ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย ขณะที่ยังคงมีความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนอยู่ เพียงแต่รัสเซียปรับกลยุทธ์ทางทหารโดยเน้นที่การล้อมเมืองมากกว่าการโจมตีเพื่อเอาชนะและลดการสูญเสีย ภาพรวมของดัชนีดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์เช้านี้แข็งค่าขึ้นมาที่ 99.10 จุด เรียกว่า ขึ้นไปทดสอบใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ ซึ่งจุดสูงสุดเดิมอยู่ที่ระดับ 99.41 จุด ทำให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งและขึ้นมาทดสอบ 33.70 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทจะมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 33.75 บาท/ดอลลาร์ และยังอยู่ในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นโดยมีโอกาสที่จะขึ้นไปที่แตะ 34 บาท/ดอลลาร์ และน่าจะมีแนวต้านที่แข็งแกร่ง โดยค่าเงินบาททำจุดสูงสุดเดิมไว้ที่ระดับ 34 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงเดือน พ.ย. 2564 ด้านกองทุนทองคำ SPDR ซื้อเข้าเมื่อวันศุกร์ 5.52 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,093.18 ตัน ขณะที่ราคาทองคำโดยส่วนใหญ่ทรงตัวอยู่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นและระยะกลางที่ระดับ 1,950 เหรียญ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทั่วไปดูจะทรงตัวใกล้เคียงตามที่คาดการณ์ สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Goods Trade Balance และ Prelim Wholesale Inventories m/m
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideway up โดยมีกรอบแนวรับที่ระดับ 1,940 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,965 เหรียญ โดยราคาทองคำยังคงเป็นลักษณะการเคลื่อนตัวอยู่แถวเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น และระยะกลาง สำหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,940 เหรียญ และแนวต้าน 1,965เหรียญ เช่นเดียวกัน ด้านราคาทองคำไทยน่าจะเปิดเท่าเดิม
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
Gold Futures Series J22 จะมีแนวรับที่ระดับ 31,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 31,450 บาท
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เทรดเก็งกำไรในกรอบแนวรับต้าน เน้นเทรดระยะสั้น
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
รอจังหวะเข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรเมื่อราคาย่อตัว
ข่าวเด่น