หลังจากปิดปรับปรุงศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ด้วยงบประมาณกว่า 1,800 ล้านบาท  มาวันนี้ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์พร้อมแล้วที่จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งด้วยโฉมใหม่ หลังจากใช้ระยเวลาในการปิดปรับปรุงไปนานถึง 4 เดือน  เพื่อลอกคราบภาพลักษณ์เก่าทิ้งให้เหมาะสมกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปหลังจากเปิดให้บริการมานานถึง 40 ปี

ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์กลับมาเปิดตัวอีกครั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากตัวศูนย์การค้าจะมีความทันสมัยทั้งภายในและภายนอก  ยังได้มีการนำเสนอคอนเซ็ปต์ Ideaopolis เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ศูนย์กลางแห่งจินตนาการและงานสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัดในศาสตร์แห่งสุนทรีย์ ของศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์มาใส่ไว้ในศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์แห่งนี้อีกด้วย

นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายส่งเสริมธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ กล่าวว่า  การกลับมาเปิดศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ในครั้งนี้  บริษัทได้จัดสรรพื้นที่โซนใหม่ รวมถึงร้านค้าใหม่ในส่วนของกลุ่มอินเตอร์แบรนด์ เข้ามาเปิดให้บริการมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าแฟชั่น  เช่น  “ uperdry “  แบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลกจากประเทศอังกฤษมีสาขาทั่วโลกใน 40 ประเทศและขายผ่านออนไลน์ใน 91 ประเทศทั่วโลก หรือ TRUCCO  แบรนด์แฟชั่นยอดนิยมจากสเปน  ที่สามารถทำยอดขายต่อตร.ม.ได้สูงสุดแบรนด์หนึ่งในสเปน  เพื่อเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ทางเลือกให้กับเหล่าแฟชั่นนิสต้าขาช้อป นอกจากนี้ยังมีแบรนด์  Zara  ปัจจุบันมีสาขากว่า 200 สาขาใน 20 ประเทศทั่วโลก  และ Blanco อีกหนึ่งแฟชั่นแบรนด์สุดฮอตจากสเปน มีสาขากว่า 240 ร้านใน 15 ประเทศทั่วโลก  เข้ามาเปิดให้บริการภายในศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์แห่งนี้

ทั้งนี้แต่ละแบรนด์ที่นำเข้ามาเปิดให้บริการส่วนใหญ่จะเป็น Flagship Store แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวคิดการออกแบบเต็มไปด้วยความมีศิลปะในสไตล์ Modern Gypsy ทั้งแตกต่างและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แต่ละคอลเลคชั่นเป็นการเล่าเรื่องราวความทรงจำสุดพิเศษจากการท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ซึ่งจะมีชื่อเรียกตามชื่อเมืองที่ดีไซเนอร์ TRUCCO ได้ผ่านการเดินทางไปถึง Models own เครื่องสำอางจากอังกฤษ ที่ให้ความสำคัญกับสีสันแห่งเทรนด์ ด้วยรูปแบบ Kiosk แปลกตา

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวกว่า แนวคิดในการปรับปรุงสยามเซ็นเตอร์ รูปโฉมใหม่ จะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ "สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์"  ซึ่งในส่วนของวันเปิดศูนย์จะมีด้วยกัน 2 วันคือ วันที่ 9 ม.ค. และวันที่ 11 ม.ค. บริษัทได้เตรียมงบกว่า 200 ล้านบาท เพื่อจัดสุดยอดมหกรรมอีเว้นท์แห่งปี  สำหรับงานแกรนด์โอเพนนิ่งสยามเซ็นเตอร์

สำหรับในส่วนของวันที่ 9 ม.ค. จะเป็นวัน Preview Day  จะเป็นการจัดงานแบบเอ็กซ์คลูซีฟ พรีวิว สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจ เจ้าของแบรนด์ชื่อดังจากต่างประเทศที่บินมาร่วมงาน และแบรนด์ชั้นนำของไทย แขกวีไอพี เซเลบริตี้ และผู้นำในวงการต่างๆ ของไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ Be The First  ขณะที่วันที่ 11 ม.ค. งานแกรนด์โอเพนนิ่ง  เปิดให้คนรักสยามเข้าร่วมสัมผัสรูปโฉมใหม่ได้ตั้งแต่ 18.00 น. เป็นต้นไป  พร้อมกับชมเซอร์ไพรส์ต่างๆภายในงาน

นางชฎาทิพกล่าวต่อว่า  นอกจากรูปโฉมของสยามเซ็นเตอร์ที่เปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด และร้านค้าแบรนด์ดังทั้งแบรนด์ยอดนิยมและแบรนด์ที่นำเข้ามาใหม่ไม่เคยเปิดที่ใดมาก่อนมากมายแล้ว ยังจัดเตรียมไฮไลท์ระดับเวิลด์คลาสที่ไม่เคยปรากฏในเมืองไทยมาก่อน เพื่อรอต้อนรับคนรักสยาม

นอกจากนี้ในส่วนของสินค้าและบริการของร้านค้าทุกร้านยังจะมีการนำเสนอแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่สยามเซ็นเตอร์เท่านั้น โดย 20% ของสินค้าจะเป็นการออกแบบและจำหน่ายเฉพาะที่สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งรวมถึงร้านอาหารที่จะมีเมนูเด็ด มีจำหน่ายที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น  โดยในส่วนของสินค้าและบริการที่มีความพิเศษเฉพาะนี้จะติดป้ายว่า  Absolute Siam  เพื่อให้ลูกค้สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย

