
จากนโยบาย "Quick Big Win" ของรัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง ที่มุ่งผลักดันเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและเห็นผลทันที เพื่อให้พ้นจากภาวะ "ติดหล่ม" จากสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว ปัญหา SMEs เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนในระบบ และผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ ตลอดจนปัญหาชายแดน และจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ล่าสุดจากภัยพิบัติ “อุทกภัย” ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รัฐบาลได้อนุมัติมาตรการสำคัญในการช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ด้วยการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อของ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผ่าน มาตรการค้ำประกันสินเชื่อ “บสย. Quick Big Win” วงเงินค้ำประกัน 50,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมาตรการ "กระตุ้นเศรษฐกิจ" ของกระทรวงการคลัง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ SMEs เพื่อช่วยปลดล็อกปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อและฟื้นฟูสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งเป็นฐานรากของเศรษฐกิจไทย ประกอบด้วย 3 โครงการหลัก ตามประเภทของ SMEs ได้แก่
โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Quick LG วงเงินค้ำประกัน 5,000 ล้านบาท ค้ำประกันต่อราย 1 แสนบาท – 100 ล้านบาท ตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ต้องใช้หนังสือค้ำประกัน เช่น ผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคธุรกิจ ฟรี! ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก ปีที่ 4-7 ค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 1%
โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Go Big วงเงินค้ำประกัน 35,000 ล้านบาท ค้ำประกันต่อราย 2 แสนบาท – 40 ล้านบาท ตอบโจทย์ SMEs ทั่วไป และ SMEs ขนาดเล็ก ธุรกิจซัพพลายเชนที่ต้องการสินเชื่อเกิน 1 ล้านบาท ฟรี! ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก ปีที่ 4-7 ค่าธรรมเนียมต่ำเพียง 1.5%
โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Smart Win วงเงินค้ำประกัน 10,000 ล้านบาท ค้ำประกันต่อราย 1 หมื่นบาท – 1 ล้านบาท ตอบโจทย์กลุ่มรายย่อย Micro SMEs กลุ่มอาชีพอิสระที่ต้องการสินเชื่อไม่เกิน 1 ล้านบาท ฟรี! ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก ปีที่ 4-7 คิดค่าธรรมเนียมตามระดับความเสี่ยง เริ่มต้น 1% โดย บสย. ได้นำ Credit Scoring Model และ Risk-based Pricing มาใช้ประเมินความเสี่ยงของลูกค้า เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และเพิ่มอัตราการอนุมัติสินเชื่อของ SMEs ที่มีความเสี่ยงที่ยอมรับได้มากขึ้น

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย. พร้อมขานรับนโยบายภาครัฐ เดินหน้ามาตรการค้ำประกันสินเชื่อ “บสย. Quick Big Win” มุ่งช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่ภาครัฐต้องการสนับสนุน ให้สามารถเข้าถึงเงินทุนได้อย่างรวดเร็วและเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการ SMEs ในการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐและภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจภาพรวม ผ่านการสร้างงาน สร้างรายได้ กระตุ้นการลงทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในระยะยาว โดยคาดว่าภายใต้มาตรการค้ำประกันสินเชื่อ “บสย. Quick Big Win” วงเงินค้ำประกัน 50,000 ล้านบาท จะสามารถช่วย SMEs ได้สินเชื่อกว่า 54,300 ราย สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกว่า 208,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบกว่า 59,500 ล้านบาท และรักษาการจ้างงานกว่า 554,800 ตำแหน่ง
สำหรับจุดเด่นของมาตรการค้ำประกันสินเชื่อ “บสย. Quick Big Win” ประกอบด้วย
1. ฟรี! ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก มุ่งลดภาระทางการเงินให้ SMEs
