให้หลีกเลี่ยงหุ้นที่คาดถูกคัดออก – KCE(คาด -27ล้านเหรียญฯ) และลดน้ำหนัก SCC-F(คาด -207ล้านเหรียญฯ) ซึ่งจะประกาศเย็นวันที่ 14 พค มีผล 31 พค 2018 ราคาปิด
    IRPC(TP8.6) รายงานกำไร 1Q18  2,752ล้านบาท  +16%y-y ดีกว่าตลาดคาด 6%
    BLAND รับผลบวกของการบริหารสินทรัพย์ภายใน และประโยชน์จากศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ปิดปรับปรุงปลายปีนี้ 3ปี คาดจะโยกมาที่ IMPACT ในสัดส่วนสูง
    รับเหมาฯ  มีสัญญาณกลับตัว เก็ง TOR รถไฟ Hi Speed 3เส้นทาง เชื่อมโยง 3 สนามบินในเดือนนี้ โดยมีกลุ่มทุนใหญ่ของไทย PTT, CP สนใจ ผสาน BTS-STEC-RATCH, CK-BEM เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มอิงการลงทุน แนะนำ STEC(TP29.5), CK (TP40) เด่น และ EEC Play AOT, AMATA, WHA
    Tourism play : นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มสูงเดือน มีค 2018 +16.27%y-y สู่ 3.49ล้านคน ผสาน MOU Downtown VAT Refund เร็วๆ นี้ หนุน ERW, AOT
    ค้าปลีกนำตลาด หลังประเมินภาพ SSSG เป็นบวกในทุก Segment แนะนำ CPALL, ROBINS, GLOBAL
    MAY 2018 Top Picks : IVL, GLOBAL, ROBINS, TOA, AMATA, WHA
    Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA,  IVL, IRPC, BH, MONO

Investment Theme:

2Q18 Theme Domestic : Scent of Election & Domestic Confidence

Best Picks 2Q18 : CPALL, ROBINS, GLOBAL, KBANK, TMB, TOA, AMATA,  IVL, IRPC, BH, MONO
1) Consumer & Farm Income Related : CPALL, ROBINS, GLOBAL,  MONO, JUBILE, SNC
2) Investment Related : KBANK, BBL, TMB, TOA, SCC, GLOBAL, HMPRO, STEC, CK, PYLON
3) Property : GOLD, LH, AP, SIRI, SC, BLAND
4) Tourism Internal & External Support : BH, BDMS, AOT, ERW, BTS
5) Global Play : IVL, IRPC and eye on PTL, AJ

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

AMATA (Consensus TP18F 27.02):  Support 20.4/20.0 Resistant 21.3/21.7

  • Theme: Investment related Play
  • Earnings Outlook: คาดกำไร 18F เติบโตสูง +35% y-y ที่ 1.9 พันลบ.ซึ่งคาดยอดขายที่ดินในปี18 จะสูงถึง 925 ไร่ สูงกว่าปี 17 มาก (2017 ขาย 431 ไร่) และมี Recurring income ที่เติบโตขึ้นจากการ COD โรงไฟฟ้า จะกลับสู่รอบการเติบโตโดดเด่นอีกครั้งช่วง 2 ปีข้างหน้า (18F-19F) โตเฉลี่ย 41.6% ต่อปี
  • Valuation: ราคาหุ้นปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER18F เพียง 12x มองว่าเป็นระดับที่น่าสนใจแล้ว และรอบนี้จะถูกขับเคลื่อนจากปัจจัยพื้นฐานของกิจการอย่างแท้จริง  ประกอบการ ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมา 28% ในรอบ 4 เดือน  มากกว่า WHA ที่ปรับลงมา 12%
  • Catalyst: กลุ่มอาลีบาบาลงนามเอ็มโอยูลงทุนไทย 4 ฉบับในพื้นที่ EEC เป็นความคืบหน้ารูปธรรมที่จะดึงความเชื่อมั่นกลับมา และรอบนี้จะกลับสู่รอบของปัจจัยพื้นฐานที่เน้นแนวโน้มผลการดำเนินงานเป็นหลัก

WHA (Consensus TP 4.63):  Support 3.9/3.82 Resistant 4.1/4.24

  • Theme : EEC Play
  • Earning Outlook : รับประโยชน์สูงจากนโยบาย EEC จากจุดแข็งทั้ง Location, มีลูกค้ากลุ่มยานยนต์ตั้งอยู่ในพื้นที่ ฯลฯ โดยคาดกำไรปีนี้เพิ่มราว 7% จากการขายที่ดินได้ที่ระดับ 1.2 พันไร่ (สูงกว่า 2014-16 ซึ่งขายได้เฉลี่ย 850 ไร่) และ Recurring income (พื้นที่เช่า + Utilities) เพิ่ม 5% 
  • Valuation : ราคาที่เริ่มกลับมา Outperform ได้อีกครั้ง  แต่ยังซื้อขายปัจจุบันอิง PER18F ที่ 16.2x ต่ำกว่าอดีตมาก
  • Catalyst : เช้านี้ (อิงข่าวหุ้น) รายงานกลุ่มอาลีบาบาจ่อเซ็นสัญญาเช่าที่ 1 แสนตร.ม. ตั้งเป้าดิจิตัลฮับกับ WHA หนุนความเชื่อมั่นหุ้นกลุ่ม EEC กลับมา ซึ่งรอบนี้จะเป็นรอบแห่งปัจจัยพื้นฐานที่อิงผลประกอบการหลักเป็นหลัก

IRPC (TP18F 8.9*):  Support 6.75/6.55 Resistant 7.1/7.25

  • Theme: Earnings Play
  • Earnings Outlook: คาดกำไรสุทธิ 2018F สูงถึง 1.35 หมื่นลบ. เติบโต +19.2% y-y ด้านกลุ่มปิโตรเคมี คาดสดใสทั้ง กลุ่มอะโรงเมติกส์และโอเลฟินส์ จากอานิสงส์ความต้องการใช้ PTA-PET และเม็ดพลาสติกเพิ่มขึ้น ประกอบกับต้นทุน feedstock นาฟทาปรับตัวลดลง ตามราคาน้ำมันดิบ โดยอัตรากำไร HDPE-NP และ PP-NP ล่าสุดอยู่ที่ US$813/ton +24%QTD และ US$698/ton +11%QTD สูงสุดในรอบ 3 ปี  โดยระยะสั้นงวด 2Q18F ประเมินกำไรฟื้นตัวจากทั้งโรงกลั่น (margin ดีขึ้น), กลุ่มปิโตร (เดินเครื่องเต็มกำลัง)
  • Valuation: ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมากว่า 8% ในรอบ 1 เดือน จากความกังวลงบ 1Q18 มองเป็นจุดน่าเข้าซื้อลุ้น Rebound โดยมี PER18F 10.5x อยู่ในระดับต่ำ และเป็นช่วงที่ยกระดับโรงกลั่นเป็นแบบ Complex ทัดเทียมรายอื่นๆ ซึ่งเป็น upside risk ต่อ Margin และประสิทธิภาพดำเนินงานในอนาคต
  • Catalyst: งบ 1Q18 ดีกว่าตลาดคาด 6% จะลดความกังวลของตลาดก่อนหน้านี้ และมีโอกาสเห็น Stock rotation กลับมาอีกครั้ง 

Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)   


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 พ.ค. 2561 เวลา : 10:41:21

16-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 16, 2024, 5:36 pm