น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลด หลังความกังวลปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดิบ

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 12 มี.ค.64 เปลี่ยนแปลง                                                                     

เวสต์เท็กซัส 65.61 -0.41

เบรนท์ 69.22 -0.41

ดูไบ 68.03 +1.07

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 12 มี.ค.64 เปลี่ยนแปลง

เบนซินออกเทน 95  76.86 +1.51

น้ำมันก๊าดและอากาศยาน  69.99 +1.37                                                            

ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 72.13 +1.24

น้ำมันเตา (3.5% S) 63.35 +0.41

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลด หลัง JP Morgan คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 11.36 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 64 เพิ่มขึ้นจาก 11.32 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 63  เนื่องจากราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูง  สวนทางกับสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่คาดว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯในปี 64 จะลดลง 160,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับปี 63 อยู่ที่ระดับ 11.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ กลุ่มโอเปกคาดความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับเพิ่มช่วงครึ่งหลังของปี 64 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มลดลง จากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งกลุ่มโอเปกประเมินความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 64 จะอยู่ที่ระดับ 96.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 63 ราว 5.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ Baker Huges รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ลดลง 1 แท่นแตะระดับ 402 แท่น ณ สัปดาห์สิ้นสุด 12 มี.ค.64 ซึ่งต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 63 ร้อยละ 49

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณส่งออกน้ำมันเบนซิน ไปยังภูมิภาคแอฟริกาปรับเพิ่มขึ้น และปริมาณน้ำมันเบาคงคลังสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.3 ณ สัปดาห์สิ้นสุด 3 ก.พ.64

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการน้ำมันดีเซลในภูมิภาคอยู่ในระดับสูง เช่นจีน และเวียดนาม เนื่องจากการฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจ