คำแนะนำ

  ซื้อขายด้วยความระมัดระวัง โดยเสี่ยงเข้าซื้อหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอขายเมื่อราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน และนักลงทุนควรคำนึงถึงความเสี่ยงหลังราคาอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง

แนวรับ-แนวต้าน 
แนวรับ  1,237  1,222  1,213
แนวต้าน  1,252  1,261  1,272

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 5.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์   หลังจากในระหว่างการซื้อขายราคาทองคำร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 7 เดือนบริเวณ 1,236  ดอลลาร์ต่อออนซ์จากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์หลังจากการเปิดเผยยอดเกินดุลการค้าของจีนกับสหรัฐในเดือนมิ.ย.ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลในปี 1999  ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้การทำสงครามการค้าระหว่างสองประเทศทวีความรุนแรงมากขึ้น  ก่อนที่สกุลเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงในเวลาต่อมา  หลังการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากม.มิชิแกนที่ปรับตัวลดลงเกินคาดแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ 97.1 ในเดือนก.ค.และดัชนีราคานำเข้าที่ปรับตัวลงเกินคาดที่ 0.4% อย่างไรก็ตามราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นอย่างจำกัดโดยได้รับแรงกดดันจากแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่สื่อได้เผยแพร่ในวันศุกร์  ก่อนที่จะมีกำหนดแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในวันอังคารและวันพุธนี้  ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่าเฟดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกและเน้นย้ำว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดค้าปลีกและ Empire State Index ของสหรัฐ

ปัจจัยทางเทคนิค
  หากระยะสั้นมีแรงซื้อดันและราคาพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,252-1,261 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำจับตาแรงซื้อแรงขาย เพราะราคาทองคำยังคงมีการแกว่งตัวและแรงซื้อจำกัด หรือ หากไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อาจจะเกิดแรงขายสลับออกมาอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES  
  แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไร หากราคาทองคำขยับขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 1,252-1,261 ดอลลาร์ต่อออนซ์  และอาจเข้าซื้อคืนเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาบริเวณ 1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยไม่ควรลงทุนมากเกินไป