ประกัน
3บิ๊กประกันชีวิตกางแผนชุดใหญ่ชูธงปั๊มเบี้ยโต15-30% ไม่หวั่นเศรษฐกิจซบ


 

 

 

ขาใหญ่ประกันชีวิตกางแผนรุกตลาด ไล่ปั๊มเบี้ยสนุกมือ ตั้งธงกวาดเบี้ยโต 15-30% พร้อมงัดกลยุทธ์ลุยทุกช่องทางขาย ตัวแทน-แบงก์-เทเลมาร์เก็ตติ้ง พร้อมดึงเทคโนโลยีเสริมทุกช่องทาง หวังตีตลาดลูกค้ายุคดิจิตอล หวังยกระดับประสิทธิภาพระยะยาว 

 

 

 

 

 

นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยประกันชีวิต เปิดเผยว่า ในปี 2557 บริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยปีแรกจากทุกช่องทางไว้ที่ 17,200 ล้านบาท เติบโตขึ้น 30% โดยจะมาจากช่องทางตัวแทน 13,500 ล้านบาท และช่องทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวแทน ซึ่งประกอบด้วยแบงก์แอสชัวรันซ์และเทเลมาร์เก็ตติ้งอีก 3,700 ล้านบาท 

 

“กลยุทธ์ที่จะใช้สนับสนุนการเติบโตตามเป้าหมายนี้ เราจะบริษัทจะพัฒนาไปสู่การเป็น People Business หรือการทำธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับ “คน” ในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขาย พนักงานบริการ สาขา เพื่อมุ่งสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการไปตอบโจทย์คนที่เป็นลูกค้า รวมถึงคนในสังคมด้วย” 

 

นายไชยยังกล่าวถึง ฝ่ายขายที่เป็นช่องทางการขายหลักของบริษัทว่า ปีนี้จะยังคงเน้นพัฒนาให้เป็นผู้วางแผนดูแลชีวิต หรือ Life Planner ให้แก่ลูกค้า เพื่อสร้างความแตกต่างด้านบริการซึ่งเป็นจุดแข็งของช่องทางการขายนี้ รวมถึงปีนี้น่าจะได้เห็นการพัฒนาความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ถือหุ้นใหม่คือ  กลุ่มเมจิ ยาซึดะ ไลฟ์ อินชัวรันส์ จากญี่ปุ่น ที่เข้ามาถือหุ้น 15% ในไทยประกันชีวิต ก็จะเริ่มขยายไปสู่ฐานลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่นมากขึ้นด้วย 

 

 

 

 

ด้านนายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายเติบโตด้านเบี้ยรับรวม 30% หรือคาดว่าจะมีเบี้ยรับรวมกว่า 59,000 ล้านบาท จากสิ้นปีที่ผ่านมาซึ่งทำได้ 45,496 ล้านบาท โดยวางกลยุทธ์หลักไว้ 3 ด้านคือ การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อผลักดันสินค้าที่ตรงกับความต้องการในแต่ละช่วงชีวิต และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าออกมาตอบโจทย์ให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น ที่ผ่านมาได้ออกสินค้าคุ้มครองตลอดชีพ มาตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มที่ต้องการวางแผนด้านทรัพย์มรดก และแบบประกันชดเชยรายได้ ตอบโจทย์กลุ่มที่มีอาชีพอิสระ 

 

กลยุทธ์การขายผ่านหลากหลายช่องทาง เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่มาใช้ผลักดันยอดขายให้ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยมีแบงก์แอสชัวรันซ์เป็นช่องทางหลักในการสร้างเบี้ยเช่นเดิม พร้อมกับให้ความสำคัญกับช่องทางตัวแทนและช่องทางธุรกิจเฉพาะควบคู่กันไป 

 

สุดท้ายคือ กลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพระบบปฏิบัติงาน ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำเทคโนโลยีทันสมัยมาสนับสนุนการขายผ่านทุกช่องทางขาย และรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตด้วย เช่น สามารถเรียกร้องสินไหมได้ที่สาขาของไทยพาณิชย์ประกันชีวิตทั่วประเทศ 

 

 

 

 

ขณะที่นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ที่ตั้งเป้าหมายสร้างเบี้ยรับรวมในปีนี้ด้วยอัตราเติบโตไม่น้อยกว่า 15% หรือคิดเป็นมูลค่าเบี้ยเกือบ 70,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วซึ่งทำได้ 60,249 ล้านบาท นอกจากกลยุทธ์สำคัญด้านหลากหลายช่องทางเพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายแล้ว ปีนี้บริษัทจะวางเป้าหมายให้เป็น “Digital Insurer” หรือผู้ให้บริการด้านประกันชีวิตด้วยดิจิตอล 

 

แผนการเติบโตดังกล่าว นายสาระอธิบายว่า จะนำระบบดิจิตอลเข้ามาใช้เชื่อมโยงข้อมูลด้านการนำเสนอแบบประกันแก่ลูกค้าในทุกช่องทาง ทั้งแบงก์แอสชัวรันซ์ที่จะมีแอพลิเคชั่นบนแท็บเล็ตมาช่วยวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าและนำเสนอแบบประกันที่เหมาะสม พร้อมกับทราบผลการพิจารณารับประกันเบื้องต้นทันที ตัวแทนก็จะมีระบบสมาร์ทแอพลิเคชั่นใหม่ที่ช่วยทั้งกระบวนการขายและรีครูตตัวแทนใหม่ ขณะที่การตลาดทางตรงและช่องทางพิเศษ ก็จะเน้นการเจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยสื่อดิจิตอลมากขึ้น 

 

“ตอนนี้เรากำลังลงทุนปรับระบบปฏิบัติงานหลักใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องลงทุนค่อนข้างมากและกินเวลาพอสมควร แต่เราเห็นความจำเป็นของระบบงานใหม่นี้ เพราะต้องการให้กระบวนการทำงานทุกขั้นตอนสามารถเชื่อมโยงกันผ่านระบบดิจิตอลได้หมด ตั้งแต่การขายซึ่งเป็นงานหน้าบ้าน ไปจนถึงงานหลังบ้านและบริการทั้งหมด จึงให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก” นายสาระกล่าว


LastUpdate 17/04/2557 22:46:17 โดย : Admin
16-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 16, 2024, 8:20 pm