ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 13 ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์อาจฉุดเศรษฐกิจโลกลง
- ราคาน้ำมันดิบถูกกดดัน หลังการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ และความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงวัคซีน ยังคงคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์การใช้พลังงาน โดยปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อไวรัสสะสมทั่วโลกได้เฉียด 188 ล้านรายแล้ว ส่งผลให้หลายประเทศต้องกลับมาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ล่าสุดกรุงโตเกียวได้กลับมาดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดก่อนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน
- ความล้มเหลวในการเจรจาของกลุ่มโอเปกพลัสได้สร้างความไม่แน่นอนต่อนโยบายการผลิตน้ำมัน โดยทางกลุ่มได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุมออกไปโดยไม่มีกำหนด ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
+ นักลงทุนคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ จะยังคงปรับลดต่อได้จากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากโรงกลั่นมีแนวโน้มผลิตที่อัตราสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 12 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 74.10 -0.46
เบรนท์ 75.16 -0.39
ดูไบ 73.63 +0.46
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 12 ก.ค. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 86.22 +0.17
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 77.88 +0.60
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 78.72 +0.70
น้ำมันเตา (3.5% S) 65.97 +0.23
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในภูมิภาคเอเชีย ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินถูกกดดัน
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอินเดียมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันดีเซลลดลง อย่างไรก็ดี อุปสงค์โดยรวมยังถูกจำกัดจากมาตรการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่
ข่าวเด่น