ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเคลื่อนตัวกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,253 – 1,258 เหรียญ โดยที่ภาพรวมของตัวเลขเศรษฐกิจยังใกล้เคียงเดิม อันได้แก่ Non-Farm Payrolls ที่ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดแต่ออกมาแย่กว่าเดิมที่ระดับ 213,000 ตำแหน่ง ขณะที่Unemployment Rate ออกมาเพิ่มขึ้นเกินคาดแตะ 4.0% และวันนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ขณะที่ SPDR ขายทองออกมา 1.18 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 802.24 ตัน ขณะที่ภาพรวมตลาดให้ความสนใจไปยังสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากที่สหรัฐฯประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 3.4 หมื่นล้านเหรียญ และจีนได้ทำการตอบโต้ด้วยมูลค่าเท่ากัน ทางด้านเงินบาทแข็งค่าลงมาที่ระดับประมาณ 33.12 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรอยู่ที่ 1.17600 ดอลลาร์/ยูโร โดยกลับมาเป็นทิศทางแข็งค่าอีกครั้งหลังจากที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาที่ 93.62 จุด

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ราคาทองคำเข้าสู่สภาวะ Sideways อีกครั้งหลังจากที่ปรับตัวลดลงและมีTechnical Rebound  ประมาณสามวันและยังหาทิศทางชัดเจนไม่ได้ ยังคาดว่าต้องรอประเด็นเนื้อข่าวใหม่ๆ และคาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับ 1,253 เหรียญเป็นแนวรับแรก และมีแนวต้าน 1,260 เหรียญ ซึ่งหากทองคำผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,270 เหรียญ โดยที่ Gold-D คาดว่าจะเคลื่อนไหว ในกรอบระหว่าง 1,253 – 1,260 เหรียญ ทางด้าน Gold Comex คาดจะมีแนวรับ 1,253 เหรียญเช่นกัน และมีแนวต้าน 1,262 เหรียญ

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

Wait&See เน้นทำกำไรระยะสั้น บริหารพอร์ตสมดุล

- นักลงทุนที่ถือ Long Position  

ลงซื้อขึ้นขายทำกำไรระยะสั้นในวัน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ เน้นปรับพอร์ตสมดุล

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

Wait&See รอติดตามความรุนแรงจากการตอบโต้มาตรภาษีหรือ Trade Warระหว่างสหรัฐฯและจีน

Gold Futures Q18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,780  บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,980  บาท