กีฬา
เรื่องถ่ายทอดบอลโลกยังเป็นประเด็น.....by คุณนกฮูก


 

 

ย้อนเวลากลับไปเมื่อราวๆ 2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเมืองไทยมีข่าวใหญ่เรื่องลิขสิทธิการถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2012 ซึ่งแกรมมี่ เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ครั้งนั้นถ่ายทอดผ่านทางฟรีทีวีจริงแต่ว่าผู้ที่ชมผ่านดาวเทียมและเคเบิลทีวียักษ์ใหญ่ไม่สามารถชมได้ กลายเป็นปรากฎการณ์จอดำ ยกเว้นแต่ผู้ที่ซื้อกล่องดาวเทียมของแกรมมี่เท่านั้น เรียกว่าตอนนั้นนอกจากกล่องแกรมมี่แล้ว เสาอากาศแบบหนวดกุ้งก็เป็นอีกทางเลือกที่คอบอลซื้อหามาเพื่อลุ้นทีมรักหน้าจอ มาในปีนี้ ถึงเวลาของฟุตบอลโลก แม้ตอนนี้จะยังไม่ถึงเวลาของการแข่งขันก็เป็นประเด็นเสียแล้ว

"อาร์เอส" เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งจากทั้งหมด 56 แมตช์ จะถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีเพียงแค่ 22 แมตช์ ส่วนใครที่ต้องการดูครบ ทั้ง 56 แมตช์ ต้องซื้อกล่องดาวเทียมที่ชื่อ "กล่องบอลโลก"
 
ด้วยแผนเช่นนี้ทำให้ทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ยื่นเรื่องต่อศาลเ พราะมองว่า อาร์เอส ทำผิดกฎมัสต์ แฮฟ (Must Have) ที่ระบุว่ากีฬาทัวร์นาเมนต์สำคัญๆ 7 ทัวร์นาเมนต์ อาทิ ฟุตบอลโลก โอลิมปิก ฯลฯ ซึ่งศาลก็ได้ยินยอมให้อาร์เอส ทำตามแผนเดิม คือ จำหน่ายกล่องบอลโลก และให้ถ่ายถอดผ่านทางฟรีทีวีได้ 22 นัด เพราะกฎ มัสต์ แฮฟ เกิดขึ้นหลังจากที่ อาร์เอส ได้ลิขสิทธิ์ หากจะเอากฎมาใช้ย้อนหลังจะไม่เป็นธรรม
 
 
 
 
"ผมคิดว่าเรื่องของกฎ มัสต์ แฮฟ อย่างน้อยควรเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการน่าจะรู้อยู่ก่อน ถ้าจะเข้ามาประมูลทุกคนก็ไม่มีข้ออ้างอยู่แล้ว ตรงนี้คือสิ่งที่ที่เรายืนยันตลอดเวลาว่าไม่เป็นธรรม เพราะเป็นกฎย้อนหลัง แต่ถ้ากฎ มัสต์ แฮฟ มีมาก่อนผมก็เข้าใจในจุดนี้" นี่คือคำพูดของ"เฮียฮ้อ" นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)
 
ซึ่งจนถึงบัดนี้ เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะถึงเวลาของฟุตบอลโลกแล้ว ก็คงจะต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีการอุทธรณ์หรือเปล่า 
 
กรณีนี้ถ้ามองกันจริงๆ ต่างฝ่ายก็มีเหตุผลของตนเอง ทางอาร์เอสก็มีเหตุผลที่น่าฟังว่ากฎมัสต์ แฮฟ ถ้านำมาใช้ย้อนหลังก็จะไม่เป็นธรรมกับทางอาร์เอส แต่ขณะเดียวกัน ทาง กสทช.ก็ต้องการให้ประชาชนได้ชมการถ่ายทอดสดทุกคู่ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
 
ซึ่งไม่ว่าครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร หากในอนาคตการถ่ายทอดกีฬาสำคัญๆ ลิขสิทธิ์ยังเป็นของบริษัทเอกชน ไม่ใช่โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โอกาสที่ประชาชนจะต้องถูกผลัดกภาระให้หากล่อง หรือเสียเงินเพื่อชมกันแน่ เพราะเจ้าของลิขสิทธิ์ก็ต้องการผลประโยชน์ทางธุรกิจ 
 
เป็นไปได้ที่อีกหน่อย บางบ้านอาจต้องมีกล่องเกือบสิบกล่อง ถ้าจะดูกีฬาทุกทัวร์นาเมนต์ที่ต้องการ
 

LastUpdate 19/04/2557 14:33:36 โดย : Admin
10-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 10, 2024, 6:35 pm