2. ชำระค่าธรรมเนียมต่ำเริ่มต้นเพียง 1% ต่อปี ตามวงเงินคงเหลือในปีที่ 4
3. คิดค่าธรรมเนียมตามระดับความเสี่ยง (RBP) โดยใช้ บสย Credit Scoring
4. ชดเชย NPL ในอัตราสูง (Max Claim) เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อให้ SMEs มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการค้ำประกันสินเชื่อ “บสย. Quick Big Win” ถือเป็น “มาตรการพิเศษ” เพื่อช่วยเหลือ SMEs ในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนจากปัจจัยลบรอบด้าน โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อกระตุ้นให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้กับ SMEs ในรายที่ต้องการสภาพคล่องเพิ่มเติม แต่ขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยเฉพาะ “กลุ่มเปราะบาง” ผู้ประกอบการรายย่อย Micro SMEs กลุ่มอาชีพอิสระ ที่มีปัญหาเข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบ ด้วยการจ่ายเคลม (จ่ายค่าประกันชดเชย) ในอัตราสูง หรือ Max Claim เมื่อเทียบกับโครงการค้ำประกันสินเชื่อโครงการอื่นๆ ซึ่งถือเป็นการดูดซับความเสี่ยงด้าน Credit Cost และเพิ่มโอกาสด้านเครดิต (Credit Enhancement) ให้กับ SMEs เพื่อลดอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) และทำให้สถาบันการเงินมีความเชื่อมั่นในการพิจารณาสินเชื่อเพิ่มให้กับ SMEs มากยิ่งขึ้น
“เป้าหมายของมาตรการนี้มุ่งช่วย SMEs ที่ขาดคนค้ำประกันหรือขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถเข้าถึงสินเชื่อตามนโยบายภาครัฐ ผ่านกลไกค้ำประกันของ บสย. ช่วยเสริมสภาพคล่อง ให้ SMEs สามารถต่อยอดและเติบโตทางธุรกิจ ผลักดันให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเห็นผลและชัดเจนในเวลารวดเร็ว” นายสิทธิกร กล่าว
ทั้งนี้ จากวิกฤต “อุทกภัย” ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ล่าสุด บสย. ได้ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือลูกค้า บสย. และลูกหนี้ที่ บสย. จ่ายเคลม ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยพักชำระค่าธรรมเนียม-ค่างวด อัตโนมัติสูงสุด 12 เดือน สำหรับผู้ประสบอุทกภัยและมีสถานประกอบการตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และพักชำระค่าธรรมเนียม-ค่างวด เป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับผู้ประสบอุทกภัยและมีพื้นที่ตั้งอยู่ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูเร่งด่วนแก่ลูกค้าและลูกหนี้ที่ บสย. จ่ายเคลม สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้น ผ่านกลไกการค้ำประกันของ บสย. ช่วยเติมทุนและเสริมสภาพคล่องให้กับ SMEs สามารถฟื้นฟูกิจการได้ภายหลังจากเหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน บสย. ยังมีมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” หรือ มาตรการ 3 สี ม่วง เหลือง เขียว ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความสามารถในการชำระหนี้ จุดเด่นคือ การตัดต้นก่อนตัดดอก อัตราดอกเบี้ย 0% ผ่อนยาว 7 ปี โดยปลดหนี้ ลดเงินต้นให้สูงสุด 30% พร้อม “ยกดอกเบี้ย” ช่วยให้ลูกหนี้สามารถ “อยู่รอด อยู่ได้” และ “ปลดหนี้” ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ช่วยต่อลมหายใจให้ธุรกิจ และทำให้ลูกหนี้มีกำลังใจ กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง นอกจากนี้ บสย. ยังทำหน้าที่เป็น “ที่ปรึกษาทางการเงิน” ให้คำปรึกษาด้านการเงินให้ SMEs เตรียมความพร้อมในการขอสินเชื่อ สร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน โดย SMEs ที่สนใจเข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อ “บสย. Quick Big Win” สามารถเข้ามาตรวจสุขภาพทางการเงิน พร้อมจองคิวขอรับคำปรึกษาที่ LINE OA : @tcgfirst ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือติดต่อขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs (บสย. F.A. Center) หรือสำนักงานเขต บสย. 11 แห่งทั่วประเทศ และ บสย. Call Center โทร. 02-890-9999
ข่าวเด่น