Special report : 2567 ท่องเที่ยวไทยโตเต็มที่ ททท. คาด รายได้เข้าประเทศ 3.5 ล้านล้านบาท


การท่องเที่ยวของไทยในปี 2566 ที่ผ่านมาจนถึงช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ นับว่ามีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ช่วงการเกิดไวรัสโควิด-19 ระบาด ด้วยแรงส่งของมาตรการจากทางรัฐบาล ที่เปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องมีการกักตัวก่อนเข้ามายังไทยเมื่อปีที่แล้ว ก็ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกที่จะมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น เพราะมีความสะดวกจากขั้นตอนการเข้าประเทศที่ไม่ซับซ้อนและยุ่งยากหากเทียบกับประเทศอื่นๆในช่วงเวลานั้นที่ยังมีมาตรการคัดกรองอยู่ และปัจจัยบวกอย่างประเทศจีน ที่เป็นตลาดใหญ่ของการท่องเที่ยวไทย ทางรัฐบาลจีนได้ยกเลิกนโยบาย Zero-COVID และเปิดประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นปีนี้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยมากขึ้น
 
การท่องเที่ยวที่คึกคักอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้ ทำให้เกิดเงินสะพัดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไปจนถึงปีหน้า ทั้งธุรกิจอาหาร ธุรกิจการโรงแรมอสังหาริมทรัพย์ ต่างมีการเติบโตขึ้นยกแผง และในปี 2567 จากทิศทางการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว ก็ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในปีหน้านี้ การท่องเที่ยวไทยจะมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนกว่าปีนี้ ทั้งจากการวิเคราะห์ของ Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย ได้ประเมินว่า การท่องเที่ยวไทยจะทยอยฟื้นตัวในปีนี้ และฟื้นตัวชัดในปี 2567 โดยคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติว่าจะอยู่ที่ 34.7 ล้านคน มีมูลค่าตลาดการท่องเที่ยวในภาพรวมเติบโตที่ 58-87% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยมีแรงหนุนจากความต้องการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่สะสมมานานกว่า 2-3 ปี
 
และทางด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ก็ได้มีการตั้งเป้าหมายการท่องเที่ยวในปี 2567 นี้ว่า รายได้จากนักท่องเที่ยวจากที่ตั้งเป้าไว้ 3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.5 ล้านล้านบาท และรวมกับคนไทยเที่ยวในประเทศอีก 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจัดได้ว่าเป็นเป้าหมายที่สูงที่สุด (ไทยเคยทำรายได้สูงสุดปี 2562 ที่ 2 ล้านล้านบาท) โดยทาง ททท.จะมีการผลักดันให้มีรายได้เข้าประเทศตามที่คาดการณ์ไว้บนพื้นฐานของสถานการณ์ท่องเที่ยวที่มีปัจจัยเอื้ออำนวยในทุกด้าน ทั้งมาตรการฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2566 - 29 ก.พ.2567 และขยายวันพำนักแก่นักท่องเที่ยวรัสเซียจาก 30 เป็น 90 วัน เป็นกรณีพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2566 - 30 เม.ย.2567 รวมทั้งยกเว้นวีซ่าชั่วคราวให้อินเดียและไต้หวัน ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.2566 - 10 พ.ค.2567 และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วัน อีกทั้งยังมีปัจจัยส่งเสริมจากการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดิอาระเบีย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้กลับมามีความสัมพันธ์ขั้นปกติแล้ว ทั้งการยกระดับในด้านผู้แทนทางการทูตของทั้ง 2 ประเทศจากอุปทูตให้กลับมาเป็นระดับเอกอัครราชทูตและกลไกความร่วมมือทวิภาคี เพื่อให้เกิดความร่วมมือในส่วนภาครัฐและเอกชน และทำให้ชาวอาหรับ ที่จัดว่าเป็นกลุ่ม High Spending หันมาท่องเที่ยวในไทยกันมากขึ้นอีกด้วย
 
นอกจากนี้ ทาง ททท.ยังมีการวางแผนกระตุ้นตลาดด้วย 5 ทิศทางหลัก ได้แก่ เสริมภาพลักษณ์แบรนด์ท่องเที่ยวไทยด้านความยั่งยืนและใช้เป็นจุดขายใหม่ของประเทศไทย เน้นไม่สร้างภาระ แต่สร้างสาระรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและชุมชน (Travel with Care) กระจายรายได้อย่างทั่วถึง (Fair Income) และเสนออัตลักษณ์ท้องถิ่นเป็นจุดขาย (Encourage Identity & Biodiversity) โดยจะรุกเปิดตลาดคุณภาพใหม่ให้ท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โฟกัสตลาดใหม่ในภูมิภาคยุโรปและ
ตะวันออกกลาง และขยายสู่กลุ่มตลาดย่อย ซึ่งเป็นผู้มีรายได้สูง มีการเพิ่มความถี่และการกระจายตัวท่องเที่ยวหลากหลายพื้นที่มากขึ้น ที่เอื้อให้สามารถเที่ยวไทยตลอดทั้งปี ซึ่งจะควบคู่กับการนำเสนอ Soft Power ในด้านต่างๆ ของประเทศ
 
ทั้งนี้ ทางด้านนักท่องเที่ยวจีน ตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวในไทยนั้น อ้างอิงข้อมูลจาก VRANDA ผู้นำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไลฟ์สไตล์การพักผ่อนแบบ Exclusive เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทของไทยในไตรมาส 3 ปี 2566 ได้รับผลกระทบจากการธุรกิจท่องเที่ยวไทยที่ยังมีปัจจัยลบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังเดินทางมายังประเทศไทยน้อยกว่าคาด ทำให้มาตรการฟรีวีซ่ากับทางจีน ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2566 เป็นต้นมา จะเป็นโอกาสที่ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยขยับขึ้น ซึ่งหลังจากวันที่ 1 ต.ค. (ช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน) ที่ผ่านมา การเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนจนถึงปัจจุบันยังทรงตัวที่ระดับ 8,000-10,000 คนต่อวัน ทำให้ ททท.ต้องจับตาสถานการณ์ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค. 2566 ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 15,000 คนต่อวัน ตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ ซึ่งมาตรการฟรีวีซ่าดังกล่าว จะยิงยาวไปถึง 29 ก.พ. 2567 เป็นระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งทางททท.ก็มีแผนเตรียมเสนอต่ออายุมาตรการ ‘วีซ่าฟรีนักท่องเที่ยวจีน’ ไปถึงสิ้นปี 2567 ให้รัฐบาลพิจารณา เพื่อทำให้การท่องเที่ยวไทยในปีหน้าฟื้นตัวอย่างเต็มที่ตามที่คาดเอาไว้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 พ.ย. 2566 เวลา : 20:12:17
กลับหน้าข่าวเด่น
06-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 6, 2024, 6:41 am