การตลาด
สกู๊ป "เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมท สกรีน" ผนึกพันธมิตร ดั๊มพ์ราคาตั๋วหนัง


ถือเป็นโรงภาพยนตร์หรูที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ สำหรับโรงภาพยนตร์ "เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมท สกรีน" ซึ่งหลังจากเริ่มเปิดให้บริการเมื่อกลางปี 2557 ที่ผ่านมา ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ พบว่า ได้ผลการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ แม้ราคาบัตรเข้าชมจะแพงกว่าโรงภาพยนตร์ทั่วไปหลายเท่าตัวก็ตาม


 
 
 
ปัจจัยที่ทำให้โรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมท สกรีน มีราคาแพงกว่าโรงภาพยนตร์ทั่วไป หลักๆ เกิดจากการอัพเกรดบริการที่เหนือระดับนับตั้งแต่เดินเข้าโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นโถงรับแขก การบริการอาหาร หรือเก้าอี้นั่งในการชมภาพยนตร์ ซึ่งที่สุดของบริการดังกล่าว บริษัท เอ็กซ์เซ็คคิวทีฟ ซีนีมาส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจโรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมท สกรีน แบ่งความที่สุดของการบริการออกเป็น 10 ข้อดังนี้ 

ข้อที่ 1.การใช้งบลงทุนสูงที่สุด เนื่องจากโรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมท สกรีน เน้นตกแต่งหรูหราระดับ 6 ดาว จำนวน 5  โรง จึงทำให้ต้องใช้งบในการลงทุนสูงถึง 120 ล้านบาท
 
 
 
 
2.ราคาที่นั่งสูงที่สุดในไทยและในโลก เนื่องจากตกแต่งด้วยความหรูหราและมีบริการที่เหนือระดับ จึงทำให้ราคาที่นั่งในโรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมท สกรีน มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 900 บาทต่อที่นั่ง

ส่วนความที่สุดข้อที่ 3. คือ Category Exclusive Partner มากที่สุด เห็นได้จากการมีแคเทกอรี เอ็กซ์คลูซีฟ พาร์ทเนอร์ มากที่สุดถึง 8 แบรนด์ ได้แก่ เอไอเอส, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, โนเบิล, เมอร์เซเดซ เบนซ์, ธนาคารกรุงเทพ, ไฮเนเก้น,เป็ปซี่, สายการบินเอมิเรสต์ ใน 5 โรงภาพยนตร์ และทางพารท์เนอร์จะมีกิจกรรมทางการตลาดเพื่อให้สิทธิประโยชน์ร่วมกัน

4.ออกแบบโดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงที่ได้รับรางวัลมากที่สุด กลุ่ม ร๊อกเวลล์กรุ๊ป ยุโรป เนรมิตรให้บริเวณโถงด้านหน้าโรงภาพยนตร์ออกแบบด้วยเหล็กสีทองที่ห่อหุ้มด้วยสีทอง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการขดตัวของขดฟิลม์ 35 มม.ซึ่งเป็นที่มาของโลกเซลลูลอยด์ที่ใช้ในการสร้างภาพยนตร์ โถงสีทองอร่ามจะเป็นการออกแบบ แบบไร้รอยต่อพาดยาวจากโถงทางเข้าด้านหน้า บ๊อกซ์ออฟฟิศ กรูเมต์บาร์ และทางเข้าเลานจ์ ซึ่งเป็นห้องรับรองก่อนเข้าชมในทั้ง 5 โรงภาพยนตร์ โดยภาพสีทองอร่ามแสดงความหรูหรา สไตล์ฮอลลีวูด เสมือนต้อนรับท่านสู่เรดคาร์เพทเข้าโรงภาพยนตร์ในงานออสการ์

 
 
