ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน คาดว่า SET Index มีโอกาสเกิด Technical Rebound (29/06/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Stay in Domestic and Dividend Play

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways Down ได้ตามคาก่อนที่ช่วงท้ายตลาดจะมีแรงขายออกมาหนาแน่นและทำให้ดัชนีปิดลบแรงถึง 19 จุดและหลุดระดับ 1,600 จุด ฉุดโดยกลุ่มพลังงานและธนาคาร แรงขายยังมาจากฝั่งนักลงทุนต่างชาติ 2.1 พันลบ. โดยกระแสเงินทุนยังคงไหลออกต่อเนื่อง ขณะที่สถาบันในประเทศเริ่มพลิกมาขายเช่นกัน 1.6 พันลบ.
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index มีโอกาสเกิด Technical Rebound ระยะสั้นหลังลงมาทดสอบระดับ 1,600 จุด อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดยังปรับขึ้นได้จำกัดและมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อในระยะนี้จากประเด็นสงครามการค้าที่ยังยืดเยื้อและคาดว่ายัง Overhang ดัชนีไปอีกพักใหญ่ ขณะที่กระแสเงินทุนที่ยังไหลออก เราจึงยังเน้นพักเงินในหุ้น Domestic และ Defensive ที่จ่ายปันผลสูงน่าจะปลอดภัยกว่า 
  กลยุทธ์ : ยังพักเงินในหุ้น Domestic และ Defensive ที่จ่ายปันผลสูง
  หุ้นเด่นเดือนมิ.ย. : BGRIM, GLOBAL, MTC, PCSGH, TVO  
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$589ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$241ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$64ล้าน และไหลเข้าเวียดนาม US$1ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลจากภูมิภาค จับตามนโยบายทางการค้าของสหรัฐซึ่งน่าจะยังออกมาเพิ่มเติม 

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CPALL <<

  • แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 98 บาท
  • ธุรกิจ 7-11 ยังแข็งแกร่ง SSSG ใน 2Q18 โตต่อเนื่องแม้เป็นฤดูฝน เพราะกำลังซื้อฟื้นตัวและยังได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นราคาบุหรี่ ซึ่งโมเมนตัมนี้จะเร่งขึ้นอีกใน 2H18 ที่มักจัดโปรโมชั่นใหญ่ของปี เราคากำไรสุทธิทั้งปีที่ 2.45 หมื่นลบ. +23% Y-Y
  • PE2018 เหลือเพียง 27.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 33.7 เท่า ขณะที่ แรงขายเริ่มเบาลงพร้อมเกิดสัญญาณขัดแย้งเชิงบวกในทางเทคนิค จึงน่าจะเป็นหุ้น Domestic Play ที่ทนทานต่อสภาพตลาดผันผวนได้ดี

