ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงท่ามกลางความกังวลในเรื่อง Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีนที่สหรัฐฯดูมีความต้องการจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าให้สูงถึง 2 แสนล้านเหรียญ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ได้แก่  ISM Manufacturing PMI ที่ออกมาดีขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 61.3 จุด จากระดับ 58.1 จุด ทางด้านกองทุนทองคำ SPDR ขายทองคำออกอีก 8.25 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 746.91 ตัน ขณะที่วันนี้ไม่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญใดๆ สำหรับดัชนีดอลลาร์เช้านี้ปรับย่อลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 95.31 จุด โดยเมื่อวานนี้ขึ้นไปแถว 95.67 จุด จึงทำให้ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าไปที่ 32.83 บาท/ดอลลาร์ มีการกลับแข็งค่าลงมาแถว 32.7 บาท/ดอลลาร์ โดยที่ตลาดมีแรงซื้อกลับทองคำเข้าบ้างเพียงเล็กน้อย

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 

ราคาทองคำหลุดระดับ 1,200 เหรียญลงมา หลังยืนเหนือระดับนี้ได้ประมาณ 5 วันทำการ ซึ่งการที่ราคาหลุดระดับแนวนี้ลงมาจึงทำให้กรอบ Sideways กลับมาเป็นขาลงระยะสั้น ขณะที่ระยะกลางและระยะยาวยังเป็นขาลง วันนี้จะมีแนวรับ 1,185 เหรียญ และแนวต้าน 1,200 เหรียญ สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เน้นทำกำไรทิศทางขาลงเป็นหลัก ทางด้าน Gold D จะมีกรอบเคลื่อนไหว 1,185 – 1,200 เหรียญ สำหรับ Gold Comex  Series Z จะมีแนวรับ 1,190 เหรียญ และแนวต้าน 1,205 เหรียญ

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ 

หาจังหวะ Open Short เมื่อราคาปรับตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน และซื้อปิดทำกำไรแนวรับ เน้นเป็นการทำกำไรขาลง

- นักลงทุนที่ถือ Long Position  

หาจังหวะปิดสถานะหรือลดสถานะหลังจากที่ราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,200 เหรียญได้

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ เมื่อราคามีการปรับลงมา 

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ภาพรวมระยะกลางและระยะยาวยังเป็นขาลง หาจังหวะทำกำไรขาลงหลังราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,200 เหรียญได้

Gold Futures V18 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,160  บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,360  บาท