ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (12 พ.ค.)

เวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังตลาดกังวลโควิด-19 ระบาดรอบสอง

ราคาน้ำมันดิบ

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 11 พ.ค. 63 เปลี่ยนแปลง

เวสต์เท็กซัส 24.14 -0.60

เบรนท์ 29.63 -1.34

ดูไบ 26.94 +0.89

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 11 พ.ค. 63 เปลี่ยนแปลง

เบนซินออกเทน 95 32.25 +1.92

น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 27.04 +5.64

ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 31.35 +1.66

น้ำมันเตา (3.5% S) 23.19 -0.15

- จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเยอรมนี, เกาหลีใต้ และจีนเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลประกาศคลายมาตรการปิดเมืองในประเทศ ทำให้ตลาดกลับมากังวลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

+ ซาอุดิอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน มิ.ย. 63 นอกเหนือจากข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตที่ให้ไว้กับกลุ่มโอเปกและพันธมิตร ซึ่งเริ่มมีผลเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา  ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียมีเป้าหมายในการผลิตน้ำมันดิบอยู่ที่ 8.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ค. - มิ.ย. 63

+ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนมีแนวโน้มคลี่คลาย หลังผู้แทนการค้าสองประเทศได้หารือกันเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าในระยะแรก และตกลงกันที่จะปรับปรุงบรรยากาศเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังหลายประเทศเริ่มผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง ทำให้มีการขับขี่มากขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการคลายมาตรการปิดเมืองในหลายประเทศ ประกอบกับอุปทานที่ลดลงจากการลดกำลังการผลิตและการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงกลั่นหลายแห่งในภูมิภาค