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (0) สศค. คาด 2Q18 GDP โตเกิน 4% แต่ไม่ถึง 1Q18 ที่โตสูงถึง 4.8% จากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว และรายได้เกษตรกรที่เริ่มกระจายไปทุกภูมิภาคและโตมากถึง 9% Y-Y สูงสุดในรอบ 13 เดือน ส่วนคาดการณ์ทั้งปีของ สศค. ยังคงไว้ที่ 4.5% โดยจะพิจารณาปรับประมาณการอีกครั้งใน ก.ค. นี้ 
  (0) DTAC เราคาดกำไรปกติ 2Q18 ของ DTAC จะหดตัวแรงเหลือเพียง 51 ลบ. -94.7% Q-Q, -93.1% Y-Y โดยถูกกดดันจากการเริ่มใช้งานคลื่น 2300 MHz ส่วนการดึงคลื่น 900 MHz กลับมาประมูลเรามองเป็นบวกต่อ DTAC และเป็นไปได้ที่จะตัดสินใจเข้าประมูล ราคาหุ้นปรับตัวลง 25% หลังจากประกาศไม่ประมูล 1800 MHz เรามองว่าสะท้อนปัจจัยลบไปมากและมี Downside ค่อนข้างจำกัดเที่ยบกับมูลค่าเหมาะสมเบื้องต้นหาก DTAC ไม่เข้าประมูลคลื่นใดเลย เราจึงยังมองเป็นจังหวะในการซื้อ โดยปรับราคาเหมาะสมลงเล็กน้อยเป็น 52 บาท 
  (-) BEAUTY ราคาหุ้นทำจุดต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งจากการตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้น เราไม่พบการขายออกของนักลงทุนสถาบันอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะมาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ (1) แนวโน้มผลประกอบการ 2Q18 อาจไม่โดดเด่นถ้าอิงจาก 1Q18 (2) เราคาดว่าจะเป็นผลจากการถูก Force sell ทั้งในส่วนของหุ้นและ Single Stock Futures สังเกตจากยอด SBL และปริมาณการซื้อขายใน BEAUTYU18 ที่เร่งตัวขึ้นมากใน มิ.ย. 18 เราอยู่ในช่วงทบทวนประมาณการ ซึ่งคาดว่าจะปรับกำไรปี 2018 ลง 11% เหลือ 1,398 ลบ. (+14% Y-Y) หรือเฉลี่ย 350 ลบ./ไตรมาส ซึ่ง Forward PE ตอนนี้อยู่ที่ 26 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีก และตรงกับจุดต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาด Downside ถือว่าเริ่มจำกัด แต่ให้รอซื้อเมื่อราคาเริ่มฟื้นตัวจะปลอดภัยกว่า 
  (0) GUNKUL ผู้ถือหุ้นเห็นชอบซื้อหุ้น FEC จากผู้ถือหุ้นเดิมที่เป็นบุคคลเกี่ยวโยงกัน มูลค่า 650 ลบ. เพื่อขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระบบไฟฟ้า สายส่งแบบเหนือดิน เคเบิ้ลใต้ดิน และสถานีไฟฟ้า การเข้าซื้อจะเพิ่มโอกาสในการเข้าประมูลงานในอนาคต โดยเฉพาะงานภาครัฐ แต่ก็มีความเสี่ยงความไม่แน่นอนและความล่าช้าของการประมูล ราคาหุ้นปรับลงมามาก แต่ในเชิงกลยุทธ์ยังไม่มี Catalyst เด่น จากนโยบายรัฐชะลอซื้อไฟเพิ่ม จึงยังไม่แนะนำให้ซื้อ 
      
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

29?มิ.ย.

-?ยูโรโซน:?อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.)

สหรัฐฯ: PCE Price Index (พ.ค.)

30 มิ.ย.

จีน: PMI ภาคการผลิต (มิ.ย.)

ก.ค.

สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (มิ.ย.)

ยูโรโซน: PMI ภาคการผลิต (มิ.ย.)

5-6 ก.ค.

สหรัฐฯ: เริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 818 รายการ 3.4 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ?

12 ก.ค.

ไทย: สนช.นัดลงมติเลือก กกต. ชุดใหม่

  • (+) ตลาดสหรัฐฟื้นตัวขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นอเมซอน หลังประกาศเข้าซื้อบริษัทยาออนไลน์
  • (-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง เนื่องจากข่าวที่ค่อนข้างสับสนจากทางรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับสงครามทางการค้าสร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุน
  • (-) ภาพรวมตลาดเอเชียยังคงถูกกดดันจากเงินทุนที่ไหลออกจากภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
  • () แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นอีก หลังนักลงทุนยังคงขายตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ 33.15 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นอีก 0.8% มาอยู่ที่ 73.34 ดอลลาร์/บาเรลล์ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบีย
  • ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 0.5% มาอยู่ที่ 1,249.40 ดอลลาร์/ออนซ์

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 มิ.ย. 2561 เวลา : 09:33:36

25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 12:19 pm