_R.jpg)
_L.jpg)
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้เปิดตัว "ฮอนด้า โมบิลิโอ ใหม่" ยนตรกรรมอเนกประสงค์ขนาดซับคอมแพคท์ ที่พร้อมตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนในยุคปัจจุบัน
.jpg)
ฮอนด้า โมบิลิโอ ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีสไตล์สปอร์ตทันสมัย ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ด้วยเบาะนั่งปรับพับได้แบบพับจังหวะเดียว เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ และมาตรฐานความปลอดภัยครบครัน
“ปัจจุบันฮอนด้านำเสนอยนตรกรรมในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ ถึง 3 รุ่น ได้แก่ โอดิสซีย์ สเตปแวกอน สปาด้า และฟรีด เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและการใช้งานในหลายรูปแบบ ซึ่งทั้ง 3 รุ่นได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี สำหรับฮอนด้า โมบิลิโอ ใหม่ นี้ นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 4 ของกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ ที่มาเติมเต็มความต้องการของตลาดในระดับต้นให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยราคาที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ และนับเป็นรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นแรกของฮอนด้าที่ผลิตในประเทศไทย”
ฮอนด้า โมบิลิโอ ใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ ซีวีทีใหม่ ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,600 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่คล่องตัว และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม
ฮอนด้า โมบิลิโอ ใหม่ ยังมีระบบความปลอดภัยครบ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก พร้อมระบบกระจายแรงเบรก ถุงลมคู่หน้า และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ แอลอีดี
ฮอนด้า โมบิลิโอ ใหม่ ตอบรับทุกการใช้งานที่หลากหลาย สำหรับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปท่องเที่ยวแบบครอบครัว การทำกิจกรรมต่าง ๆ ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความคล่องตัวในการเดินทาง และยังต้องการพื้นที่ในการบรรทุกอุปกรณ์กีฬา หรือสันทนาการ รวมถึงการทำธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องใช้รถในการบรรทุกสินค้า ฮอนด้า โมบิลิโอ ใหม่ จึงเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ลงตัวในทุกรูปแบบการใช้งาน
ฮอนด้า โมบิลิโอ มีให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น อาร์เอส เอที มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตในทุกมุมมอง ด้วยกระจังหน้าแบบโครเมียมดีไซน์สปอร์ต ไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมไฟหรี่แบบ แอลอีดี ไฟตัดหมอกคู่หน้า กันชนหน้าและหลังแบบสปอร์ต พร้อมสเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบแอลอีดี ภายในสีดำ และมีเบาะนั่งเป็นแบบ 3 แถว โดยแถวที่ 2 พับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับแบบจังหวะเดียว และมีระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว มาพร้อมการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่านช่องเชื่อมต่อเอชดีเอ็มไป สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ลำโพง 4 ตัว ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย ราคา 739,000 บาท
รุ่น วี เอที ภายในสีเบจ และมีเบาะนั่งเป็นแบบ 3 แถว พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ราคา 682,000 บาท
รุ่น เอส มีทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดา ภายในสีดำ และมีเบาะนั่งเป็นแบบ 2 แถว ซึ่งมีพื้นที่ด้านหลังเพื่อบรรทุกสัมภาระได้จำนวนมาก พร้อมถาดรองสัมภาระท้ายรถ เพื่อความสะดวกในการบรรทุกของต่าง ๆ
รุ่น เอส เอที ราคา 642,000 บาท และรุ่น เอส เอ็มที ราคา 597,000 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) ในทุกรุ่น และเพิ่มสีขาวออร์คิด (มุก) เฉพาะในรุ่น อาร์เอส เอที และรุ่น วี เอที และเพิ่มสีขาวทาฟเฟต้า เฉพาะในรุ่น เอส
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น