หุ้นทอง
บล.ทิสโก้เคาะ จังหวะนี้เหมาะ "ทยอยสะสม" หุ้นไทย ชี้ มูลค่าหุ้นลงมาถูกใกล้ช่วง COVID-19 - ปันผลน่าสนใจ


บล.ทิสโก้คาดหุ้นไทยเดือนธันวาคมจ่อผันผวนจากทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) และความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ชี้เป็นจังหวะทยอยซื้อสะสมเพราะมูลค่าหุ้นไทยไม่รวม DELTA (SET ex. DELTA) อยู่ในระดับน่าสนใจเทียบเคียงกับช่วง COVID-19 และมีผลตอบแทนจากปันผลที่สูง  

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนธันวาคมตลาดหุ้นไทย (SET Index) อาจแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ รอความชัดเจนของทิศทางดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหรือไม่หลังตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ล่าช้ากว่ากำหนด ประกอบกับปัจจัยการเมืองในประเทศที่ตลาดยังคงกังวลเรื่องการยุบสภา ซึ่งบล.ทิสโก้มองว่า ช่วงนี้เป็นจังหวะสะสม-ทยอยตั้งรับ คาดหวังตลาดจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงครึ่งเดือนหลังเมื่อปัจจัยข้างต้นมีความชัดเจน และมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นจากแรงขับเคลื่อนเงินกองทุนลดหย่อนภาษีทยอยไหลเข้า ผสานกับมูลค่าพื้นฐานหุ้นไทยซึ่งไม่รวมหุ้น DELTA (SET ex. DELTA) ถือว่าน่าสนใจเทียบเคียงช่วงวิกฤติ COVID-19 (อิงจากตัวแบบ Earning Yield Gap ที่ไม่รวมหุ้น DELTA) พร้อมมีเงินปันผลที่ดีช่วยจำกัดความเสี่ยงตลาดขาลงแม้ภาพเทคนิคยังเป็นลบอยู่ก็ตาม 

บล.ทิสโก้มองประเด็นหุ้นน่าสนใจในเดือนนี้ (1) หุ้นขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายลงทุนของ TESG แนะนำ ADVANC, CPALL, KTB และ (2) หุ้นที่มีเงินปันผลค่อนข้างสูงและมีปัจจัยบวกในระยะสั้น เด่น AMATA (ปันผล 5-6%, ได้ประโยชน์จากมาตรการ Thailand Fast Pass), BAM (ปันผล 7%, ได้ประโยชน์จากการจัดตั้ง JV AMC และคาดกนง.จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ธันวาคม), SCCC (ปันผล 7-8%, มีดีมานด์ซ่อมแซมหลังน้ำท่วม), TASCO (ปันผล 6%, มีดีมานด์ซ่อมแซมหลังน้ำท่วม) เพราะฉะนั้น หุ้นเด่นที่บล.ทิสโก้แนะนำเดือน ธันวาคม คือ ADVANC, AMATA, BAM, CPALL, KTB, SCCC และ TASCO  ด้านแนวรับสำคัญดัชนีหุ้นไทยเดือนนี้อยู่ที่ 1,250-1,260 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,220-1,230 จุด และ 1,200 จุด แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,300-1,320 และ 1,345 จุด ตามลำดับ 

“บล.ทิสโก้มองการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เดือน ธันวาคม นี้มีความไม่แน่นอนอยู่มากเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่รายงานล่าช้าจากปัญหาชัตดาวน์ก่อนหน้านี้จะทยอยออกมา อาจทำให้ตลาดประเมินโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของ FED เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา โดยข้อมูลสำคัญทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. จะรายงานในวันที่ 16 ธันวาคม และ 18 ธันวาคม ตามลำดับหลังการประชุม FED ในวันที่ 9-10 ธันวาคม อย่างไรก็ดีไม่ว่า FED จะลดดอกเบี้ยหรือไม่ในเดือนนี้ บล.ทิสโก้มองว่า FED ยังมีแนวโน้มจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า ในขณะที่การประชุมของธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ในวันที่ 17 ธันวาคม นี้ บล.ทิสโก้คาดจะลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เป็น 1.25% คาดจะเป็นผลดีต่อแนวโน้มการลงทุนในช่วงครึ่งเดือนหลัง” นายอภิชาติกล่าว  

