ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.โนมูระพัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน คาดตลาด 'Sideway' 1766/1769จุด รับ 1744/1741จุด (24/09/61)


 “Domestic Play”

 CNS Daily Strategy: คาดตลาด “Sideway” 1766/1769จุด รับ 1744/1741จุด ประเด็นการค้าอาจเป็นจิตวิทยาลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง หลังสหรัฐฯ-จีนเริ่มเก็บภาษีนำเข้าระหว่างกันในวันนี้ แต่อย่างไรก็ดี คาดตลาดได้รับแรงหนุนจากทิศทางราคาน้ำมันดิบขาขึ้น ตอบรับ OPEC ประกาศคงกำลังการผลิต โดยเมินเฉยการเรียกร้องของสหรัฐฯ หนุนกลุ่มพลังงานโตต่อได้ ประกอบกับแรงหนุนในประเทศ ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8 เดือน ขยายตัว +9.94% สร้างรายได้กว่า 1.35ล้านลบ. กระตุ้นการบริโภคในประเทศฟื้นตัวต่อ วันนี้แนะนำ Theme “Domestic Play” : CK, BH, BBL

Nomura : Key Factors

  • (*) Trade: สหรัฐฯและจีนเริ่มเก็บภาษีนำเข้าระหว่างกันในวันนี้ + จีนยกเลิกเจรจาการค้า
  • (*) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -0.03% สู่ $70.78 /bbl / BRT +0.13% สู่ $78.80 /bbl
  • (+) OIL: OPEC ประกาศคงกำลังการผลิต โดยเมินเฉยการเรียกร้องของสหรัฐฯ
  • (+) TH: ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8M18 +9.94% สร้างรายได้รวมกว่า 1.35ล้านล้านบาท
  • (+) TH: คาดออก TOR โครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 มูลค่า 1.1 แสนล้านบาท ในต.ค.นี้
  • (+) Asia: ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดเอเชีย 5 ใน 6 วันทำการ รวม 3,025 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
  • (*) Fund Flow:ล่าสุดขายหุ้น-597ลบ., Short Future-4,419สัญญา, ซื้อBond +16,941ลบ.

Nomura Daily Top Picks: CK, BH, BBL

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway” ต้าน 1766/1769จุด รับ 1744/1741จุด ประเด็นการค้าอาจเป็นจิตวิทยาลบระยะสั้นต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง หลังทั้งสหรัฐฯและจีนเริ่มเก็บภาษีนำเข้าระหว่างกันในวันนี้ โดยสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 10% ขณะที่จีนเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 5-10% วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมถึงล่าสุด จีนประกาศยกเลิกการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ดี ตลาดถือว่าตอบรับปัจจัยนี้ล่วงหน้าไปมากแล้ว  ประกอบกับตลาดยังได้แรงหนุนจากทิศทางราคาน้ำมันดิบขาขึ้น จากผลการประชุม OPEC ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประกาศคงกำลังการผลิตที่ระดับเดิม แม้สหรัฐฯจะพยายามเรียกร้องให้ OPEC เพิ่มกำลังการผลิตก็ตาม ถือเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มพลังงานได้ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศ  กระทรวงการท่องเที่ยวเผย ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8M18 เติบโต 9.94% โดยสร้างรายได้รวมกว่า 1.35ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มถึง 12.85% หนุนการบริโภคในประเทศโตเด่น ผสานความคืบหน้ามาตรการภาครัฐฯ โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทยคาดออก TOR โครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 มูลค่า 1.1 แสนล้านบาท ในต.ค.นี้ และคาดยื่นซองช่วงปลายปีนี้ หนุนกลุ่มอิงการลงทุนเด่นต่อเนื่อง

Asset allocation : หุ้น 75% และเงินสด 7.5% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5%

Daily Strategy : ถือหุ้น 75% Sector Rotation เน้นสะสม Domestic Play BBL, KBANK, TMB, CPALL, ROBINS, ADVANC, CK, STEC, PYLON, AMATA, GOLD, SC, ERW, BH, และ Global Play (PTT, PTTEP) วันนี้เน้น “Theme “Domestic Play”

  1. หุ้นเด่น AOT(TP75.5) ท่าอากาศยานประกาศเดินหน้าประมูลดิวตี้ฟรี บวกจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน สค +3.04%y-y , CPALL(TP92) ปัจจัยบวกของหุ้นเข้ามาต่อเนื่องทั้ง Banking Agent และกำลังซื้อฟื้น
  2. หุ้น Laggard พื้นฐานดี ที่น่าสนใจ 1) SC, GOLD 2) TMB 3) CK, TOA, PYLON
  3. ราคาน้ำมันดิบเช้านี้ 79.12เหรียญฯ หนุน PTT, PTTEP, PTTGC เด่น
  4. รัฐเร่งแผนประมูล TOR 4 โครงการเร่งด่วน (มาบตาพุดเฟส 3, แหลมฉบังเฟส 3, สนามบินอู่ตะเภา, ศูนย์ซ่อมอู่ตะเภา) ให้ทัน ต.ค. นี้ มูลค่า 3.75 แสนลบ. เพิ่มเติมจากโครงการเชื่อม 3 สนามบิน (ยื่นซอง 12 พ.ย.) แนะนำ  AMATA, STEC และ Laggard CK, ITD, ROJNA
  5. ราคาน้ำมันขึ้นเหนือ 79.4เหรียญฯ หนุน PTT, PTTEP, PTTGC เด่น
  6. กลุ่ม รฟฟ เด่นการเติบโต เน้น GULF(เก็งเข้า MSCI พย นี้) BGRIM PSTC BWG
  7. Health Update ช่วง Seasonal จะหนุนกลุ่ม รพ Outperform ต่อเนื่อง เน้น BH(TP235) และ BDMS(TP31.2)
  8. Portfolio Top Picks SEP 2018 แนะนำ AMATA, AOT, BH, CPALL, TMB, TOA, AMANAH
  9. Road to Election 2019 : PTT, PTTEP,  BBL, KBANK, TMB,  CPALL, ROBINS, ADVANC,  STEC, AMATA, SC, GOLD, PLANB


