สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -6.94 จุด ครม.เลื่อนฉีดวัคซีน AstraZeneca
SET แกว่งผันผวนในกรอบ 1562-84 เปิดสูง-ปิดต่ำ สวนทางหุ้นตปท.ที่ปรับขึ้น ขานรับปธน.ไบเดนลงนามร่างกม.กระตุ้นศก.รอบใหม่แล้ว ถูกกดดันจากนายกฯ พร้อมครม.เลื่อนฉีดวัคซีน AstraZeneca หลังยุโรปพบปัญหาการแข็งตัวของเลือด ต่างชาติขายสุทธิ 778 ลบ. 2 วันติด แต่ Long S50 Futures เล็กน้อย 1,089 สัญญา 3 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : พักฐาน ปัจจัยภายในกดดัน, Bond Yields ขยับขึ้นต่อ
หุ้นโลกวันศุกร์ (12 มี.ค.) ปิด +/- คละเคล้า หุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับลง จากแรงขายทำกำไร ท่ามกลางความกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับ Bond Yields ที่ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปิดแตกต่างกัน โดยดัชนี DJ และดัชนี S&P500 ปิดบวก แต่ดัชนี NASDAQ ปิดลบ นลท.ยังคงโยกเงินออกจากหุ้นเติบโตอย่างหุ้นเทคโนโลยีเข้าสู่หุ้นวัฎจักรและหุ้นคุณค่าอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของ Bond Yields และภาวะเงินเฟ้อ โดย 10Y US Bond Yield ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.63% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 13 เดือน ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนตัวลง 41 เซนต์ หรือ -0.6% แต่ยังทรงตัวในระดับสูงสุดรอบ 2 ปี คาดหวังการฟื้นตัวทางศก.และอุปทานยังถูกจำกัดด้วยการตรึงระดับการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งพักฐาน จากความกังวลสถานการณ์แพร่ระบาดฯ หลังมีผู้ติดเชื้อฯ พุ่งมากกว่า 150 คน จากคลัสเตอร์ใหม่ตลาดสดบางแค ซึ่งสูงกว่าระดับ 100 คนครั้งแรกในรอบ 1 เดือน ซ้ำเติมข่าวก่อนหน้านี้ที่นายกฯ และครม.เลื่อนฉีดวัคซีน AstraZeneca กระทบความเชื่อมั่นนลท. ขณะที่ Bond Yields ปรับตัวขึ้นทำไฮใหม่กดดันบรรยากาศการลงทุนโดยรวม แนวรับ 1562, 1550-55 แนวต้าน 1575, 1585 อนึ่ง IRCP ติด Cash Balance 15 มี.ค. - 2 เม.ย. จากมาตรการ Trading Alert
กลยุทธ์การลงทุน : แนะหาจังหวะเทรดดิ้งสั้น, พอร์ตลงทุน ขึ้นต่อ เริ่มแบ่งขาย
แนะหาจังหวะการเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย เล็งเป้า SET ขึ้นทดสอบบริเวณ 1580-85 และ 1600++ ตามลำดับ / พอร์ตลงทุน แนะถือ Let Profits Run แต่หาก SET เข้าใกล้ระดับ 1600 หรือสูงกว่า แนะทยอยแบ่งขายล็อกกำไร
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick DCC – คาดกำไรเบื้องต้นใน 1Q21F จะทำสถิติใหม่ที่ 455 ลบ. +23% YoY และ +25% QoQ จากยอดขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10% YoY และ 27% QoQ จากความต้องการที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทที่เพิ่มขึ้น และ DCC มีการปรับราคาขายขึ้นประมาณ 2-5 บ./ตรม. (1.5-4%) จากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ด้วยงบที่จะออกมาดี คาดบ.จะจ่ายปันผล Q1 ที่ 0.055 บ./หุ้น คิดเป็น Div. Yield รายไตรมาสที่ 2.4%, เราปรับประมาณการกำไรขึ้นเล็กน้อย เป้าพื้นฐานใหม่อยู่ที่ 3.3 บ. / หุ้นเกี่ยวข้องการส่งออกคาดจะได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 4 เดือน ชอบ CPF, GFPT, TFG, TU, HANA, KCE / FTSE ประกาศทบทวนดัชนี มีผลราคาปิด 19 มี.ค. – ปรับขึ้นจาก Mid เป็น Large Cap. – DELTA / ปรับลงจาก Large เป็น Mid Cap. – BEM, BGRIM, BTS, EGCO, TRUE / เข้า Small Cap. – DOHOME / ออก Small Cap. – BEAUTY / หุ้นได้ประโยชน์ Bond Yields ปรับขึ้น ชอบ BBL, TMB, BLA / หุ้นที่ได้ประโยชน์ศก.ฟื้นตัวและภาวะดบ.ต่ำ ชอบกลุ่มการเงิน – KKP, AEONTS และหุ้นปันผลดี (Div. Yield งวดนี้ > 4%) - AP, KKP, NYT, PYLON, ROJNA / หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Re-opening ศก. - AOT, BDMS, CENTEL, MINT, SPA, AMATA, WHA รวมทั้งกองทุนอสังหาฯ และรีท / กระแสกัญชา-กัญชง หุ้นที่มีศักยภาพสูงเริ่มต้นก่อน – DOD, RBF, STA อื่นๆ CBG, ICHI, SAPPE, RS / หุ้นน่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี ราคายังมี Upside ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, PTTGC
ข่าวเด่น