ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน คาดว่า SET Index จะปรับตัวลงทดสอบระดับ 1,620-1,630 จุด(11/07/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play//Accumulate on Dip

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นแรงกว่าที่เราประเมินโดยปิดบวกได้ถึงกว่า 20 จุด โดยเฉพาะในช่วงบ่ายที่มีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งได้อานิสงส์จากค่าการกลั่นที่ปรับขึ้นแรง 36% Y-Y แรงซื้อหลักยังมาจากสถาบันในประเทศและเร่งตัวขึ้นอีกเป็น 4.2 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องอีก 1.4 พันลบ.
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะปรับตัวลงทดสอบระดับ 1,620-1,630 จุดจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบจากแรงกดดันเรื่องสงครามการค้าอีกครั้งหลังล่าสุดสหรัฐฯเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านเหรียญ คาดมีผลในเดือน ก.ย. สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ยังต้องติดตามพัฒนาการของข่าวอย่างใกลิชิด เราคาดว่าจะเห็นแรงขายทำกำไรระยะสั้นในกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นดีในช่วง 2-3 วันก่อนหน้าและกดดันให้การฟื้นตัวของดัชนีไม่ใช่ลักษณะ V-Shape ระยะสั้นยังเน้นพักเงินในหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 2Q18 แข็งแกร่ง ส่วนการปรับลงของตลาดยังมองเป็นจังหวะในการซื้อลงทุนระยะยาว 
  กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q18 แข็งแกร่ง //สะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
  หุ้นเด่นเดือนก.ค. : BANPU, CPF, EPG, PTTEP, TISCO  
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$96ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$81ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$42ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลพลิกกลับมาไหลออกจากภูมิภาคอีกครั้งหนึ่งหลังสหรัฐมีแผนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีกจำนวนมาก

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> TISCO <<

  • แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 98 บาท
  • คาดกำไร 2Q18 (ประกาศเย็นนี้) จะออกมาดีสุดในกลุ่ม ที่ 1.8 พันลบ. +4% Q-Q, +22% Y-Y เพราะรายได้เพิ่มขึ้นจากพอร์ตที่ซื้อมาใหม่ และผลตอบแทนของเงินให้สินเชื่อสูงขึ้นจาก Consumer Finance ซึ่งถ้าเป็นไปตามคาด จะทำให้กำไร 1H18 โตถึง 28% Y-Y ดีกว่ากลุ่มที่คาด -3% Y-Y
  • ไม่ได้รับผลกระทบจากฟรีค่าธรรมเนียมการโอน รวมถึงประเด็นสงครามการค้าเพราะสินเชื่อส่วนใหญ่พึ่งพิงการบริโภคในประเทศ อีกทั้ง เป็นหุ้นปันผลดีที่เราคาดจ่ายสูงเฉลี่ย 6% ต่อปี (ปีละครั้ง)

