ประกัน
"สาระ" บิ๊กเมืองไทยประกันชีวิต "ยกแม่ทัพกรำศึกประกันเดือด ลั่นปี 58 วางกลยุทธ์ดักทุกช่องทาง กวาดเบี้ยรับรวมโตไม่ต่ำกว่า 18%


"เมืองไทยประกันชีวิต"อัดเต็มสตีม เดินหน้าลุยปั๊มเบี้ย "สาระ ล่ำซำ"ลั่นปี 58 เบี้ยรับรวมโตไม่ต่ำกว่า 18% ผ่านทุกช่องทาง ทั้งเพิ่มตัวแทน 1 หมื่นคน ออกกรมธรรม์จับกลุ่มนิชมาร์เก็ต ก้าวสู่การเป็น "digital insurer" ยกระดับบริการทุกมิติ สร้างความสุขกระจายไปทั่วประเทศ จับลูกค้าทุกกลุ่มทุกวัย พร้อมประกาศสุดยอดผลงานปี 57 กวาดเบี้ยกว่า 7.5 หมื่นล้าน ขยายตัว 25%



 
 
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2557 ที่เพิ่งผ่านมานั้น ภาวะเศรษฐกิจเต็มไปด้วยความผันผวนและมีปัจจัยแวดล้อมเข้ามากระทบค่อนข้างมาก แต่ธุรกิจประกันชีวิตก็ยังสามารถเติบโตได้เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากผู้บริโภคเข้าใจและเห็นประโยชน์ของประกันชีวิตมากขึ้น ทั้งในแง่การคุ้มครองชีวิต ออมเงิน และควบคู่การลงทุน ผนวกกับความตื่นตัวด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงมีปัจจัยหนุนจากการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากค่าเบี้ยประกันที่ชำระมา

ส่วนเมืองไทยประกันชีวิต ในปี 2557 ยังคงสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ 35,275 ล้านบาท เติบโต 28%เบี้ยประกันต่ออายุ 39,958 ล้านบาท เติบโต 22%และเบี้ยรับรวม 75,234 ล้านบาท เติบโต 25%

 
 
นายสาระ กล่าวว่า ในปี 2558 บริษัทฯ ยังคงนโยบายการเติบโตทางธุรกิจโดย “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” และการเข้าถึงลูกค้าผ่านหลากหลายช่องทาง เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกกลุ่ม และทุกระดับ สามารถค้นหาและนำเสนอแบบประกันได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยช่องทางตัวแทนจะมุ่งพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของฝ่ายขายสู่การเป็นที่ปรึกษาด้านการประกันชีวิตให้มีคุณภาพและบริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร รวมถึงสนับสนุนให้เข้าร่วมการแข่งขันคุณวุฒิต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง
 
 
"ปีนี้เมืองไทยประกันชีวิตมีแผนที่จะเพิ่มตัวแทนฝ่ายขายใหม่อีก 1 หมื่นคน จากปัจจุบันมีตัวแทนอยู่ทั้งสิ้น 2.6 หมื่นคน ทำให้ทั้งปีนี้เมืองไทยฯจะมีมีตัวแทนเพิ่มเป็น 3.6 หมื่นคน"
 
 
นายสาระกล่าวต่อไปว่า ส่วนแบงก์แอสชัวรันซ์ที่กำลังเติบโตมากในเวลานี้ บริษัทฯ จะเน้นกระชับความร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นสถาบันการเงินต่างๆ และประสานการทำงานอย่างใกล้ชิด ขณะที่ช่องทางความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจอื่นๆ (Affinity) รวมถึงการตลาดทางตรงอย่าง เทเลมาร์เก็ตติ้ง และการโฆษณาผ่านโทรทัศน์ (DRTV)ที่จะเติบโตทั้งในแนวลึกด้วยการศึกษาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าเพื่อมาพัฒนาเป็นแบบประกันที่ตอบโจทย์ได้ตรงใจของลูกค้าแต่ละกลุ่ม พร้อมกับทำตลาดในแนวกว้างด้วยการหาพันธมิตรรายใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
 
"สำหรับแบงก์แอสชัวรันซ์ เมืองไทยประกันชีวิตไม่ได้มองแค่วางผลิตภัณฑ์ไว้บน Shelf ของแบงก์เท่านั้ัน แต่วันนี้เป็นอีกสเต๊ปที่เราจะออกผลิตภัณฑ์ที่อิงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มแต่ละไลฟ์ไสตล์ ซึ่งเร็วๆ นี้ เมืองไทยฯจะออกกรมธรรม์ที่เป็น Niche Market  จับตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยกลุ่มแรกที่จะออกคือกลุ่มข้าราชการ กับโครงการ"เมืองไทยข้าราชการสุขสันต์" ที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มข้าราชการโดยฉพาะ นอกจากนี้ก็จะออกแบบกรมธรรม์ที่เป็น Niche Market ในกลุ่มอื่นๆ ต่อไป"นายสาระกล่าว
 

 
 
 
ด้านบริการเพื่อลูกค้า นายสาระกล่าวว่า บริษัทฯ ได้ยกระดับการบริการทุกมิติ และทุกช่องทางการติดต่อ โดยศูนย์บริการลูกค้าที่ปัจจุบันมีกว่า 153 แห่ง และปีนี้มีแผนจะเปิดเพิ่มอีกกว่า 10 แห่ง เพื่อให้สามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นแหล่งชุมชน ห้างสรรพสินค้า และช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ต่างๆ ขณะเดียวกันจะเพิ่มขีดความสามารถบริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้ายิ่งขึ้น เช่น ชำระเบี้ยประกัน รับเงินสินไหมทดแทน รวมถึงบริการกู้ยืมตามกรมธรรม์ที่สามารถรอรับได้ ณ ศูนย์บริการลูกค้า (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด)

สำหรับทิศทางตลาดที่ขยับเข้าสู่โลกดิจิตอล ซึ่งบริษัทฯ ได้เริ่มปรับตัวและประกาศยุทธศาสตร์การเป็น “digital insurer” มาก่อนหน้านี้แล้วนั้น นายสาระกล่าวว่า ปีนี้จะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น แยกเป็น 3 มิติ คือ มิติของลูกค้า มิติของพันธมิตรทางธุรกิจและคู่ค้าในช่องทางต่างๆ และมิติของพนักงาน โดยเฉพาะมิติของลูกค้าที่จะเริ่มเห็นความชัดเจนก่อน เช่น การเปิดให้สมาชิก “เมืองไทย Smile Club” สามารถดูข้อมูลกรมธรรม์ ค้นหาโรงพยาบาลคู่สัญญา การแลกคะแนนสะสม Smile Point ผ่านแอปพลิเคชั่นได้ง่ายๆ ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมความสุขต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงในส่วนบริการลูกค้ากับโครงการเมืองไทยเลขาส่วนตัวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในปีนี้จะมีการพัฒนาการสู่ digital insurer ที่จะเปิดให้ลูกค้าสามารถแชทออนไลน์สอบถามข้อมูลกับทางเมืองไทยประกันชีวิตได้
   
 
 
 
เช่นเดียวกับกลยุทธ์การสื่อสารกับลูกค้าและผู้บริโภคที่บริษัทฯ จะตอกย้ำภาพลักษณ์ของ “แบรนด์แห่งความสุขและรอยยิ้ม”ผ่านโฆษณา ประชาสัมพันธ์ กิจกรรมการตลาด และกิจกรรมเพื่อสังคม รวมถึงการสื่อสารผ่านช่องทางสังคมออนไลน์ ทั้ง LINE ApplicationFacebook Instagram ซึ่งสอดคล้องไปกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคปัจจุบัน

นายสาระ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้คำนึงถึงการจัดการภายในและโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจ เพื่อให้พร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เช่น การจัดทำและทบทวนแผนการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management) การปรับปรุงอาคารสำนักงานและสิ่งอำนวยความสะดวกในที่ทำงาน เพื่อให้รับกับเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งกำลังเข้าสู่วัยทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นต้น นับเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญเช่นกัน

ขณะที่การเปิดสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community-AEC) นั้น นายสาระกล่าวว่า นับเป็นโอกาสสำหรับเมืองไทยประกันชีวิต ที่จะขยายธุรกิจออกไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านในอนาคตภายใต้กฎหมายของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) เนื่องจากปัจจุบันยังมีสัดส่วนประชากรที่ทำประกันชีวิตอยู่ค่อนข้างน้อย จึงมีศักยภาพสูงที่จะเติบโตในอนาคตได้อีกมาก รวมถึงประเทศไทยมีความเหมาะสมในแง่ภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ประกอบกับบริษัทฯ มีประสบการณ์ทำตลาดด้วยสินค้าในกลุ่มความคุ้มครองชีวิต ซึ่งเป็นพื้นฐานของการประกันชีวิตอยู่แล้ว
 
 
 
 
“เรามองว่าเทรนด์ต่างๆ ที่กำลังจะมา ทั้งเทรนด์เรื่องดิจิตอล เรื่องเออีซี รวมไปถึงเทรนด์เรื่องสุขภาพและสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) ล้วนเป็นโอกาสสำหรับเมืองไทยประกันชีวิตทั้งสิ้น ซึ่งปีนี้จะเห็นเราเข้ามาตอบรับกับเทรนด์เหล่านี้อย่างชัดเจนแน่นอน ขณะเดียวกันเราก็จะทำให้ล้อเป็นภาพเดียวกันไปกับกลยุทธ์หลักที่ทำอยู่เดิม ทั้งเรื่องการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การทำตลาดผ่านหลากหลายช่องทาง และการบริหารด้วยความเป็นมืออาชีพ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง แข็งแกร่ง และยั่งยืน โดยในปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถสร้างเบี้ยประกันรับรวมเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรม หรือเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 18%” นายสาระ กล่าว

บันทึกโดย : วันที่ : 26 ม.ค. 2558 เวลา : 13:01:28
31-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 31, 2024, 12:43 pm