 
ขณะที่ข้อ 5. คือ ที่สุดของความเอ็กซ์คลูซีฟ  โรงภาพยนตร์ที่ 1 จะมี เลานจ์พิเศษส่วนตัว บาร์ส่วนตัว พื้นที่รับรองพิเศษที่มีเวทีพร้อมรับการจัดงานแบบไพรเวทฟังก์ชั่น สำหรับบริเวณโถงโรงภาพยนตร์ ทางสถาปนิกได้ทะลายกรอบของนิยามโรงภาพยนตร์ออกไป ซึ่งปกติทุกท่านจะชมภาพยนตร์เรียงยาวเป็นแถวๆ แต่ในโรงพิเศษนี้ เป็นการจัดวางชุดโซฟา และเคานช์ยาวที่ไม่เหมือนกันทุกที่นั่ง แตกต่างกันไป เปรียบเสมือนหยิบยืมเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นมาวางไว้ในโรงภาพยนตร์

6.ที่สุดของการปรับแต่งที่นั่งตามเนื้อหาภาพยนตร์ ในส่วนของโรงภาพยนตร์ที่ 1 สามารถจุได้ 33 ที่นั่ง ได้แบ่งประเภทเก้าอี้หลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ไม่ว่าจะมาเดี่ยว ใสแบบคู่รัก กลุ่มเพื่อน แบบครอบครัว 7.ฉายภาพยนตร์ระดับรางวัลมากที่สุด มูฟวี่ คิวเรเตอร์ ของโรงภาพยนตร์ จะทำการคัดสรรภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับฮอลลีวู้ด และภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลต่างๆ ทั้งรางวัลออสการ์ รางวัลคานส์ และจากกเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลก รวมถึงรางวัลลูกโลกทองคำ

8.ที่สุดของการบริการ มี เจ้าหน้าที่ มูฟวี่ คอนเซียส ที่จะให้บริการมาตรฐานเดียวกับโรงแรม 6 ดาว เป็นที่ปรึกษาแนะนำภาพยนตร์ และอำนวยความสะดวกดูแลบริการลูกค้าอย่างใกล้ชิด  
 
9. Welcome Set ที่หรูที่สุด อาหารที่นำมาบริการจะมีการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี พร้อมเครื่องดื่มที่หลากหลาย  
 
และ 10.ระบบฉายที่ดีที่สุด  ทั้ง 5 โรงภาพยนตร์ฉายผ่านระบบ เรียล ดี เอ็กซ์แอล ซึ่งเป็นระบบฉายใหม่ล่าสุด คมชัดสมจริง และสว่างเป็นสองเท่าของทุกระบบสามมิติ ระบบเสียงที่ล้ำสมัยที่สุด

นายจิม แพตเตอร์สัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์เซ็คคิวทีฟ ซีนีมา คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารโรงภาพยนตร์  “เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมท สกรีน” กล่าวว่า  แนวทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะเน้นการจับมือกับสปอนเซอร์ เพื่อทำโปรโมชั่นร่วมกันมากขึ้น เนื่องจากบริษัทต้องการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ซึ่งขณะนี้แนวทางการทำตลาดดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการเจรจา

จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้ บริษัท เอ็กซ์เซ็คคิวทีฟ ซีนีม่า คอร์ปอเรชั่น  มีแผนที่จะหาสปอนเซอร์เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 3 ราย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจจากเดิมที่มีสปอนเซอร์ 7 ราย ได้แก่ เอไอเอส, เบนซ์, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, สายการบินเอมิเรตส์ และโนเบิลเฮ้าส์  ซึ่งแต่ละรายมีอายุสัญญา 3 ปี  ส่วนพันธมิตรที่ให้ความสนใจและอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ในขณะนี้ คือ  กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า  
 

 
 