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (+) ค่าการกลั่นขึ้นแรงจากจุดต่ำสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปรับขึ้นมาอยู่ที่ US$5.28/บาร์เรล +32% W-W จากสัปดาห์ที่แล้วที่ US$4/บาร์เรล เป็นไปตามฤดูกาลในทุกๆปี ที่ค่าการกลั่นจะปรับตัวลดลงช่วงปลาย 2Q ต่อเนื่องถึง 3Q เนื่องจากการเร่งกลั่นของโรงกลั่นโดยเฉพาะในทวีปอเมริกา เพื่อสะสมวัตถุดิบคงคลังก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุมและการปิดซ่อมบำรุงปลาย 3Q ที่จะทำให้ Supply บางส่วนหายไป ค่าการกลั่นในระยะนี้อาจยังผันผวนก่อนจะเข้าสู่ขาขึ้นจริงจังในช่วงปลาย 3Q18 แต่ราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นปีนี้ปรับลงเฉลี่ย 35% จนต่ำกว่าราคาพื้นฐานทุกตัว คำแนะนำจึงเป็นซื้อทุกตัวแต่หุ้นที่เราชอบเพราะกำไรโตสูงกว่ากลุ่ม ปันผลดีกว่ากลุ่ม และ PE ถูก คือ PTTGC (PE 7.3 เท่า, Yield 6.8%, ราคาเป้าหมาย 115 บาท) IRPC (PE 8.9 เท่า, Yield 5.7%,ราคาเป้าหมาย 9 บาท) 
  (+) ROBINS คาดกำไรสุทธิ 2Q18 อยู่ที่ 679 ลบ. (-10.8% Q-Q, +13.0% Y-Y)  แม้ SSSG อาจบวกเพียงเล็กน้อย +0.5% Y-Y แต่ถือว่าดีกว่าก่อนหน้าที่เราคาดจะติดลบ เพราะได้อานิสงส์จากการทำโปรโมชั่นครั้งใหญ่ของปี Greatest Grand Sales กอปรกับการทยอยฟื้นตัวของกำลังซื้อในต่างจังหวัด และบริษัทร่วมอย่าง Super Sport และ Power Buy ได้รับอานิสงส์จากเทศกาลฟุตบอลโลก จึงคาดเห็นส่วนแบ่งกำไรเติบโตได้ทั้ง Q-Q และ Y-Y และคาดกำไรสุทธิจะกลับมาเติบโตทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q18 ซึ่งเป็น High Season และมีการเปิดสาขาใหม่อีก 1 แห่งที่ชัยภูมิ เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ 3,112 ลบ. + 13.5% Y-Y และคงราคาเป้าหมายที่ 78 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดบน Forward PE เพียง 21 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 5 ปีย้อนหลังที่ 26 เท่า แนะนำซื้อ
  (+) M คาดกำไรสุทธิ 2Q18 อยู่ที่ 721 ลบ. (+14.1% Q-Q, +6.8% Y-Y) แม้ SSSG จะแผ่วลงเพราะได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกเยอะ แต่ด้วยผลของรายได้สาขาใหม่ จึงคาดรายได้จะยังเติบโตได้ และคาดอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวอยู่ในระดับสูง จากราคาหมูที่ปรับลงช่วยชดเชยการปรับขึ้นของราคาเป็ด คาดกำไรจะอ่อนตัวลงใน 3Q18 และจะกลับมาดีขึ้นใน 4Q18 เพราะเป็น High Season กอปรกับจะมีการเปิดสาขาใหม่ค่อนข้างมากเป็นปกติใน 4Q เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ +15.5% Y-Y เป็น 2,802 ลบ. และคงราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 90 บาท โดยคาดปันผลระหว่างกาลงวด 1H18 หุ้นละ 1.3 บาท คิดเป็น Yield 1.7% แนะนำซื้อลงทุน
  (+) CHG เราคาดกำไร 2Q18 ที่ 140 ลบ. หดตัว 27.4% Q-Q จากปัจจัยฤดูกาล แต่ยังโตโดดเด่น 18.3% Y-Y โดยได้อานิสงส์จากฝนที่มาเร็วและการบริโภคที่ฟื้นตัว ขณะที่แนวโน้มช่วง 2H18 ยังดีต่อโดยเฉพาะ 3Q18 ที่จะเป็นจุดสูงสุดของปีจาก High Season เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนใหญ่ในช่วง 2 ปีที่แล้วที่ออกดอกออกผลชัดเจนตั้งแต่ 1Q18 ที่ผ่านมาและยังคงประมาณการกำไรปกติโตแกร่ง 20.1% Y-Y อยู่ที่ 679 ลบ. ราคาหุ้นปรับตัวลง 14% ในช่วง 1 เดือนทำให้ Valuation อยู่ในโซนถูก และเป็น 1 ใน 15 หุ้นเด่นของเรา จึงยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.70 บาท 
  (+) BKD เรากลับมาแนะนำซื้อ BKD ในฐานะหุ้น Turnaround โดยคาดว่าผลประกอบการหลังจากนี้จะมีเสถียรภาพมากขึ้น จากการหันมาโฟกัสธุรกิจตกแต่งภายในที่ตัวเองถนัด จนทำให้ Backlog พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่จัดตั้งบริษัทมา ซึ่งก่อนหน้านี้ BKD ได้ขยายตัวเองไปรับงานก่อสร้างที่ไม่ชำนาญ จนทำให้ผลประกอบการปี 2016-2017 ทรุดตัว ขณะที่ การลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการน้ำ จะช่วยเพิ่มรายได้ประจำ ที่จะเข้ามาช่วยลดความเสี่ยงทางธุรกิจและ Risk Premium ในการประเมินมูลค่าหุ้น โดยเราคาดกำไรปกติปีนี้ที่ 172 ลบ. +366% Y-Y และปีหน้าที่ 228 ลบ. +32% Y-Y นอกจากนี้ BKD ยังมีการถือครองที่ดินสภาพคล่องสูงมูลค่าราว 1 บาทต่อหุ้น และมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ 4-5% ต่อปีด้วย เราประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี SOTP ได้เท่ากับ 4.50 บาท

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

11 ก.ค.

ไทย: TISCO ผลประกอบการ 2Q18

สหรัฐฯ: ประมูลพันธบัตรอายุ 10 ปี

12 ก.ค.

ไทย: สนช.นัดลงมติเลือก กกต. ชุดใหม่

สหรัฐฯ: อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.) และ

13 ก.ค.

จีน: ดุลการค้า (มิ.ย.)

  • (+) ตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 เมื่อวานนี้หลังจากหุ้นในกลุ่มบริโภคปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งตามผลประกอบการของหุ้น PepsoCo อย่างไรก็ตาม หลังตลาดปิด มีข่าวว่าสหรัฐเตรียมเสนอที่จะเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก US$200,000 ล้าน
  • (+) ตลาดยุโรปกลับมาให้ความสนใจเรื่องผลประกอบบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่ายังคงฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในระยะสั้นจะถูกกดดันจากเรื่อง Brexit ก็ตาม
  • (-) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวลงสะท้อนความกังวลเรื่องสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่อาจจะลุกลามอย่างต่อเนื่อง
  • () ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมาอยู่บริเวณ 33.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.26 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 74.11ดอลลาร์/บาร์เรล จากการประท้วงของคนงานในอุตสาหกรรมพลังงานในประเทศนอร์เวย์และกาบอง
  • () ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 4.20 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1255.40ดอลลาร์/ออนซ์

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 ก.ค. 2561 เวลา : 09:25:20

20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 12:51 am