สำหรับโฉมใหม่ของศูนย์การค้าสยามเซ้นเตอร์นั้นชั้น 1  จะเป็นชั้น "Idea Avenue" เปิดโอกาสให้เหล่าอาร์ทติสทั้งระดับชั้นแนวหน้าและคนรุ่นใหม่ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้จัดแสดงผลงานซึ่งถ่ายทอดไอเดีย จินตนาการ และฝีมือ แบบไร้ขีดจำกัด ในธีม “Timeline Extendist” นำเสนอเรื่องราวของสยามเซ็นเตอร์ใน 3 มิติเวลา ผ่านเทคโนโลยีสุดล้ำ อีกทั้งร่วมสนุกกับการท่องโลกภายใน 5 นาที กับ "Digital Mirror Room" ซึ่งผู้ชมสามารถเล่นสนุกไปกับภาพดิจิตอลต่างๆ เหล่านี้ได้ราวกับสัมผัสโดยตรง
ขณะที่ชั้น 2 จะเป็น Fashion Galleria พื้นที่ของอินเตอร์แบรนด์เสื้อผ้าและแอ็คเซสเซอรี่ ทั้งกลุ่มแฟชั่นและกลุ่มคอสเมติก มีการจัดพื้นที่แบบคอนเซ็ปต์ช็อป (Concept Shop) ซึ่งทุกร้านค้าออกแบบการตกแต่งร้านสุดทันสมัยในลุกส์โทนสีขาวดำการตกแต่งของร้านค้าคอนเซ็ปต์ช็อปได้รับการสร้างสรรค์ด้วยรูปทรงแปลกตา

ชั้น 3 Fashion Visionary ศูนย์รวมแบรนด์ดีไซเนอร์ไทยชั้นนำครบครันที่สุดในประเทศไทย ที่เหล่าดีไซเนอร์ต่างออกแบบเนรมิตร้านใหม่ทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นแฟล็กชิปสโตร์ที่มีสินค้าครบที่สุด นำเสนอความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว การตกแต่งบริเวณชั้น 3 จะเป็นแนวออร์แกนิคลุกส์ ใช้วัสดุตกแต่งด้วยไม้ เหล็ก และทองแดง   

ส่วนชั้น 4 Food Factory แหล่งแฮงค์เอ้าท์สุดฮิปแห่งใหม่ใจกลางเมือง ด้วยภัตตาคาร ร้านอาหารนานาชาติ รวบรวมร้านเด็ด จานดังมากมาย ท่ามกลางบรรยากาศแปลกใหม่ แนวอินดัส-เทรียลลุกส์ ที่จะเป็นแหล่งนัดพบที่สนุกสนาน เปิดให้บริการถึงเที่ยงคืน
หลังจากกลับมาเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง  เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา  บริษัท สยามพิวรรธน์ก็ตรียมที่จำทุ่มงบประมาณมากถึง 600 ล้านบาท เพื่อใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์และทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2556  ซึ่งงบประมาณที่เตรียมไว้ดังกล่าวถือได้ว่ามากกว่าทุกศูนย์การค้าที่บริษัท สยามพิวรรธน์  เคยดำเนินการมา

ขณะเดียวกันยังได้ใช้งบอีกกว่า 70 ล้านบาท เพื่อใช้ในด้านกลยุทธ์และนวัตกรรมทางการตลาดผ่านเทคโนโลยีใหม่ๆ  ด้วยการจัดตั้งทีมดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งขึ้นมาอย่างเป็นทางการประมาณ 12 คน  ในการทำงานด้านดิจิตอลโดยเฉพาะ  เพื่อให้นับจากนี้ไปศูนย์การค้าสยามซ็นเตอร์จะมีระบบการสื่อสารภายในศูนย์เป็นแบบไฮเทคโนโลยีทั้งหมดด้วยระบบดิจิตอล  ซึ่งจะเห็นได้จากภายในศูนย์การค้ามีสื่อโฆษณาแบบดิจิตอลทั้งหมดจะไม่มีสื่อโฆษณาแบบเดิมที่เป็นป้ายผ้า ป้ายโปสเตอร์เหมือนกับที่ผ่านมา

นอกจากนี้ภายในอาคารยังจะมีการติดตั้งจอแอลอีดีและมอนิเตอร์รูปแบบต่างๆมากกว่า 500 จอทั่วอาคาร  เป็นการโชว์ Moving Art Content หรือแม้แต่การสื่อสารแกะนำสินค้าของแบรนด์ต่างๆ เช่น Digital Closet  หรือ Digital Stylist ที่ลูกค้าสามารถลองเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านจอทัชสกรีนระบบดิจิตอลได้  และหาข้อมูลสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ได้อย่างง่ายดาย  

สิ่งที่กล่าวไปข้างต้นจะเกิดขึ้นทั้งหมดภายในศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ตั้งแต่ชั้น 1 -4  การกลับมาของศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์โฉมใหม่ครั้งนี้นางชาฎาทิพกล่าวว่า  สยามเซ็นเตอร์ จะไม่ใช่ศูนย์การค้าอีกต่อไป แต่จะเป็น The Ideaopolis เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ศูนย์กลางแห่งจินตนาการและงานสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัดในศาสตร์แห่งสุนทรีย์ของ ศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ เป็นศูนย์รวมแห่งแนวคิดและการออกแบบใหม่ๆ จากทั่วโลก.