ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 14 มิ.ย. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม ตอบรับการฟื้นตัวของต้องการใช้น้ำมัน

+  ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี หลังตลาดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวเร็วกว่าคาด อาจส่งผลให้กลุ่มโอเปกพลัสต้องเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น

+  Goldman Sachs คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์มีโอกาสแตะระดับ 80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในช่วงไตรมาส 3 ปี 64 หลังสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ทำให้หลายประเทศ เช่นสหรัฐฯ และยุโรป เริ่มคลายมาตรการล็อคดาวน์ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันโลกในเดือน มิ.ย. 64 อาจเพิ่มขึ้นราว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค. 64 แตะระดับ 96.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5 แท่น สู่ระดับ 461 แท่น ณ สัปดาห์สิ้นสุด 11 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 63  โดยเป็นการเพิ่มขึ้น 89% เมื่อเทียบกับระดับต่ำสุดในเดือน ส.ค. 63

ราคาน้ำมันดิบ

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 11 มิ.ย. 64 เปลี่ยนแปลง                                                                    

เวสต์เท็กซัส 70.91 +0.62

เบรนท์ 72.69 +0.17

ดูไบ 71.33 +0.55

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 11 มิ.ย. 64 เปลี่ยนแปลง

เบนซินออกเทน 95  80.17 +0.96                                                           

น้ำมันก๊าดและอากาศยาน  76.08 +0.43                                                            

ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 76.89 +0.65

น้ำมันเตา (3.5% S) 63.95 +0.68

ราคาน้ำมันเบนซิน                          

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดกังวลอุปทานในภูมิภาคอาจตึงตัว หลังหน่วยผลิต FCC ขนาด 704,000 บาร์เรลต่อวันของโรงกลั่น Reliance ในอินเดีย หยุดดำเนินการผลิตฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.64

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ลดลง 1.7% ณ สัปดาห์สิ้นสุด 9 มิ.ย. 64 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า นับเป็นการลดลง 4 สัปดาห์ต่อเนื่อง หลังจีนส่งออกน้ำมันดีเซลลดลง