กลยุทธ์วันนี้ >> Laggard Play//Accumulate on Weakness

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ต่อเนื่องตามคาดโดยกลุ่มสื่อสารฯสามารถประคองตลาดได้หลัง TRUE ประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 1800 MHz ในรอบนี้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องและสูงถึง 5.8 พันลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศและรายย่อยซื้อสุทธิ 3.3 พันลบ.และ 2.3 พันลบ. ตามลำดับ 
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways Up จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายขึ้นหลังสหรัฐฯและจีนยืนยันไม่ทำสงครามการค้า ขณะที่กลุ่มสื่อสารฯคาดว่ายังหนุนตลาดได้ต่อจากความกังวลเรื่องการประมุลคลื่น 1800 MHz ที่หมดไป อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือตัวเลข GDP 1Q18 เช้านี้ซึ่งหากออกมาดีกว่าคาด (ตลาดคาดเหนือ 4%) มีโอกาสที่ตลาดจะปรับประมาณการขึ้น อย่างไรก็ตามกรอบการบวกคาดว่ายังไม่กว้างนักโดยกลางสัปดาห์ติดตามศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายที่มา ส.ว. และอภิปรายกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.
  กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่ Laggard ตลาด//สะสมหุ้นพื้นฐานช่วงที่ตลาดอ่อนตัว
  หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : BEM, CHG, EA, SC, THANI  
  Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$1,093ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเวียดนาม US$1,249ล้าน ขณะที่ไหลออกไทย US$180ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลังการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> SAPPE <<

• แนะนำซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ราคาเป้าหมาย 29 บาท
• กำไร 1Q18 ที่ประกาศออกมาว่าดีแล้ว แนวโน้ม 2Q18 จะยิ่งดีกว่า เพราะเป็น High Season จากอากาศร้อน และยอดส่งออกที่ขยายตัวดี มีโอกาสเร่งตัวขึ้นอีกจากเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าราว 3% QTD
• คาดกำไรสุทธิปีนี้ 438 ลบ. (+9% Y-Y) และปีหน้า 496 ลบ. (+14% Y-Y) เป็น Top Pick ของกลุ่มเครื่องดื่ม

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (+) เจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนผ่านไปด้วยดี โดยทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันที่จะไม่ทำสงครามทางการค้า และจีนจะซื้อสินค้าจากสหรัฐฯมากขึ้นโดยเฉพาะสินค้าเกษตรและพลังงาน แม้กระบวนการในการแก้ใขปัญหาโครงสร้างการค้าจะต้องใช้เวลา แต่ผลการเจรจาที่ออกมาได้ช่วยลดความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก และถือเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะในเอเชีย
  (+) กลุ่มสื่อสาร มีประเด็นบวกหลัง TRUE แจ้งว่าจะไม่เข้าประมูลคลื่น 1800 MHz เพราะคลื่นในมือเพียงพอ (ตามคาด) ทำให้ตลาดคลายกังวลว่าการแข่งขันและราคาประมูลจะไม่รุนแรง โดยหากอิงสมมติฐาน DTAC และ ADVANC เข้าประมูลเพียง 2 ราย จะมีใบอนุญาตออกประมูล 1 ใบ (N-1) ซึ่งตามสมมติฐานของเราคาดว่า DTAC จะชนะประมูล (ADVANC ไม่จำเป็นต้องสู้ราคาเพื่อชนะรอบนี้ เนื่องจากยังมีใบอนุญาต 1800 MHz เหลืออีก 2 ใบที่สามารถประมูลรอบใหม่ได้ในอนาคต) เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ ADVANC (TP 220 บาท) และ DTAC (TP 55 บาท) และซื้อเก็งกำไร TRUE (TP 8 บาท)
  (0) CENTEL การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโทนกลางๆเช่นเดียวกับคู่แข่งคนอื่น ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารเดือน เม.ย. 18 ชะลอจากปีก่อนเพราะถูกกระทบจาก Easter แต่เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นในเดือน พ.ค. 18 ราคาหุ้นที่อ่อนตัวเป็นโอกาสซื้อลงทุน ราคาเป้าหมาย 54 บาท
  (+) THMUI ประกาศได้รับงานใหญ่ในส่วนของการขายและติดตั้งท่อ HDPE ให้กับกลุ่มลูกค้าเดิมที่ภูเก็ตมูลค่า 165 ลบ. รับรู้ใน 2Q18 ทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามมุมมองของเราก่อนหน้านี้ว่า THMUI มีโอกาสได้งานต่อเนื่อง (จากการสอบถามคนในพื้นที่) จากที่เคยได้ใน 3Q17 ราว 40 ลบ. ซึ่งรอบนี้ได้มากกว่าเดิม 4 เท่า แต่คาดมาร์จิ้นต่ำลงเพราะมีส่วนของงานรับเหมาด้วย เราคาดหนุนกำไรสุทธิ 2Q18 +393% Q-Q, +819% Y-Y อยู่ที่ 20 ลบ. ทำให้คาดการณ์กำไรปีนี้ที่ 53 ลบ. +147% Y-Y มีความเป็นไปได้มากขึ้น แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท (FSS เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ THMUI)
  (0) RSP ประชุมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโทนกลางๆ แนวโน้มกำไร 2Q18 น่าจะทรงถึงลงจาก 1Q18 ตามปัจจัยฤดูกาล บริษัทกำลังจะเปิดสาขา 2 ในกัมพูชา และลูกค้า wholesale เริ่มส่งคำสังซื้อมากขึ้นทั้งในไทยและกัมพูชา น่าจะได้เห็นการฟื้นตัวดีขึ้นใน 2H18 และยังมี Upside จากดีลซื้อกิจการ น่าจะได้เห็นอย่างน้อย 1 ดีลภายในปีนี้ เรายังคาดกำไรปีนี้โต 19.5% อยู่ที่ 270 ลบ. คงราคาเป้าหมายที่ 8.40 บาท แนะนำซื้อ (FSS เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ RSP)

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• (0) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวผสนผสานในคืนวันศุกร์ อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงที่จะหยุดพักเรื่องสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้ดาวน์โจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นประมาณ 1%
• (-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงหลังจากประเด็นทางการเมืองของประเทศอิตาลีกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง นอกจากนี้ ราคาโลหะที่ปรับตัวลดลงเป็นอีกปัจจัยลบต่อหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่ของยุโรป
• (+) บรรยากาศเรื่องสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ผ่อนคลายลงเป็นปัจจัยช่วยหนุนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ให้ปรับตัวขึ้น
• () ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งเมื่อเทียบกับเงินบาท ล่าสุดอยู่ที่ 32.20-32.30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
• (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับลดลงเล็กน้อยที่ 0.21 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 71.28 ดอลลาร์/บาเรลล์ หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ และตัวเลขการส่งออกของสหรัฐยังอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
• ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.90 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,291.30 ดอลลาร์/ออนซ์