2H18 Theme Domestic : Election play when oil surge
Best Picks 2H18 : PTT, IVL, BBL, KBANK, CPALL, CK, STEC, SEAFCO, PYLON, AMATA, GOLD
1.  Index Driver : PTT, BBL, KBANK, CPALL, PTTEP, IVL
2. Government Spending : STEC, CK, PYLON, SEAFCO, AMATA, ROJNA, SCC
3. Property : GOLD, SC
4. Tourism & Transport : ERW, BTS
5. Global Play : IVL, PTL
6. ICT : ADVANC
 
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

CK (TP19F 38.5*):  Support 27.25/26.5 Resistant 28.25/29.0

  • Theme: Investment related Play
  • Earnings Outlook: คาดเป็นผู้มีโอกาสได้งานประมูลภาครัฐสูง โดยใน 2H18F และ 2019F คาดมีงานประมูลภาครัฐมูลค่า 2-3 แสนลบ. และ 4.8 แสนลบ. โดยปัจจุบันฐาน Backlog ที่มีสูงกว่า 5.9 หมื่นลบ. ขณะที่ กำไร 2H18F คาดทรงตัว h-h
  • Valuation: ราคาหุ้นซื้อขายที่ PBV19F 1.85 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 1.93 เท่า
  • Catalyst: รับ Sentiment บวกจากประเด็นข่าวศาลฯมีคำพิพากษาให้ กทพ.ชำระเงินค่าชดเชยรายได้ที่ลดลงแก่ BEM (CK ถือหุ้น 30.83%) 1,790-3,297 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าต่อหุ้น BEM 0.12-0.22 บาท/หุ้น

BH (TP19F 235*):  Support 179.5/178 Resistant 186/188

  • Theme: Seasonal Play
  • Earnings Outlook: ชื่อเสียงของรพ.ที่จะดึงดูดทั้งผู้ป่วยและแพทย์มือดี ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่รักษาความสามารถในการแข่งขันระยะยาว และยังมีราคาถูกกว่าการรักษาในต่างประเทศ แนวโน้ม 3Q18F เราคาดว่ากำไรกลับมาเติบโต y-y และ q-q เป็นไตรมาสดีสุดของปี  ส่วนระยะยาวคาดกำไร +10%CAGR 19-20F จากรายได้เติบโตต่อเนื่องตามการใช้บริการ และผลของค่ารักษาโรครุนแรงสูงขึ้น
  • Valuation: แม้การเติบโตปีนี้จะอ่อนแอกว่ากลุ่ม แต่ราคาหุ้นถือว่าตอบรับไปมากแล้ว โดย YTD กลุ่ม +11% vs BH -4% มองเป็นจุดทยอยซื้อที่ดี  Valuation Discount มี PER19F อยู่ที่ 29.5x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 33.5x upside เปิดกว้าง 29% ในขณะที่พื้นฐานแข็งแกร่ง เป็นรพ.พรีเมียร์ที่เน้นรักษาโรครุนแรง  มี GPM, EBITDA margin สูงสุดในกลุ่ม รพ.
  • Catalyst: ยอดใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางในไทย (ซึ่งในส่วนนี้คิดเป็นสัดส่วนรายได้ราว 12% ของ BH) เพิ่มขึ้นในเดือน ก.ค.-ก.ย. 2018 ราว 3.5%y-y สู่ 17,980ล้านบาท +  เข้าช่วงฤดูกาลรพ.หนุนผลประกอบการ 3Q18F เป็นไตรมาสดีสุดของปี

BBL (TP19F 244*): Support 206/203 Resistant 212/214

  • Theme: Domestic Play
  • Earnings Outlook: คาดกำไรสุทธิ 3Q18F 9,500 ลบ. เติบโตเด่น +16% y-y เพราะการตั้งสำรองที่ลดลง จากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ประกอบกับคาดรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ตามสินเชื่อที่โต +6.5% y-y และคาดกำไร 4Q18F เติบโต y-y ผลักดันจากสินเชื่อยังเติบโต และรักษา NIM ใกล้เคียงเดิมได้ ทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น รวมถึงคาดการตั้งสำรองที่ลดลง
  • Valuation: ราคาเริ่ม Outperform แต่ยังเป็นจุดที่ลงทุนได้ และมี Valuation ที่ถูกกว่ากลุ่ม มี PBV19F เพียง 0.87x (ค่าเฉลี่ย -0.5SD) และต่ำกว่ากลุ่มมาก (1.13x)
  • Catalyst: มองกลุ่ม Bank จะกลับมานำตลาดได้จากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น และเม็ดเงินต่างชาติที่กลับมาซื้อต่อเนื่อง        

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 ก.ย. 2561 เวลา : 10:24:22

19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 12:19 am