อย่างไรก็ดี ในส่วนของลูกค้าที่เป็นสมาชิกของพันธมิตรเดิม สามารถรับสิทธิพิเศษและส่วนลดต่างๆ ได้ตามปกติ เช่น รับส่วนลดสูงสุด 50% แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกว่า 70% จะใช้ส่วนลด 20%  เพื่อซื้อบัตรชมภาพยนตร์ในราคา 720 บาทในวันธรรมดา และ 800 บาทในวันหยุด และเร็วๆ นี้ โรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมท สกรีน ก็เตรียมทำแคมเปญลดราคาบัตรเหลือกว่า 600 กว่าบาท หรือในส่วนของลูกค้าขาจรที่ได้เป็นสมาชิกของพันธมิตรอีกด้วย

หลังจากออกมาทำกิจกรมส่งเสริมการขายมากขึ้น บริษัท เอ็กซ์เซ็คคิวทีฟ ซีนีมา คอร์ปอเรชั่น มั่นใจว่า สิ้นปีนี้จะมีรายได้จากธุรกิจโรงภพยนตร์เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมท สกรีน ไม่ต่ำกว่า 93 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการขายบัตรชมภาพยนตร์ 70 ล้านบาท รายได้จากสปอนเซอร์ 20 ล้านบาท และรายได้จากคอนเซสชั่นหรืออาหารและเครื่องดื่มประมาณ 3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วสิ้นปี  2557 ที่มีรายได้ประมาณ  50 ล้านบาท เนื่องจากเพิ่งเริ่มเปิดดำเนินกิจการได้ประมาณ 6 เดือน

ปัจจุบัน มีลูกค้าประมาณ 4,000 รายต่อเดือน มีอัตราการเข้าใช้บริการประมาณ 30% ตั้งเป้าหมายเพิ่มลูกค้าอีก 20-25% และเพิ่มอัตราการเข้าชมเป็น 40% ในปี 2558 โดยลูกค้าเป็นคนไทย 50% และเป็นต่างชาติ 50% (แบ่งเป็นคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย 90% และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10%)

นายจิม กล่าวต่อว่า หลังจากบริษัทออกมาทำกิจกรรมการตลาดมากขึ้น มั่นใจว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 3 ปีนับจากนี้ ซึ่งถือว่าเร็วกว่าการทำธุรกิจโรงภาพยนตร์ทั่วไปที่จะใช้ระยะเวลาในการคืนทุนประมาณ 7 ปี  เนื่องจากปัจจุบันโรงภาพยนตร์ในรูปแบบดังกล่าวยังไม่มีคู่แข่งเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง ประกอบกับแนวโน้มของตลาดการชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ระดับพรีเมียมยังมีการเติบโตที่ดี บริษัทจึงมั่นใจว่าจะถึงจุดคุ้มทุนตามแผนงานที่วางไว้อย่างแน่นอน

แม้ว่าปัจจุบันคู่แข่งของการทำธุรกิจโรงภาพยนตร์ระดับพรีเมี่ยมจะยังมีคู่แข่งน้อย แต่ในอนาคตเชื่อว่าการแข่งขันของตลาดโรงภาพยนตร์ดังกล่าวต้องมีการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากในอนาคตอันใกล้จะมีศูนย์การค้าหรูเกิดขึ้นหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อาจทำให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดต้องเพิ่มความเข้มข้นของกลยุทธ์การส่งเสริมการขายให้มากขึ้น

นอกจากนี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ยังคงอยู่ในสภาวะที่ผันผวน แม้ว่าโรงภาพยนตร์ระดับพรีเมี่ยมจะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อ แต่หากเศรษฐกิจไม่ดีคนกลุ่มนี้ก็พร้อมที่จะเก็บเงินไว้ในกระเป๋าเช่นกัน เนื่องจากมู้ดในการจับจ่ายใช้สอยไม่มี ดังนั้นการทำการตลาดให้ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมายจึงมีความสำคัญมากที่สุด เพราะคนที่มีกำลังซื้อดีก็ชอบของถูกและลดราคาไม่ต่างอะไรกับกลุ่มคนทั่วไป

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 ก.พ. 2558 เวลา : 09:15:03
27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 9:38 am