ด้านการเมืองในประเทศดูไม่แน่นอนในระยะสั้น จากกระแสข่าวฝ่ายค้านเล็งยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจและอาจทำให้นายกฯ อนุทินชิงยุบสภาทันทีในวันแรกที่เปิดประชุมสภาสามัญประจำปีครั้งที่สอง 12 ธันวาคม นี้  หากการเมืองไทยสะดุด เข้าสู่สุญญากาศเร็วขึ้น อาจกระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการผลักดันงานต่าง ๆ ของรัฐบาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะมาตรการ “คนละครึ่งพลัส เฟส 2”  อย่างไรก็ดี ในมุมมองกรณีฐานของบล.ทิสโก้ยังเชื่อว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นตามกำหนดการเดิม คือ สิ้นเดือน มกราคม ปีหน้า รอให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ไปก่อนในช่วงกลางเดือน มกราคม เพราะฉะนั้นการเมืองในประเทศจะเห็นความชัดเจนเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือน ธันวาคม 

ด้านทางเลือกการลงทุนหุ้นต่างประเทศโดยผ่าน DR เดือน ธันวาคม นี้ แนะนำ XIAOMI80 และ PANW80 สำหรับ XIAOMI (1810 HK) ราคาหุ้นปรับตัวลดลงกว่า 30% จากจุดสูงสุดของรอบในเดือน กันยายน ทำให้เริ่มมีอัพไซด์ที่น่าสนใจ ประกอบกับข่าวที่รัฐบาลจีนพร้อมที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนในประเทศทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ไฟฟ้าล้วนส่งผลบวกต่อหุ้น ในขณะที่ PANW80 (PANW US) ประกอบธุรกิจด้าน Cybersecurity ที่มีการเติบโตไปควบคู่ AI และ Cloud ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐฯ เช่นเดียวกัน แต่ยังมีระดับการประเมินมูลค่าที่ถูกกว่าและมีอัพไซด์ที่สูงกว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ในกลุ่มอื่น 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 ธ.ค. 2568 เวลา : 15:55:56
02-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (2 ธ.ค.68) ลบ 4.77 จุด ดัชนี 1,271.80 จุด

2. ประกาศ กปน.: ด่วนมาก!!! คืนวันนี้ 2 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระรามที่ 3 ตัดถนนรัชดาภิเษก

3. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงรักษาแนวโน้มหลักเป็นขาขึ้นแนวรับที่ 4,200-4,180 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,250-4,280 เหรียญ

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (1 ธ.ค.68) บวก 19.90 ดอลลาร์ รับความหวังเฟดลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (1 ธ.ค.68) ร่วง 427.09 จุด เหตุบอนด์ยีลด์พุ่ง-ภาคการผลิตหดตัวเป็นเดือนที่ 9

6. พยากรณ์อากาศวันนี้ (2 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศา ฝุ่นละอองเพิ่มขึ้น "ยอดดอย" 4 องศา,ภาคใต้ฝนน้อย

7. ตลาดหุ้นไทยเปิด (2 ธ.ค.68) บวก 1.03 จุด ดัชนี 1,277.60 จุด

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (2 ธ.ค. 68) ร่วงลง 450 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,750 บาท

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (2 ธ.ค.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.02 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.90 - 32.15 บาท/ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (1 ธ.ค.68) บวก 19.88 จุด ดัชนี 1,276.57 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (1 ธ.ค.68) บวก 12.00 จุด ดัชนี 1,266.69 จุด

13. ทีทีบีคาดสัปดาห์นี้ เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.85 - 32.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ตลาดเงินจับตาเฟดลดดอกเบี้ย ธ.ค.

14. MTS Gold คาดราคาทองคำได้กลับเข้าสู่ทิศทางแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,210-4,190 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,280-4,300 เหรียญ

15. ทองเปิดตลาดวันนี้ (1 ธ.ค. 68) ปรับขึ้น 550 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,350 บาท

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 2, 2025, 3:31 pm