ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน SET Index คาดว่ายังคงอยู่ในช่วงแกว่งพักฐาน (15/08/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Laggard Play//Accumulate on Dip

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index อ่อนตัวลงตามคาดจากความกังวลเรื่องวิกฤตค่าเงินของตุรกีโดยระหว่างวันลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,684 จุด ใกล้เคียงกับระดับที่เราประเมินและแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นคืน ก่อนที่ตลาดจะรีบาวด์กลับขึ้นมาได้พอสมควรในช่วงบ่าย จุดที่สำคัญคือนักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิหนาแน่น 2.1 พันลบ. รวมถึง Net Short ใน Index Futures กว่า 1.4 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่ายังคงอยู่ในช่วงแกว่งพักฐานแม้ค่าเงินลีราตุรกีจะเริ่มฟื้นตัวได้บ้าง อย่างไรก็ตามเรายังมองการปรับขึ้นของตลาดระยะนี้ยังจำกัด โดยภาพรวมผลประกอบการ 2Q18 ของบริษัทจดทะเบียนถือว่าไม่ได้มี Surprise เชิงบวกอย่างมีนัยยะ จึงยังไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน ขณะที่การเริ่มพลิกมาขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติหลังจากที่ซื้อต่อเนื่องในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอีกปัจจัยกดดัน  
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่ยัง Laggard และมีประเด็นบวก //ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานคืนในช่วงตลาดพักตัว
หุ้นเด่นเดือนส.ค. : BJC, BKD, INTUCH, RS, SC  

Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$58ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไทย US$64ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$68ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค กังวลต่อสงครามการค้าที่ลุกลาม

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> THMUI <<

  • แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท
  • กำไรสุทธิ 2Q18 อยู่ที่ 16.5 ลบ. +306% Q-Q, +656% Y-Y จากการรับรู้งานวางท่อปะปาที่ภูเก็ต 156 ลบ. แนวโน้ม 2H18 ยังคงสดใส เพราะมีงานวางระบบน้ำต่อเนื่องทั้งโครงการเดิมและโครงการใหม่อีกราว 120 ลบ. และคาดว่ายอดขายลวดสลิงจะเร่งตัวขึ้นตามฤดูกาล ยังคงคาดกำไรสุทธิทั้งปีนี้ที่ 53 ลบ. +147% Y-Y
  • PE2018-19 เพียง 9-11 เท่า และ PEG อิงการเติบโตในช่วง 3 ปีข้างหน้าก็แค่ 0.5 เท่า แถมคาดจ่ายปันผลสูง 5% ต่อปี

ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) CK กำไร 2Q18 อยู่ที่ 541 ลบ. +79.5% Q-Q แต่ -19% Y-Y ตามคาด (เราคาด 540 ลบ.) หนุนจากการเติบโตของส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม ส่วนการลดลง Y-Y จากรายได้ที่สูงกว่าปกติใน 2Q17 กำไร  1H18 คิดเป็น 48% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปีที่ 1,757 ลบ. +17% Y-Y แนวโน้ม 2H18 คาดเร่งขึ้นจากความคืบหน้าของงานที่เพิ่มขึ้น คงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 34 บาท ทั้งนี้ CK ประกาศจ่ายปันผล 0.20 บ./หุ้น Yield 0.8% ขึ้น XD 27 ส.ค. 
(0) SPALI กำไรสุทธิ 2Q18 ออกมาตามคาดที่ 1.2 พันลบ. +40.5% Q-Q แต่ -8% Y-Y การหดตัว Y-Y มาจาก SG&A ที่เพิ่มขึ้น เพราะมีค่าใช้จ่าย Agent ในการขายห้องให้กับต่างชาติ กำไร 1H18 คิดเป็น 36% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปีที่ 5,795 ลบ. +8% Y-Y แนวโน้มกำไรคาดไต่ระดับขึ้น และทำจุดสูงสุดที่ 4Q18 จากการทยอยรับรู้ Backlog และแนวราบที่ไปได้ดี อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นมี Upside น้อยกว่า 10% จึงคงคำแนะนำถือ/ซื้ออ่อนตัว ราคาเหมาะสม 26 บาท โดย SPALI ประกาศจ่ายปันผล 0.40 บ./หุ้น Yield 1.6% ขึ้น XD 28 ส.ค.
(0) TVO กำไรสุทธิ 2Q18 เท่ากับ 582 ลบ. +4.3% Q-Q, +180% Y-Y หากไม่รวม FX Gain และกลับรายการ Inventory Loss จะมีกำไรปกติ 542 ลบ. +6% Q-Q, +196% Y-Y ถือว่าทำได้ดี แนวโน้มกำไรมักดีขึ้นใน 3Q ที่ถือเป็น High Season ของธุรกิจ ทั้งกากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลือง ที่มักขายดีก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ เรายังคาดกำไรปีนี้โต +67% Y-Y เป็น 2,218 ลบ. แม้ราคาถั่วเหลืองที่ลงนับตั้งแต่มีเรื่อง Trade War ล่าสุดมาอยู่ที่ US$8.7 บุชเชล -10% YTD แต่มองกระทบต่อผลประกอบการปีนี้จำกัด เพราะมีการล็อกปริมาณและราคาซื้อวัตถุดิบล่วงหน้าแล้ว และราคาถั่วเหลืองโซนอเมริกาใต้ (ซึ่ง TVO และผู้ใช้กากถั่วเหลืองในไทยนิยมซื้อกัน) ไม่ได้ปรับลงแรงตามราคาของสหรัฐฯ เบื้องต้นยังคงราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 38 บาท แนะนำซื้อ รับปันผลปีละ 6-7% 
(+) SAWAD รายงานกำไรสุทธิ 2Q18 ดีกว่าที่คาดที่ 606 ลบ. +7.5%Q-Q, -3.7%Y-Y ดีกว่าที่เราคาดแต่ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ สินเชื่อ +3.3%Q-Q, +6.3% YTD ดีกว่าคาด และ NPL Ratio ปรับลดลงเป็นปกติ เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2018 กลับขึ้นไปที่ 2.4 พันลบ. (-9.7%Y-Y) หลัง NPL Ratio ลดลงกลับสู่ระดับที่คาดหวัง จึงปรับลดประมาณการค่าใช้จ่ายสำรองฯลง 57% หรือ Credit cost ที่ 1.5% จากเดิม 2.8% มุมมองกำไรใน 2H18 น่าจะฟื้นตัวขึ้นตามฤดูกาลและสถานการณ์หนี้ที่ดีขึ้นรวมถึงการเลื่อนบังคับใช้ IFRS 9 ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 40 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไร จากเดิมถือ
(0) GFPT กำไรสุทธิ 2Q18 เท่ากับ 212 ลบ. +45.2% Q-Q, -57.1% Y-Y ใกล้เคียงคาด (เราคาด 220 ลบ.) หากไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยน จะมีกำไรปกติ 198 ลบ. +12.5% Q-Q, -58.6% Y-Y สาเหตุที่กำไรลดลง Y-Y มาจากฐานที่สูงในปีก่อน ค่าเงินบาทแข็งค่า และราคาไก่ในประเทศลดลง ส่วนกำไรที่กลับมาฟื้นตัว Q-Q ส่วนหนึ่งเพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลของการส่งออก เรามองผ่านกำไรต่ำสุดปีนี้แล้วใน 1Q18 แนวโน้มกำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่องใน 3Q18 เพราะเป็น High Season ของการส่งออก และราคาไก่ในประเทศเริ่มปรับขึ้น เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ที่ 910 ลบ. -48% Y-Y และคากลับมาโตอีกครั้งในปีหน้า 44% Y-Y เป็น 1.3 พันลบ. คงราคาเป้าหมายปี 2019 ที่ 14.5 บาท แนะนำซื้อ

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

15 ส.ค.

สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีก (ก.ค.)

อินโดนีเซีย: ดุลการค้า (ก.ค.)

16 ?ส.ค.

ญี่ปุ่น: ดุลการค้า (ก.ค.)

17?ส.ค.

-?สหรัฐฯ:?ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค?(ส.ค.)

20 ส.ค.

ไทย: 2Q18 GDP

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นจากการฟื้นตัวของค่าเงินลีราตุรกี รวมไปถึงผลประกอบการที่ดีกว่าคาดของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่
(-) ภาพรวมตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง หลังตลาดยังคงกังวลเรื่องความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างยุโรปและตุรกี ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบธนาคารในยุโรป
(-) ภาพตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวลง หลังกำไรบริษัทค้าปลีกออนไลน์ของจีนออกมาต่ำกว่าคาด นำโดย บริษัท Vipshop ที่กำไรปรับตัวลงราว 10% ทำให้เกิดแรงขายในอุตสาหกรรมตามมา
(-) ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.30-33.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 0.16 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 67.04 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์
(-) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ลดลง  0.27 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 7.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1200.70 ดอลลาร์/ออนซ์


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 ส.ค. 2561 เวลา : 09:28:30

20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 9:50 am